ศีลข้อที่ ๑ คือ การเว้นจาการทำชีวิตสัตว์ให้ตกล่วงไป หมายถึง การไม่ฆ่าทั้งมนุษย์และสัตว์ดิรัจฉานที่มีชีวิตอยู่ทุกเพศทุกชนิด
คำสมาทานศีลข้อที่ ๑
ปาณาติปาตา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ ข้าพเจ้าขอสมาทานสิกขาบท คือ เว้นจากการฆ่าสัตว์ด้วยตนเอง และใช้ผู้อื่นฆ่า
องค์ประกอบของศีลข้อที่ ๑ หรือองค์ของปาณาติบาต มี ๕
๑. ปาโณ สัตว์มีชีวิต
๒. ปาณะสัญญิตา รู้ว่าสัตว์มีชีวิต
๓. วะธะกะจิตตัง มีจิตคิดฆ่า
๔. อุปักกะโม มีความพยายาม
๕. เตนะ มะระณัง สัตว์ตายด้วยความพยายามนั้น
ถ้าไม่ครบองค์ประกอบทั้ง 5 อย่างนี้ ไม่ผิดศีลข้อที่ 1 เช่น เห็นนกหล่นลงมา เราเข้าใจว่านกนั้นตายแล้ว โยนเข้ากองไฟ หรือนำไปฝังดินเสีย แต่นกนั้นจะตายเพราะความพยายามของเรา แต่เราไม่รู้ว่านกนั้นยังมีชีวิตอยู่ จิตคิดที่จะฆ่าก็ไม่มี จึงไม่ผิดศีลข้อที่ 1 ว่าด้วยปาณาติบาต
แต่พึงทำความเข้าใจว่า องค์ประกอบทั้ง 5 อย่างของปาณาติบาตนี้ เป็นเครื่องตัดสินว่าไม่ผิดศีลข้อที่ 1 เท่านั้น แต่ไม่ได้หมายความว่าไม่บาป เช่น เราแกล้งตบตีทำร้ายร่างกายคนอื่น หรือรังแกสุนัขจรจัด แม้สัตว์นั้นไม่ตาย ไม่เข้าองค์ประกอบแห่งศีลข้อที่ 1 ไม่ผิดศีล แต่ก็เป็นบาปกรรมได้เช่นกัน
ธรรมที่ส่งเสริมศีลข้อที่ ๑
เมตตา กรุณา คือ บุคคลใดที่มีเมตตาย่อมไม่ฆ่า ไม่เบียดเบียนผู้อื่น เพราะทราบดีว่าทุกชีวิตย่อมมี ความรักตัวกลัวตายเช่นเดียวกับเรา รักสุข เกลียดทุกข์ บุคคลควรทำตนให้เป็นอุปมา
อานิสงส์แห่งการรักษาศีลข้อที่ ๑
๑. บริบูรณ์ด้วยอวัยวะน้อยใหญ่ คือร่างกายไม่พิกลพิการ
๒. มีกายสูงและสมส่วน
๓. สมบูรณ์ด้วยความคล่องแคล่ว
๔. เป็นผู้มีเท้าประดิษฐานลงด้วยดี
๕. เป็นผู้สดใสรุ่งเรือง
๖. เป็นคนสะอาด
๗. เป็นคนอ่อนโยน
๘. เป็นคนมีความสุข
๙. เป็นคนแกล้วกล้า
๑๐.เป็นคนมีกำลังมาก
๑๑.มีถ้อยคำสละสลวยเพราะพริ้ง
๑๒.มีบริษัทบริวารมิได้พลัดพรากจากตน
๑๓.เป็นคนไม่สะดุ้งตกใจกลัว
๑๔ ข้าศึกศัตรูทำร้ายมิได้
๑๕.ไม่ตายด้วยความเพียรของผู้อื่น
๑๖.มีบริวารหาที่สุดมิได้
๑๗.รูปสวย
๑๘.ทรวดทรงสมส่วน
๑๙.ป่วยไข้น้อย
๒๐.ไม่มีเรื่องเสียใจ
๒๑.เป็นที่รักของชาวโลก
๒๒.มิได้พลัดพรากจากผู้หรือสิ่งที่รักและชอบใจ
๒๓.มีอายุยืน
ที่มา อานิสงส์ของการรักษาศีลข้อที่ 1