Skip to content
พระคุ้มครอง

วัตถุมงคล พระเครื่อง เครื่องราง คาถา สิ่งศักดิ์สิทธิ์

  • Home
  • ทำบุญ
  • ธรรมะ
  • คาถา
  • นิทาน
  • นำโชค
  • เรื่องผี
  • ตำนาน
  • หนังสือ
  • เรียกจิต
  • ประเพณี
  • ภาษาวัด
  • ทายนิสัย
  • พระเครื่อง
  • เครื่องราง
  • นานาสาระ
  • ยาสมุนไพร
  • พระสายกรรมฐาน
พระคุ้มครอง

วัตถุมงคล พระเครื่อง เครื่องราง คาถา สิ่งศักดิ์สิทธิ์

ถวายผ้าอาบน้ำฝน อานิสงส์มากล้นตามพุทธประทานพร

พระคุ้มครอง, 6 มิถุนายน 202117 กรกฎาคม 2021
เห็นว่าบทความนี้มีประโยชน์ โปรดแชร์....

ถวายผ้าอาบน้ำฝน
ถวายผ้าอาบน้ำฝน

มูลเหตุแห่งการถวายผ้าอาบน้ำฝน

ครั้งหนึ่งสมัยพุทธกาล พระศาสดาประทับ ณ พระเชตวันมหาวิหาร เมืองสาวัตถี นางวิสาขาได้มาฟังธรรม แล้วเกิดความเลื่อมใสศรัทธายิ่งนัก จึงได้ทูลอาราธนาพระศาสดาและหมู่พระภิกษุสงฆ์ไปฉันที่บ้านของนางในวันรุ่งขึ้น

เช้าวันนั้น เกิดฝนตกครั้งใหญ่ ตกในทวีปทั้ง 4 พระศาสดาจึงรับสั่งให้ภิกษุทั้งหลายสรงสนานกาย พระสงฆ์ทั้งหลายที่ไม่มีผ้าอาบน้ำฝนจึงออกมาสรงน้ำฝนโดยร่างเปลือยกายอยู่

เมื่อได้เวลาภัตตาหาร นางวิสาขามหาอุบสิกาจึงได้ส่งสาวใช้ไปกราบทูลอาราธนาพระศาสดาและนิมนต์ภิกษุมารับภัตตาหารที่บ้านของตน เมื่อนางทาสีไปถึงที่วัดเห็นภิกษุทั้งเปลื้องผ้าสรงสนานกาย ก็เข้าใจว่า ในอารามมีแต่พวกชีเปลือย (อาชีวกนอกพระพุทธศาสนา) ไม่มีภิกษุอยู่จึงกลับบ้าน ส่วนนางวิสาขานั้นเป็นสตรีที่ฉลาดรู้แจ้งในเหตุการณ์ทั้งปวง จึงได้ส่งสาวใช้ไปอีกครั้ง

เมื่อถวายภัตตาหารแก่พระสงฆ์มีพระพุทธเจ้าเป็นประมุขในวันนั้นแล้ว นางจึงได้โอกาสอันควรทูลขอพร 8 ประการต่อพระศาสดา

พระศาสดาทรงอนุญาตพร 8 ประการคือ

  1. ขอถวายผ้าวัสสิกสาฎก (ผ้าอาบน้ำ) แก่พระสงฆ์เพื่อปกปิดความเปลือยกาย (ผ้าวัสสิกสาฎก)
  2. ขอถวายภัตแต่พระอาคันตุกะ เนื่องจากพระอาคันตุกะไม่ชำนาญหนทาง (อาคันตุกภัต)
  3. ขอถวายคมิกภัตแก่พระผู้เตรียมตัวเดินทาง เพื่อจะได้ไม่พลัดจากหมู่เกวียน (คมิกภัต)
  4. ขอถวายคิลานภัตแก่พระอาพาธ เพื่อไม่ให้อาการอาพาธกำเริบ (คิลานภัต)
  5. ขอถวายภัตแก่พระผู้พยาบาลพระอาพาธ เพื่อให้ท่านนำคิลานภัตไปถวายพระอาพาธได้ตามเวลา และพระผู้พยาบาลจะได้ไม่อดอาหาร (คิลานุปัฏฐากภัต)
  6. ขอถวายคิลานเภสัชแก่พระอาพาธ เพื่อให้อาการอาพาธทุเลาลง (คิลานเภสัช)
  7. ขอถวายยาคูเป็นประจำแก่สงฆ์ (ยาคู คือข้าวต้มชนิดละเอียด)
  8. ขอถวายผ้าอุทกสาฎก ( ผ้าอุทกสาฎก ผ้าอาบน้ำใช้อาบน้ำได้ตลอดชีวิตสำหรับภิกษุณี) แก่ภิกษุณีสงฆ์เพื่อปกปิดความไม่งามและไม่ให้ถูกเย้ยยัน

