วันวาเลนไทน์หรือวันแห่งความรักใกล้เข้ามา สินค้าที่เกี่ยวข้องกับความรักเช่นดอกกุหลาบอันถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของความรักเริ่มมีราคาแพงขึ้น แม้ว่าวันวาเลนไทน์จะไม่ได้เกิดขึ้นตามประเพณีไทย แต่ก็คนก็ได้ถือปฏิบัติจัดกิจกรรมในวันแห่งความรักนี้มาหลายปีแล้ว
วันวาเลนไทน์นั้นมาจากชื่อของนักบุญวาเลนไทน์ นักบวชในคริสตศาสนานิกายแคทอลิค ที่ขัดบทบัญญัติแห่งกฎหมายของจักรพรรดิคลอดิอุสที่สอง แห่งกรุงโรม ที่ประกาศให้ยกเลิกงานแต่งงานและงานหมั้นทั้งหมดในกรุงโรม แต่บาทหลวงวาเลนไทน์ไม่เห็นด้วยยังคงจัดพิธีแต่งงานให้หนุ่มสาวที่ต้องการแต่งงานอย่างลับ ๆ และแล้ววันหนึ่งข่าวการทำ พิธีสมรสของนักบุญวาเลนไทน์ก็รู้ถึงหูของจักรวพรรดิ พระองค์จึงทรงสั่งทหาร ไปจับเขาไปประหารชีวิต
ต่อมาจึงได้มีการยกย่องให้วันที่ 14 กุมภาพันธ์เป็นวันวาเลนไทน์ เพื่อเป็นอนุสรณ์ให้รำลึกถึงคุณความดี ความกล้าหาญ และความเสียสละของนักบุญ วาเลนไทน์ เราจึงมักถือเอาวันนี้เป็นวันแห่งความรัก ในระยะต่อมาวันวาเลนไทน์ ใช้แทนความรักของหนุ่มสาวเป็นส่วนใหญ่ โดยในวันนี้จะมีการส่งช็อคโกแลต ดอกกุหลาบให้กับคนที่รัก นัยว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งการบอกรัก หากหาดอกกุหลาบไม่ได้จริงๆ ดอกไม้ชนิดอื่นก็ย่อมใช้ได้ เพราะดอกไม้คือความสดชื่นสวยงาม
หนุ่มสาวไทยได้รับวัฒนธรรมนี้เข้ามาและบางแห่งมีการจัดงานอย่างใหญ่โต มีพิธีแต่งงานแปลกๆเกิดขึ้นในวันนี้ แต่หลังจากแต่งงานแล้วจะอยู่ด้วยกันยาวนานมากน้อยแค่ไหนเป็นอีกเรื่องหนึ่ง คนบางคนเห็นกันครั้งแรกก็เกิดรักขึ้นมาเลย แต่บางคนเห็นแล้วเฉยๆ ใครเคยมีความรู้สึกแบบนี้บ้าง
ในพระพุทธศาสนาได้แสดงเหตุเกิดของความรักไว้สองประการ ดังที่ปรากฎในสาเกตชาดก ขุททกนิกาย (๒๗/๓๒๓-๓๒๔) เมื่อมีผู้เข้าไปถามว่า “เหตุไรหนอเมื่อบุคคลบางคนในโลกนี้ พอเห็นกันเข้าก็เฉย ๆ หัวใจก็เฉย บางคนพอเห็นกันเข้าจิตก็เลื่อมใส”
พระพุทธเจ้าจึงตอบว่า “ความรักนั้นเกิดขึ้นด้วยเหตุสองประการคือการอยู่ร่วมกันในกาลก่อน และความเกื้อกูลต่อกันในปัจจุบัน เหมือนดอกอุบลและชลชาติ เมื่อเกิดในน้ำ ย่อมเกิดเพราะอาศัยเหตุสองประการ คือน้ำและเปือกตมฉะนั้น” สรุปว่าตามทัศนะของพระพุทธศาสนาคนจะรักกันนั้นเพราะบุพเพสันนิวาสเรียกว่ารักแรกพบ และการช่วยเหลือเกื้อกูลกันในปัจจุบัน
มีผู้นำมาประพันธ์เป็นคำกลอนไว้อย่างน่าฟังว่า
เหตุแห่งรักท่านชี้ว่ามีสอง หนึ่งเคยปองครองรักสมัครสมาน
โดยบุพเพนิยมมานมนาน พอได้พานพบรักสมัครใจ
สองปัจจุบันหมั่นเกื้อเอื้อเฟื้อพร้อม รักก็ย่อมเกิดขึ้นมาอย่าสงสัย
ดังอุบลต้นกอละออใบ ย่อมอาศัยตมและน้ำงอกงามเอย ฯ
มีสุภาษิตไทยอยู่บทหนึ่งกล่าวถึงเรื่องของคนหนุ่มสาวไว้ว่าน่าคิดว่า “อย่าชิงสุกก่อนห่าม” หมายถึงแม้จะรักกันก็ควรรอเวลาอันสมควร เพราะการที่คนสองคนจะใช้ชีวิตร่วมกันได้นั้นต้องมีความรักและความเข้าใจกันเป็นพื้นฐาน ผลไม้ถ้ารีบกินก่อนสุกจะไม่อร่อยต้องรอให้สุกเต็มที่เสียก่อน
หนุ่มสาวเมียนมาร์ เมื่อเป็นคู่รักกันจะพากันไปวัด ถวายภัตตาหารแด่พระสงฆ์ ไหว้พระ จากนั้นจะนำอาหารที่เหลือมานั่งรับประทานทานด้วยกัน พูดคุยกันไปภายในบริเวณวัด ข้าง ๆ พระพุทธรูปที่ตนเองเคารพสักการะนั่นเอง หนุ่มสาวคู่นี้กำลังทานข้าวข้างๆหลวงพ่อตาหวาน ย่างกุ้ง ความรักแบบนี้มีพระเป็นพยาน
พระมหาบุญไทย ปุญญมโน
เรียบเรียง
๑๑/๐๒/๕๓
cybervanaram.net