สมัยที่ผมเรียนชั้นประถมศึกษา จะมีวิชาหนึ่งซึ่งผมจำไม่ได้ อาจจะเป็นวิชาประวัติศาสตร์ หรือประเทศเพื่อนบ้านอะไรทำนองนี้ น่าจะอยู่ในหมวดสังคมศึกษา เป็นอันว่าเป็นวิชาที่เรียนเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ สังคม ความเป็นอยู่ของประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก เมื่อเรียนถึงประเทศทางยุโรป อเมริกา หรือประเทศที่อยู่ทางตะวันตก ความรู้สึกของผมในขณะที่เรียนเหมือนว่าประเทศเหล่านั้นอยู่ดาวอังคาร คือเป็นดินแดนที่เราไม่สามารถไปถึงได้ ไม่คิดไม่ฝันว่าจะไปได้ เรียน ๆ ก็เรียนไปอย่างนั้นแหล่ะ แถมวิชาภาษาอังกฤษเป็นวิชาเลือกอีกไม่ใช่วิชาหลักจะเรียนจะสอน หรือไม่มีการเรียนการสอนก็ได้ โรงเรียนที่ผมเรียนตัดวิชานี้ออกผมยังจำได้ถึงทุกวันนี้ในคำที่ครูพูดว่า “เรียนไปก็ไม่ได้ไปต่างประเทศหรอก” ทางโรงเรียนจึงได้ตัดวิชานี้ทิ้งไป (ผมถือว่าทางโรงเรียนมองแคบมาก ๆ ) แล้วครูเปลี่ยนเป็นวิชาอะไรล่ะ ครูสอนวิชาอะไรแทน ครูสอนวิชาที่ครูคิดขึ้นใหม่ เรียกว่า “ประสบการณ์พิเศษ” มีอักษรย่อว่า ” ปพ.” เจ้าวิชาประสบการณ์พิเศษนี้ครูสอนเกี่ยวกับอะไร ก็สอนเกี่ยวกับการใช้ชีวิตประจำวันในท้องถิ่น เช่น ดักสัตว์ ตกปลา เผาถ่าน ทำน้ำพริก หาหน่อไม้ หาของป่า ทำกับข้าว ทำไร่ไถ่นา ครูคงหวังว่าให้เราเป็นชาวไร่ชาวนาที่ดีตลอดชีวิตมั้ง
แต่..โลกมันเปลี่ยนไปเร็วมาก ผมได้ไปต่างประเทศก่อนอายุ 30 ปี และได้ไปหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็นฮ่องกง มาเก๊า จีนแผ่นดินใหญ่ ญี่ปุ่น อินเดีย เนปาล พม่า อินโดนีเซีย และไปไกลถึงสหรัฐอเมริกาและใช้ชีวิตที่นั่นหลายปีจนได้กรีนการ์ด เมื่อก่อนผมมองประเทศเหล่านี้ด้วยความรู้สึกว่ามันเหมือนดาวอังคารที่ผมไม่สามารถเดินทางไปได้
พระเครื่องเบญจภาคี อาจจะอยู่ใกล้ ๆ ตัวคุณ
หักมาเข้าเรื่องเกี่ยวกับพระเบญจภาคี ซึ่งผมเชื่อว่าหลายคนคงจะคิดว่าเป็นอะไรที่ไกลเกินเอื้อม เป็นอะไรที่เราไม่สามารถมีได้ เป็นอะไรที่เราไม่สามารถแม้แต่จะเห็น เพราะคิดว่าคงจะอยู่แต่ในบ้านคนรวยหรือเซียนพระใหญ่ ๆ ผมคิดว่านั่นท่านคิดผิดแล้วครับ พระเบญจภาคี ไม่ว่าจะเป็นพระสมเด็จวัดระฆัง พระนางพญา พระซุ้มกอ พระผงสุพรรณ และพระรอด อาจจะอยู่ใกล้ ๆ ท่าน อาจจะอยู่กับเพื่อนที่ทำงานด้วยกัน เพื่อนข้างบ้าน ร้านที่เราไปดื่มกินบ่อย ๆ อยู่กับบ้านพ่อตาแม่ยาย ปู่ย่าตายายของเราก็ได้ ที่ผมกล้าพูดอย่างนี้เพราะผมเจอมาแล้วครับ เมื่อก่อนผมก็คิดว่าเราคงไม่มีวาสนาได้เจอหรอก เราคงไม่มีวาสนาได้มา แต่ก็มาจนได้แบบง่าย ๆ และเป็นพระแท้ ๆ ด้วยครับ
เคยมีบางคนพูดว่าพระเบญจภาคีนั้นมีมาก มากกว่าที่เซียนพระได้พูดไว้ว่ามีไม่กี่พันองค์ ทำไมเซียนพระจึงบอกว่ามีน้อย ก็เพราะเขาต้องการดันราคาพระขึ้น ทำเป็นพูดว่าหายาก สร้างน้อย ไม่ค่อยเจอ สำหรับผมแล้วมีมากหรือน้อยไม่ทราบได้ แต่เชื่อว่าพระเบญจภาคีกระจายอยู่ทั่วไป โดยเฉพาะพระกรุต่าง ๆ ซึ่งสมัยก่อนสร้างมาก ทั้งสร้างเพื่อบรรจุเจดีย์และแจกจ่ายเป็นขวัญกำลังใจแก่ทหาร (แต่โดยมากสร้างบรรจุเจดีย์เพื่อเป็นพุทธบูชา สืบต่ออายุพระศาสนา)
ฉะนั้นแล้ว เมื่อท่านเห็นพระเครื่อง เครื่องราง ดูเหมือนเก่า ๆ หน่อย น่าจะใช่พระชุดเบญจภาคี หรือ เป็นพระหลักราคาแพง อย่าเพิ่งรีบร้อนขาย อย่าเพิ่งด่วนคิดว่าไม่ใช่ อย่าเพิ่งคิดว่าเราคงไม่มีวาสนาได้พบเจอ ให้ทำการตรวจสอบดูให้ดี อาจจะเป็นชุดพระเบญจภาคีในฝันก็ได้