โดยนางวิสาขาได้ให้เหตุผลการถวายผ้าอาบน้ำฝนว่า เพื่อให้ใช้ปกปิดความเปลือยกายในเวลาสรงน้ำฝนของพระสงฆ์ที่ดูไม่งามดังกล่าว (ส่วนข้ออื่น ๆ นางก็ให้เหตุผลเช่นกัน) ดังนั้น นางวิสาขาจึงเป็นอุบาสิกาคนแรกที่ได้รับอนุญาตให้ถวายผ้าอาบน้ำฝน (วัสสิกสาฏก) แก่พระสงฆ์

วิธีเลือกผ้าอาบน้ำฝน

  • ขนาดของผ้าอาบน้ำฝน เมื่อเทียบกับมาตราวัดในปัจจุบัน ผมไม่ทราบแน่ชัดว่าขนาดเท่าไหร่ แต่มีขนาดใกล้เคียงกับผ้าอันตรวาสก (ผ้าสบงสำหรับนุ่ง) แต่ไม่ควรยาวเกิน 200 เซนติเมตร ไม่ควรกว้างเกิน 100 เซนติเมตร ที่เห็นใช้กันความยาวอยู่ระหว่าง 170-250 เซนติเมตร ส่วนความกว้างราว 80-90 เซนติเมตร ขนาดกว้าง ยาว หนา ต้องสามารถนุ่งได้จริง ห้ามให้บางจนเกินไป
  • ชนิดผ้า นิยมผ้าฝ้าย หรือผ้าชนิดอื่นก็ได้ เป็นผ้าที่ใช้นุ่งอาบน้ำทุกวัน จนควรเป็นผ้าเนื้อหนา ทนต่อการบิด ไม่เปื่อยง่าย
  • สี นิยมสีดินใช้ย้อมผ้าอาบน้ำฝน สีออกลักษณะคล้ายโอ่งแดง หรือหากไม่รู้ว่าควรจะย้อมสีใดเป็นผ้าอาบน้ำฝนถวายพระ ควรถวายผ้าฝ้ายสีขาวเพื่อให้ท่านทำการย้อมเอง
  • เนื่องจากผ้าอาบน้ำฝนพระสงฆ์ท่านนิยมนุ่งซ้อนข้างในผ้าสบง หรือนิยมนุ่งเวลาทำงานที่ต้องออกแรง ทำความสะอาดบริเวณวัด จึงควรเลือก ขนาด สี ความหนา เนื้อผ้าที่สามารถใช้งานได้จริง นุ่งได้จริง ไม่ใช่ถวายสักแต่ว่าถวายหรือถวายแค่พอเป็นพิธี ต้องถวายเพื่อให้ท่านได้ใช้งานจริง ๆ

ถวายผ้าอาบน้ําฝนช่วงไหน

พระพุทธองค์ทรงวางกรอบเวลาหรือเขตกาลสำหรับผ้าอาบน้ำฝนดังนี้

  1. เขตกาลที่จะแสวงหา หมายถึงช่วงเวลาสำหรับการแสวงหาผ้า รวบรวมผ้าจากที่ต่าง ๆ ผ้าบังสุกุล ผ้าที่เขาทิ้งตามที่ต่าง ๆ เพื่อทำผ้าอาบน้ำฝน ตั้งแต่แรม 1 ค่ำ เดือน 7 ถึงวันขึ้น 15 ดือน 8 รวมเวลา 1 เดือน
  2. เขตกาลที่จะทำนุ่งห่ม หมายถึงช่วงเวลาสำหรับการตัด เย็บ ย้อมเพื่อทำผ้าอาบน้ำฝน ตั้งแต่ขึ้น 1 ค่ำ เดือน 8 ถึงวันขึ้น 15 เดือน 8 รวมเวลาประมาณ 15 วัน (15 วันนี้ รวมอยู่ในระยะเวลา 1 เดือนของข้อแรก หมายความว่าใช้เวลาแสวงหาผ้า 15 วัน ทำการตัด เย็บ ย้อม 15 วัน รวมเป็น 1 เดือน)
  3. เขตกาลที่จะอธิษฐานใช้สอย หมายถึงช่วงเวลาที่จะอธิษฐานใช้ คือช่วงเวลาที่นำมานุ่งเพื่ออาบน้ำฝนจริง ๆ ช่วงเข้าพรรษา ตั้งแต่แรม 1 ค่ำ เดือน 8 ถึงวันขึ้น 15 เดือน 12 รวมเวลา 4 เดือน

