หลายคนเคยได้ยินโรคอีโบลา หรือโรคซาส์กันไปสักพักใหญ่แล้ว และก็มั่นใจว่าเป็นโรคที่ไม่มีใครอยากเผชิญ เพราะพิษโรคของมันนั้นอันตรายมากมาย มาวันนี้ก็มีโรคที่น่ากลัวและอันตรายพอๆ กับโรคทั้งสองที่เราได้กล่าวมาเมื่อสักครู่เช่นกัน โรคที่เราหมายถึงก็คือ โรคไวรัสเมอร์สนั่นเอง
หลายคนคงจะเคยได้ยินผ่านหูมาก่อนกันแล้วใช่ไหมคะ แต่อย่าเพิ่งวิตกกังวลอะไรมากไป เพราะหากเรารู้ถึงวิธีการป้องกันโรคชนิดนี้ รับรองว่าเราสามารถรับมือกับมันได้อย่างสบายเลยละค่ะ ถ้างั้นตามไปอ่านอาการและวิธีการป้องกันโรคชนิดนี้พร้อมๆ กันค่ะ
มารู้จักโรคไวรัสเมอร์สกันก่อนดีกว่า
“ไวรัสเมอร์ส” หรือที่เราเคยได้ยินชื่อเรียกว่าเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ตะวันออก มาจากคำในภาษาอังกฤษว่า Middle East respiratory syndrome coronavirus (MERS-CoV) นั่นเอง ซึ่งเชื้อไวรัสชนิดนี้กำเนิดมาจากประเทศซาอุดีอารเบีย กล่าวคือมีแพะเป็นพาหะนำเชื้อไวรัส แต่ทั้งนี้ ก็เป็นข้อมูลที่ได้จากผลการวิจัยเกี่ยวกับโรคนี้โดยเฉพาะ สำหรับลักษณะของเชื้อไวรัสดังกล่าวก็มีความใกล้เคียงกับไวรัสโรคซาส์ ซึ่งเป็นโรคที่เคยดังกระหน่ำในแถบเอเชียเมื่อปี 2546 ที่ผ่านมานั่นเองค่ะ
อาการของโรคไวรัสเมอร์ส
สำหรับอาการของโรคไวรัสเมอร์สนั้น ผู้ป่วยจะมีอาการคล้ายกับโรคที่เกิดในระบบทางเดินหายใจ มีอาการไออย่างหนัก มีไข้สูง หายใจขัด และมีอาการถ่ายเหลวด้วย สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการหนักเกินไปนั้น อาจถึงขั้นเสียชีวิตภายใน 3-4 สัปดาห์ โดยส่วนใหญ่จะเกิดกับผู้สูงอายุเพศชาย ซึ่งเชื้อเหล่านั้นจะอยู่ในละอองน้ำมูกและน้ำลายของผู้ป่วย และเกิดการติดต่อจากการไอหรือจาม และอาจทำให้เกิดการติดต่อได้ง่าย หากไม่มีการป้องกันอย่างดี
วิธีป้องกันโรคไวรัสเมอร์สในขั้นเบื้องต้น
1. หลีกเลี่ยงการไปในสถานที่ที่มีผู้คนแออัดจนเกินไป
2. สวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งที่ต้องเดินทางหรือไปอยู่ท่ามกลางสถานที่ที่มีผู้คนอาศัยในจำนวนมาก
3. หากมีอาการไอหรือจาม ควรใช้ผ้าสะอาดหรือกระดาษซับปิดปากไว้
4. ใช้วิธีการกินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ เพราะเป็นวิธีที่ป้องกันโรคได้หลายชนิด
5. หมั่นให้เวลาตัวเองได้ออกกำลังกายและรักษาสุขภาพให้แข็งแรงอยู่ตลอดเวลา เพราะการออกกำลังกายคือวิธีหนึ่งที่จะทำให้เกิดโรคได้ยาก
6. หากมีอาการป่วยให้หมั่นไปพบแพทย์พร้อมกับแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบในส่วนของข้อมูล หากมีประวัติการเดินทางต่างประเทศที่มีการระบาดของเชื้อ
โรคไวรัสเมอร์สอาจไม่ใช่โรคที่น่ากลัวจนเกินไป หากเรารู้จักที่จะควบคุมและดูแลตัวเองให้ดี ไม่ว่าจะด้านการพบปะผู้คน หรือด้านการบริโภคอาหาร เพราะโรคชนิดนี้ ล้วนถูกแพร่เชื้อจากการอยู่ในกลุ่มคนที่แออัดนั่นเอง