มนุษย์เราทุกคนย่อมต้องการเป็นที่รัก ย่อมต้องการให้คนอื่นรักใคร่ตนเอง จึงกำเนิดเครื่องรางของขลังประเภทมหาเสน่ห์ เมตตามหานิยมนั้นมากมายหลายประเภท ทั้งประเภทผง ดิน โลหะ ผ้ายันต์ ว่าน น้ำ งา กระดูกและอีกหนึ่งในนั้นที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากมาแต่โบราณ นั่นคือสีผึ้ง

สีผึ้งเองก็มีหลายสำนัก หลายครูอาจารย์ มีทั้งสายพระเกจิอาจารย์และสายฆราวาส ว่ากันว่าถ้าสายพระสงฆ์เกจิอาจารย์ทำนั้น จะเน้นด้านเมตตาค้าขาย เน้นการทำมาหากิน แต่ถ้าสีผึ้งสายฆราวาสเน้นด้านมหาเสน่ห์ ราคะ ความรักของหนุ่มสาวเป็นหลัก
สีผึ้งเบ็ด อาจารย์อ้วน หมอผี เป็นอีกสีผึ้งสายฆราวาสอีกสายหนึ่งที่ผมให้ความสนใจเป็นอย่างยื่ง ที่ผมหามาใช้เอง ด้วยตนเอง ทดลองใช้เอง และยังใช้อยู่เรื่อยมา เพราเป็นสีผึ้งแปลกแวกแนว มีวิธีการสร้างที่แตกต่าง สร้างจริงเห็น ๆ มีลูกศิษย์ติดตามหรือเฝ้าสังเกตการ์ณในการสร้างมากมาย
ฤทธิ์แรงครูสีผึ้งเบ็ด อาจารย์อ้วน หมอผี
มีเรื่องเล่าจากผู้อยู่ในพิธีว่า ในคราวที่ท่านอาจารย์อ้วนได้ทำพิธีปลุกเสกสีผึ้งเบ็ดชุดหนึ่ง โดยเปิดให้บูชาในวันทำบุญครูพราหมณ์ สุทโธ เพื่อที่จะนำรายได้มอบให้แก่ลูกสาวครูพราหมณ์ซึ่งกำลังป่วยอยู่ เขาเล่าว่าเย็นวันนั้นเขาเข้าไปหาอาจารย์ที่บ้าน เห็นคนมารอบูชาสีผึ้งเบ็ดกันอยู่มากมายหลายคน เวลานั้นมีคางคกหลายตัวออกมากินตัวแมลง พวกเขาจึงคุยกันว่าจะรู้ได้อย่างไรว่าคางคกตัวไหนเป็นตัวผู้หรือตัวเมีย อาจารย์อ้วนท่านได้ยินเสียงพวกเราถกเถียงกันอยู่ ท่านจึงหยิบสีผึ้งเบ็ดออกมาป้ายไปที่ตัวคางคกตัวหนึ่ง แล้วสั่งให้มันไปพาคู่มาให้ดู โดยที่ท่านกลัวว่าจะจำไม่ได้ว่าเป็นตัวไหน จึงเอาแป้งผัดหน้าโรยไปที่ตัวคางคกตัวนั้นจนขาวทั้งตัวเผื่อว่ามันกลับมาจะได้จำมันได้
คืนนั้นลูกศิษย์นั่งคุยกันจนดึก และจากนั้นไม่นานปรากฏว่ามีคางคกสองตัวขี่ประกบเกาะหลังกันโดยตัวข้างบนมีลักษณะเป็นสีเหลืองทอง คางคกตัวข้างล่างเป็นตัวสีขาว ซึ่งจำได้ทันทีว่าเป็นตัวที่อาจารย์ท่านเอาสีผึ้งป้ายไว้ ซึ่งทำให้หลายคนที่อยู่ในเหตุการณ์รู้สึกประหลาดใจ สร้างความฮือฮาเป็นอย่างมาก บางคนก็ถ่ายภาพเก็บไว้ บางคนรู้ซึ้งถึงฤทธิ์ของสีผึ้งเบ็ด เกิดความเชื่อความศรัทธาจึงขอเช่าบูชาเพิ่มกันไปอีกคนละหลายสิบตลับ ผ่านมาอีกร่วมสองวันอาจารย์ท่านเห็นว่ามันยังเกาะกันอยู่ยังไม่แยกจากกันจึงกลัวว่ามันจะตาย ท่านจึงทำน้ำมนต์ประพรมไปที่ตัวคางคกทั้งสองนั้น พวกมันจึงได้แยกย้ายกันไป