สำหรับพุทธศาสนิกชนผู้มีศรัทธาสามารถที่จะถวายผ้าอาบน้ำฝนได้ตั้งแต่วันพระสงฆ์เริ่มแสวงหาผ้า คือวันแรม 1 ค่ำ เดือน 7 จนถึงวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8

ทำไมต้องถวายผ้าอาบน้ำฝนแก่พระสงฆ์

  • เป็นการตามคำสอนของพระพุทธเจ้าในข้อที่ว่าด้วยการให้ทาน จึงเป็นการปฏิบัติบูชาต่อพระองค์
  • เป็นการปฏิบัติต่อพรที่พระพุทธองค์ทรงประทานแก่นางวิสาขา
  • เป็นการปฏิบัติตามนางวิสาขาอริยมหาอุบาสิกาผู้ยิ่งหใหญ่
  • เพื่อให้พระสงฆ์ได้นุ่งอาบน้ำ ผลัดเปลี่ยนผ้านุ่ง หรือใช้นุ่งทำกิจกรรมในวัด
  • เพื่อเป็นการปฏิบัติต่อประเพณีที่ดีงาม ทั้งประเพณีในพระพุทธศาสนาและประเพณีไทย
  • เพื่อไม่ให้พระสงฆ์ลำบากในการแสวงหาผ้าในที่ต่าง ๆ
  • เพื่อเป็นการบูชาพระคุณของพระสงฆ์ ครูอาจารย์
  • การถวายผ้าอาบน้ำฝนเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ส่งเสริมความสามัคคีภายในครอบครัว
  • ถวายผ้าอาบน้ำฝนเพื่อหวังบุญหรืออานิสงส์แห่งบุญช่วยหนุนชีวิต ชำระสิ่งที่ไม่ดีออกไป นำความชุ่มชื่นมาให้
  • ถวายผ้าอาบน้ำฝนเพื่ออุทิศส่วนบุญให้กับผู้ล่วงลับไป

คำถวายผ้าอาบน้ำฝน

อิมานิ มะยัง ภันเต วัสสิกะสาฏิกานิ สะปะริวารานิ ภิกขุสังฆัสสะ โอโณชะยามะ สาธุ โน ภันเต ภิกขุสังโฆ อิมานิ วัสสิกะสาฏิกานิ สะปะริวารานิ ปะฏิคคันหาตุ อัมหากัง ทีฆะรัตตัง หิตายะ สุขายะ

ข้าแต่พระสงฆ์ผู้เจริญ ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอน้อมถวายผ้าอาบน้ำฝนกับบริวารทั้งหลายเหล่านี้ แด่พระภิกษุสงฆ์ ขอพระภิกษุสงฆ์จงรับผ้าอาบน้ำฝนกับทั้งบริวารทั้งหลายเหล่านี้ เพื่อประโยชน์และความสุขแก่ข้าพเจ้าทั้งหลายสิ้นกาลนานเทอญ

อานิสงส์ของการถวายผ้าอาบน้ำฝน

ในสมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จประทับอยู่ในพระเชตวันมหาวิหาร ณ กรุงสาวัตถีในวันนั้นเป็นวัน ๘ ค่ำ นางวิสาขาได้ถือเครื่องสักการะ พร้อมด้วยบริวารเป็นอันมากไปสู่สำนักพระพุทธเจ้าถวายเครื่องสักการบูชาพระรัตนตรัยแล้วบังเอิญฝนตก พระภิกษุทั้งหลายได้เปลือยกายอาบน้ำฝนกันมากมาย นางวิสาขาเห็นเช่นนั้นแล้วก็เกิดความละอาย และคิดในใจว่าพระภิกษุไม่มีผ้าสำหรับอาบน้ำฝน ก็บังเกิดมีจิตศรัทธา คิดจะสร้างผ้าอาบน้ำฝนถวายเป็นทานแล้วก็กลับไปสู่กรุงสาวัตถี จัดแจงหาผ้าได้พอสมควรแล้วพอตอนเย็นก็พาบริวารและผ้านั้นมาสู่สำนักพระพุทธองค์แล้วถวายผ้าอาบน้ำฝนนั้น แก่องค์พระศาสดาพร้อมทั้งภิกษุทั้งหลายแล้วกราบทูลถามว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ การถวายผ้าอาบน้ำฝนนี้มีผลานิสงส์เป็นอย่างไรพระเจ้าข้า

