เสียงพลุถูกจุดขึ้นสนั่นระลอกแล้วระลอกเล่า!
ฉันเงยหน้าขึ้นจากจอคอมพิวเตอร์ มองไปยังบนฟ้าราวกับสายตาของฉันสามารถมองทะลุออกไปยังนอกผนังได้ เสียงกึกก้องของพลุที่ดังเป็นระยะ บ่งบอกถึงบรรยากาศของค่ำคืนลอยกระทงได้อย่างแทบไม่ต้องจินตนาการตาม วันนี้วันเพ็ญเดือน 12 หรือที่เราเรียกกันว่า “วันลอยกระทง” วันลอยกระทงไม่ว่าจะเป็นปีไหน เชื่อว่าวันนี้ย่อมเป็นเทศกาลที่นำมาซึ่งความสนุก ตื่นตาตื่นใจและทำให้หลายคนเที่ยวงานเทศกาลนี้ ถือกระทงสวยๆ ไปลอยด้วยความสุขไม่น้อยทีเดียว
ทว่าท่ามกลางวันคืนที่แสงสีเสียงรอบข้างถูกจัดขึ้นอย่างครึกครื้นตื่นตา ท่ามกลางบรรยากาศที่คู่รักควงแขนกันไปลอย โดยมีแสงเทียนรำไรพร่างพราว อำนวยพรให้ทั้งคู่ได้รับโชคดีอย่างโรแมนติก ท่ามกลางพ่อแม่ที่จูงลูกให้ไปนั่งอธิษฐานแล้วค่อยๆ ปล่อยกระทงให้ลอยสู่สายน้ำ มือน้อยๆ ค่อยๆ วักน้ำไล่เพื่อให้กระแสสายน้ำเคลื่อนกระทงให้ลอยห่างจากตลิ่งไปไกลเรื่อยๆ คนที่ไปลอยเป็นคู่เขามีความสุข คนที่ไปลอยกันเป็นครอบครัวก็มีความสุข ส่วนคนที่ลอยคนเดียวก็คงแอบเปลี่ยวใจไม่น้อย
ขณะเดียวกัน ท่ามกลางคืนค่ำแห่งวันเพ็ญเดือนสิบสอง ยังมีใครอีกหลายคนที่ไม่ได้ออกไปลอยกระทง ยังมีใครอีกหลายคนที่ได้แต่นั่งอยู่ภายในห้องอย่างเงียบเหงา ฟังเสียงเรื่องราวของพลุ มองภาพกระทงที่ค่อยๆ ลอยห่างจากมือที่เพิ่งหย่อนมันลงผืนน้ำอย่างบรรจงเมื่อครู่ เหล่านี้…คือภาพในจินตนาการของฉันที่สัมผัสได้เพียงบางเบา เหมือนเรื่องเล่าในตำนานที่มิอาจกระโดดเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์นั้นได้
4 ปีแล้วที่ฉันไม่ได้ไปลอยกระทงที่ไหน คืนวันลอยกระทงจึงเป็นเพียงคืนวันธรรมดาที่ผ่านเข้ามาเพียงเพื่อผ่านไป แม้ในใจเคยแอบหวังเล็กๆ ว่าหากมีใครชวนไปเที่ยวลอยกระทงบ้างคงจะดี แต่เมื่อมานึกดูใช่ว่าไปลอยกระทงแล้วจะมีความสุขหรือสนุกเสมอไปเสียเมื่อไร เมื่อเทียบกับการได้นั่งเงียบๆ ภายในห้องที่มีแต่ความสงบ ความสงบแม้เหงา แม้อ้างว้าง แต่อย่างน้อยก็ไม่ต้องทำให้ฉันเดินเข้าไปเบียดเสียดเพื่อแย่งชิงพื้นที่ลอยความสุขกับใคร ไม่ต้องทนกลั้นหายใจหากลมหายใจสัมผัสได้ถึงกลิ่นบุหรี่หรือกลิ่นแปลกปลอมอันประหลาดพัดผ่านมา
แสงสีเสียง ฉันจะปล่อยให้มันกลายเป็นเพียงสายลมเลยผ่าน เทศกาลไม่ว่าจะลอยกระทง คริสมาสต์หรือปีใหม่ ฉันก็จะปล่อยให้มันเป็นไปอย่างธรรมดาแบบนี้ทุกวัน เพราะวันเหล่านั้นคือวันสมมติ สมมติว่าเราจะต้องควงแขนคนรักไปเที่ยวเทศกาลอย่างมีความสุข สมมติเราจะต้องจูงมือลูกออกจากบ้านไปสัมผัสความอลังการแห่งสถานที่ที่แออัด ซึ่งถูกตบแต่งอย่างน่าตื่นตา ทว่าหลังกลับมาถึงบ้าน ทุกคนอาจจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “เหนื่อย” และอยากรีบล้มตัวนอนในทันทีเลยก็ได้
ค่ำคืนนี้สำหรับฉันแล้ว นับว่าโชคดีอย่างอัศจรรย์ ฉันไม่ต้องเสียตังค์สักบาทในการออกจากบ้านเพื่อไปซื้อความสุขลอยออกจากฝั่ง แล้วที่สุดมันก็จะกลายเป็นเพียงกระทงขยะ เป็นเศษซากเน่าของพระแม่คงคา นี่หรือ…คือการตอบแทนคุณพระแม่คงคาที่งดงาม มือของฉันว่างเปล่าไม่มีกระทงไปลอยเพื่อให้มันลอยหวนกลับมาติดตลิ่งดังเดิม ไม่ต้องลำบากคนคอยเก็บซากขยะกระทงในวันรุ่ง ฉันรักพระแม่คงคา ฉันรักทรัพยากรธรรมชาติ ฉันมั่นใจว่าการไม่ได้ลอยสิ่งใดลงสู่แม่น้ำให้สกปรก เพียงฉันอยู่บ้าน ทำงานเงียบๆ แต่ทำจิตใจให้ผ่องใสสะอาด ระลึกถึงคุณพระแม่คงคาอย่างซาบซึ้งใจ
ฉันว่านี่คือการลอยทุกข์ที่จะทำให้เราได้รับความสุข…ลอยหวนกลับมาติดตลิ่งหัวใจดังเดิมได้อย่างดีเยี่ยมที่สุดแล้ว
ภาพประกอบภาพแรกน่าจะเป็นภาพที่ซื้อมา (ช่วงทำเว็บไซต์สมัยแรก ๆ ซื้อภาพเยอะมาก)
ส่วนอีก 2 ภาพ จากเว็บไซต์ pixabay.com