ตำราวิชาสีผึ้งเบ็ด
ตำราวิชาสีผึ้งเบ็ดนั้น ว่ากันมาว่าเป็นวิชาที่มีมาโบราณสืบทอดกันมาหลายร้อยปี มีจารึกโบราณระบุไว้ว่า พระมหาฤๅษีผู้แก่กล้าวิชาอาคม ได้ร่วมกันรจนาขึ้นมาเพื่อประสิทธิ์ไว้ให้แก่สมณชีพราหมณ์ ท้าวพระยามหากษัตรยิ์ และ มนุษย์ชายหญิงทั้งหลายอันเกิดมาภายหลังให้รู้จักวิชาสีผึ้ง แต่ก็ยากนักที่จะหาบุคคลที่รู้การตั้งแต่พิธีกรรม การปลุกเสกไปจนถึงการทำให้สำเร็จผลเป็นที่สุด กล่าวกันว่า หากผู้ใดมีสีผึ้งนี้ไว้ในครอบครองแล้ว ชื่อว่าเกิดมาไม่อาภัพ
อานุภาพแห่งสีผึ้งเบ็ด
วิชาสีผึ้งเบ็ดนี้มีอานุภาพมากหลายสารพัดจะใช้ เด่นอย่างยิ่งทางด้านมหานิยมและมหาเสน่ห์แก่คนทั้งหลายทุกชนชั้น กันคุณคนคุณไสยทั้ง ๑๒ ภาษา
คุณสมบัติอย่างหนึ่งของสีผึ้งเบ็ดคือเป็นสีผึ้งที่มีกลิ่นหอมมาก หอมแบบธรรมชาติ หอมแบบเย้ายวนชวนดม ใครพบเจอสีผึ้งเบ็ดที่ไหน แนะนำผมด้วยครับ ผมเองก็ยังอยากได้เพิ่มอีก
อุปเท่ห์การใช้สีผึ้งเบ็ด
ก่อนใช้ให้ตั้งจิตระลึกถึงบรมครูผู้เป็นเจ้าของวิชาสีผึ้งเบ็ดนี้ และ บรมครูปู่ฤๅษีใหญ่แห่งภูเขาควายกลางแล้วให้ทำการอธิฐานขอความสำเร็จในกิจที่ประสงค์ ถ้ามีเหตุที่ต้องเดินทางไปในที่เปลี่ยว ๆ หรือที่ที่มีผีดุจะหนีหายไปสิ้นมิกล้าหลอกหลอนเรา เป็นสีผึ้งที่มีอานุภาพในการกันภูติผีปีศาจได้ด้วย รวมทั้งกันคุณคนคุณไสย ๑๒ ภาษา ถ้าปรารถนาให้คำพูดเราเป็นอำนาจสะกดใจฝูงชนทั้งหลายให้ติดใจหลงไหลจนดิ้นไม่หลุดดุจดังปลาที่ติดเบ็ด ให้นำมาสีปาก หากจะให้เป็นเมตตาเจิมหน้าป้ายคิ้วคนทั้งหลายเมื่อได้แลเห็นหน้า จะบังเกิดความเมตตาดังลูกหลาน ไปไหนมาไหนให้ติดตัวไปเถิดจะเกิดผลดีแก่ตัวเรา
อีกวิธีหนี่งที่ผมนำมาใช้ คือเขียนชื่อคนที่เราต้องการให้รักบนกระดาษสีขาว แล้วม้วนให้เบ็ดเกี่ยวไว้ตามภาพข้างบน ก่อนนำไปเกี่ยวไว้ที่เบ็ด อย่าลืมนึกถึงครูบาอาจารย์ทั้งหลาย แล้วทำการอธิษฐาน จากนั้นพกติดตัวหมุนได้หมอน หรือก่อนนอนให้มากำไว้ที่มือ นึกถึงชื่อเขา หน้าเขา ไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะหลับ ๆ ไป ให้ทำบ่อย ๆ ทำทุกคืนนะครับ
ข้อห้ามการใช้สีผึ้งเบ็ด
สีผึ้งเบ็ดนี้ ห้ามนำเอาไปแบ่งใส่แยกตลับหรือไปผสมรวมกับสีผึ้งชนิดอื่นท่านว่าผิดครูจะไม่ดี และไม่ควรนำเบ็ดออกจากตลับสีผึ้ง (ความเห็นส่วนตัว)

อย่าพลาดสุดยอด ผงเครื่องราง มหาเสน่ห์ ลูกอม ปลัดขิก หลวงพ่อสงวน
อ่านประสบการณ์ตรง ผู้ใช้สีผึ้งเบ็ด