พระองค์ได้ตรัสเทศนาว่า ดูกรนางวิสาขา ถ้าบุคคลใดมีจิตศรัทธานำผ้าอาบน้ำฝนมาถวายแก่พระภิกษุในพุทธศาสดาจะมีผลานิสงส์เป็นอเนกประการแล้วพระองค์ทรงนำอดีตนิทานมาแสดงต่อไปว่าในศาสนาพระกัสสปสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น มีหญิงเข็ญใจคนหนึ่ง มีนามว่า อมัยทาสีอยู่มาวันหนึ่งนางได้เห็นคนทั้งหลาย นำผ้ากาสาวพัตรไปสู่สำนักภิกษุสงฆ์ให้เป็นทาน โดยกระทำให้เป็นผู้อาบน้ำฝน นางอมัยทาสีก็มีศรัทธาอยากจะทำบุญกับเขาบ้าง นางก็คิดว่าจะทำอย่างไรดีหนอ ที่เราจะได้ทำบุญในคราวนี้บ้าง พิจารณาผ้าที่จะให้ทานก็ไม่มี รีบไปหามารดา แล้วบอกความจำนงของตนให้มารดา มารดาก็ตอบว่า เราจะเอามาแต่ที่ไหน เราก็เป็นทาสเขาอยู่ นางอมัยทาสี เมื่อได้ยินดังนี้น้ำตาก็ไหลด้วยความเสียใจ มารดาของนางก็มีจิตสงสาร จึงแนะนำให้นางอมัยทาสีไปขึ้นค่าตัวกับนายนางได้รับคำแนะนำเช่นนั้นแล้วก็มีความยินดีจึงรีบไปหานายของนาง ฝ่ายเศรษฐีผู้เป็นนายก็ปฏิเสธไม่ยอมให้นางอมัยทาสีขึ้นค่าตัว นางไม่มีความสบายใจนางมาคิดว่าเมื่อชาติก่อนนี้เราไม่ทำบุญให้ทาน มาชาตินี้เราจึงได้ตกระกำลำบาก ถึงเวลาจะทำบุญกับเขาบ้างก็จะไม่ทำกับเขาคราวนี้จะเป็นตายอย่างไรจะต้องขอทำบุญให้ได้ในครั้งนี้ ด้วยจิตศรัทธาแรงกล้านางอมัยทาสีทนความอับอาบขายหน้า ได้สละผ้าห่มแล้วนำใบไม้มาเย็บกลัดพอปกปิด บรรเทาความอายแล้วเอาผ้าซักฟอกให้หมดความสกปรกแล้วนำดอกไม้ธูปเทียนพร้อมด้วยผ้าไปสู่ธรรมศาลาถวายผ้าอาบน้ำฝนนั้นในวันแรม ๘ ค่ำ เดือน ๗ ก่อนเข้าพรรษาพร้อมกับมหาชนทั้งหลาย แล้วตั้งความปรารถนาว่า ด้วยอานิสงส์ที่ตนได้กระทำบุญในคราวครั้งนี้ ขึ้นชื่อว่าความยากจนเข็ญใจไร้ทรัพย์อย่าได้มีในชาติต่อ ๆ ไป จนถึงพระนิพพาน และขอให้พบพระศาสนาพระศรีอริยเมตไตรย์ เมื่อคำปรารถนาของนางจบลงแล้ว เทวดาทั้งหลายก็ซ้องสาธุการสนั่นหวั่นไหว

ด้วยอานิสงส์ของนางอมัยทาสีทำบุญในคราวครั้งนั้น อยู่มาได้ ๗ วัน พระเจ้าพันธุมหาราช ได้เสด็จไปพบนางกำลังหาบฟืนมาในระหว่างทางก็เกิดความปฏิพัทธ์รักใคร่ในตัวนางมาก จึงตรัสปราศรัยไต่ถามความตลอดแล้วจึงยกนางขึ้นราชรถนำเข้าไปสู่พระนคร อภิเษกนางให้อยู่ในตำแหน่งอัครมเหสี ครั้นทำลายขันธ์แล้วนางได้ไปเกิดบนสวรรค์มีวิมานทองสูง ๑๕ โยชน์ มีนางฟ้าเป็นบริวาร ๓ พัน ครั้นเสวยทิพย์สมบัติแล้วจนในชาติสุดท้ายนางจะได้เกิดในศาสนาพระศรีอริยเมตไตรย์ได้บรรลุธรรมพิเศษดังนี้แล พระองค์ได้ทรงแสดงพระธรรมเทศนาจบลงแล้ว ชนทั้งหลายก็ได้ดวงตาเห็นธรรมส่วนนางวิสาขาก็ตั้งอยู่ในพระรัตนตรัย

ที่มา อานิสงส์ถวายผ้าอาบน้ำฝน

สำหรับผม ผู้เขียนบทความนี้ ขออวยพรให้ผู้ที่ถวายผ้าอาบน้ำฝนโปรดได้อานิสงส์อันดีงาม เป็นต้นว่า

  • เป็นผู้มีผิวพรรณดี
  • เป็นผู้มีโรคน้อย
  • เคราะห์กรรม กรรมเก่าที่ไม่ดีให้ถูกชะระล้างหรือเบาบางลง
  • มีความชุ่มชื่นเบิกบานใจ
  • เป็นที่รักของคนทั้งหลาย
  • หากยังไม่บรรลุธรรม ให้ได้เกิดในภพภูมิที่ดี มีสุคติเป็นที่ตั้ง คำว่าไม่มีอย่าได้มี

ตัวอย่างผ้าอาบน้ำฝน

ผ้าอาบน้ำฝน ที่เป็นผ้าขาว และผ้าอาบน้ำฝนที่ย้อมแล้ว
ผ้าอาบน้ำฝน ที่เป็นผ้าขาว และผ้าอาบน้ำฝนที่ย้อมแล้ว
ผ้าอาบน้ำฝนที่ย้อมแล้ว
ผ้าอาบน้ำฝนที่ย้อมแล้ว

เห็นว่าบทความนี้มีประโยชน์ โปรดแชร์....

บทความที่เกี่ยวข้อง

ถวายผ้าอาบน้ำฝนถวายผ้าอาบน้ำฝน อานิสงส์ ส่งตามอริยะวิสาขามหาอุบาสิกา การทำผ้าอาบน้ำฝน ของพระสายวัดป่ากรรมฐาน สายหลวงปู่มั่นการทำผ้าอาบน้ำฝนของพระสายวัดป่ากรรมฐาน ที่บางท่านอาจจะไม่เคยเห็น ถวายเทียนพรรษาถวายเทียนพรรษา อานิสงส์ ส่งให้พบทางแสงสว่าง ทางสะดวก ถวายอะไรเป็นบริวารกฐินเทศกาลถวายผ้ากฐินปีนี้ ถวายอะไรเป็นบริวารกฐิน
สังฆทาน ผ้าอาบน้ำฝน

แนะแนวเรื่อง

Previous post
Next post

สวัสดียามเช้า พระคุ้มครอง

  • คลิป VIDEO
  • คอมพิวเตอร์
  • คาถา
  • ดาวน์โหลด
  • ตำนาน
  • ธรรมะคุ้มครอง
  • นานาสาระ
  • นิทาน
  • นิสัยใจคอ
  • บ้านและสวน
  • ประเพณี
  • พระสายกรรมฐาน
  • พระเครื่อง
  • ภาษาวัด ภาษาไทย
  • ยาสมุนไพรโบราณ
  • วัดธรรมยุตในต่างประเทศ
  • ส่งคำอวยพร
  • สังฆทาน
  • สิ่งนำโชค
  • สุขภาพ
  • อาชีพและครอบครัว
  • เครื่องราง
  • เรียกจิต
  • เรื่องผี
  • แนะนำหนังสือ
  • แบ่งปัน
  • ไม้ประดับ ไม้มงคล

เว็บไซต์แห่งนี้ นำเสนอบทความเกี่ยวกับ วัตถุมงคล พระเครื่อง เครื่องราง มนต์คาถา พิธีกรรมต่าง ๆ
ซึ่งทั้งหมด เป็นที่พึ่งทางจิตใจ เป็นความรู้ เป็นความเชื่อที่สืบทอดต่อกันมา
ทางเราไม่อาจจะพิสูจน์ได้ว่า ความเชื่อเหล่านั้นเป็นจริงหรือไม่
ผู้เขียนบทความ ไม่อาจจะรับรองความเชื่อนั้นว่าจะได้ผลจริง หากท่านนำไปปฏิบัติตาม
หน้านโยบายความเป็นส่วนตัว

บทความต่าง ๆ บนเว็บไซต์นี้ แม้ทางเรานำเสนอโดยการศึกษาจากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ จึงมาเขียน ฉะนั้น ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความโดยพยัญชนะ