ผีทะเล เป็นตำนานเล่าขานคู่กับท้องทะเลมานาน กระทั่งบางครั้งมีคนนำคำว่า ผีทะเล มาเปรียบเปรยเล่นกันในหมู่คนทั่วไป โดยความหมายจะออกไปในเชิงด่าทอว่าเป็นคนทะลึ่ง และขี้เล่นมากกว่าเรื่องของวิญญาณ ดังนั้น หลายคนจึงคุ้นหูกับคำว่า ผีทะเล อยู่แล้ว แต่ในความเป็นจริงผีทะเลจะเป็นอย่างไร และมีอยู่จริงหรือไม่ หน้าตาเป็นอย่างไร ไปติดตามพร้อมๆ กันเลย
ผีทะเล คืออะไร
ผีทะเล เป็นผีที่เชื่อกันว่าเป็นวิญญาณที่เสียชีวิตในทะเล ซึ่งสามารถปรากฎกายให้เห็นได้ในหลายลักษณะ บางครั้งจะมีรูปลักษณ์เหมือนคนลากปลาตัวใหญ่ขึ้นมาจากทะเล เพราะถูกปลากินจนเสียชีวิต หรือบางครั้งในเวลากลางคืนก็มาอยู่บนเรือให้ชาวประมงเห็น ขณะที่ชาวประมงกำลังออกเรือหาปลา โดยผีทะเลที่เห็นบนเรือจะมีลักษณะเป็นดวงไฟที่สว่างอยู่บนเสากระโดงเรือ ชาวประมงเชื่อว่า ถ้าผีทะเลขึ้นมาบนเสากระโดงเรือลำใด จะทำให้เรือลำนั้นอัปปางลงกลางทะเล
ผีทะเลในวรรณคดีไทย
ในวรรณคดีไทย ได้มีการกล่าวถึงผีทะเลไว้เช่นกัน โดยมีการเขียนไว้ในเรื่อง พระอภัยมณี โดยเป็นบทประพันธ์ของสุนทรโวหารหรือสุนทรภู่ ซึ่งผีทะเลตนนั้นคือ ผีเสื้อสมุทร ผู้เป็นยักษ์ที่มีฤทธิ์ร้ายกาจ และมีอำนาจมากมาย อีกทั้งเป็นใหญ่ที่สุดในบรรดาผีที่อยู่ในท้องทะเล ซึ่งคำว่าผีทะเลได้มีการนำมาใช้เป็นคำพูด ในการด่าทอหรือตำหนิแนว หยิกแกมหยอก มากกว่าเรื่องวิญญาณในท้องทะเล
ความเชื่อเรื่องผีในท้องทะเล
เชื่อกันว่าผีในทะเลมักมีกระจัดกระจายกันทั่วไป ยกเว้นบางแห่งที่มีผีกันอยู่มากมายคับคั่ง คอยล่ามนุษย์ไปเป็นเหยื่อ กระทั่งมีวิญญาณสะสมอยู่มากมาย ทำให้บริเวณทะเลแห่งนั้นผีดุและเฮี้ยน ซึ่งความเชื่อนี้มีอยู่ทั่วโลก เพราะคนจะเชื่อเหมือนกันว่า ทะเลไหนที่มีผีดุ เรือจะอัปปางบ่อย เรือบางลำเคยแล่นไปที่ไหนต่อไหนมาได้สบายๆ แต่พอมาถึงตรงที่มีผีทะเล กลับเกิดเหตุร้าย เหมือนมีอะไรมาดลให้เรือแตก กระทั่งมีคนจมน้ำตายมากมาย
ตำนานผีทะเลที่บางละมุง
สมัยก่อนเมื่อชาวประมงที่บางละมุง ออกเรือหาปลาตอนกลางคืน มักจะเห็นตัวอะไรสีดำๆ มีรูปร่างคล้ายคน แต่รูปร่างใหญ่กว่าคนสองเท่า กำลังกวาดปลาใส่ปากกินมูมมาม จนต้องรีบออกเรือหนีไป
ตำนานผีทะเลที่ปราณบุรี
ที่ท่าเรือปราณบุรี มีเรื่องเล่าของชายชราที่เคยมาขายปูปลา แมงดาทะเลว่า เมื่อตอนอายุยังหนุ่ม ได้ออกเรือหาปลา วันหนึ่งได้ปลามาเต็มลำ จึงคิดว่าตนเองคงรวยคราวนี้ แต่พอจะกลับถึงฝั่งจึงเห็นว่าน้ำหนักของเรือเบาผิดปกติ พอไปดูท้องเรือ จึงได้รู้ว่าท้องเรือว่างเปล่าเหมือนตอนขาไป จึงคิดว่าคงมีผีขึ้นมากินปลาบนเรือทั้งหมด
เรื่องของผีทะเลในต่างประเทศ
เรื่องเกี่ยวกับผีทะเล ไม่ได้มีเฉพาะในเมืองไทยเท่านั้น แต่ชาวตะวันตกก็มีความเชื่อในเรื่องทำนองนี้เหมือนกัน โดยเรียกว่าเปลวเพลิงแห่งเซนต์เอลโม (St. Elmo’s Fire) ซึ่งมีปรากฏการณ์ที่เกิดไฟฟ้าสถิตย์ในอากาศ แล้วไหลลงสู่ที่ต่ำ โดยผ่านวัตถุคือเสากระโดงเรือ และมักเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ในวันที่ฝนตก อีกทั้งยังมีฝนพายุรุนแรง
ตำนานเรือผีทะเลอันน่าสยองขวัญในต่างประเทศ
สำหรับตำนานของผีทะเลที่เกิดขึ้นในทางต่างประเทศก็มีเรื่องราวเล่าขานให้เราได้พอทราบเช่นกัน ซึ่งก็มีดังนี้
ตำนานเรือผีทะเล Flying Dutchman
ตำนานเรือผีทะเล เรือฟลายอิ้ง ดัทช์แมน เป็นตำนานเรือผีที่ออกมาหลอกหลอนคนในน่านน้ำทั่วโลก ซึ่งเรือลำนี้ถูกกล่าวถึงครั้งแรกในปี ค.ศ. 1700 ในหนังสือ Voyage หลังจากนั้นตำนานนี้ก็ได้แพร่กระจายไปทั่วโลก ซึ่งตำนานมีอยู่ว่ากัปตันชาวดัตช์ชื่อว่า แวน แดร์ เดคเคน (Van Der Decken) ได้นำเรือออกไปและพบกับสภาพอากาศที่เลวร้ายในแหลมกู๊ด โฮป ประเทศแอฟริกาใต้ เขาพยายามนำเรือฝ่าพายุนั้น แต่ไม่สำเร็จสุดท้ายเรือของเขาอัปปางลง ทำให้เขาโกรธมาก และสาบานว่า จะวนเวียนอยู่ตรงบริเวณแหลมนั้น ตราบฟ้าดินสลาย และเขาพร้อมทั้งเรือได้กลายเป็นปีศาจที่ต้องคำสาปให้เดินเรือในมหาสมุทรตลอดกาล และไม่สามารถกลับบ้านได้จนกว่าโลกนี้จะสลาย
เมื่อมาถึงคริสต์สตวรรษที่ 20 เรือฟลายอิ้ง ดัทช์แมน ได้ปรากฎขึ้นในคืนที่มีหมอกหนาทึบ บางครั้งออกมาให้เห็นเป็นแสงประหลาดตอนกลางคืน ในรูปเรือสำเภาสามใบ และมีกัปตันที่แต่งกายแบบศตวรรษเดิม แต่มีใบหน้าที่บิดเบี้ยว กรีดเสียงหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง ชวนให้ขนหัวลุก และมีความเชื่อว่าหากใครได้เห็นเรือลำนี้จะมีแต่เรื่องร้ายๆ เกิดขึ้น
ตำนานเรือผีทะเล Mary Celeste
ตำนานเรือผีทะเลแมรี่ เซเลสต์เป็นตำนานที่ถูกกล่าวขึ้นครั้งแรก เมื่อเรือบรรทุกสินค้าของอังกฤษชื่อ เดอี กราเซีย เห็นเรือแมรี่ เซเลสต์ เรือใบสองเสาขนาด 100 ฟุตลำหนึ่ง แต่ไม่มีคนอยู่บนเรือและลอยกลางมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือแบบไม่มีจุดมุ่งหมาย ซึ่งสภาพที่คนทั่วไปเห็น คือ ความพิศวงบนเรือ เพราะทุกอย่างยังเหมือนมีคนอยู่ โต๊ะอาหารของกัปตันยังคงมีเปลือกไข่ ขนมปังและจานซุปวางบนโต๊ะ แต่สภาพห้องของเรือส่วนใหญ่ถูกรื้อค้นของกระจุยกระจาย เหมือนมีการต่อสู้กันเกิดขึ้น
ซึ่งมีการสันนิษฐานว่าโจรสลัดได้ฆ่าคนบนเรือ บางตำนานเล่าว่า มีการกินอาหารที่ปนเปื้อนเชื้อราจนประสาทหลอนและเสียสติ หรือเกิดจากผีและสัตว์ปีกจากทะเล หรือมนุษย์ต่างดาวลักพาตัว แต่สิ่งที่คนเชื่อมากที่สุดเกี่ยวกับเรือนี้ คือ เรือโดนพายุและคลื่นรุนแรง ทำให้ทุกคนสละเรือ แล้วตายในท้องทะเลทั้งหมด
ตำนานเรือผีทะเล The Lady Lovibond
เป็นตำนานเรือผีที่เกิดขึ้นในประเทศอังกฤษ โดยมีเรือชื่อว่า เรือเลดี้ โลวี่บันด์ ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อ กัปตันเรือเลดี้ โลวี่บันด์ ชื่อไซม่อน พีล (Simon Peel) ได้นำเรือออกมาร่วมฉลองงานแต่งของเขาที่นอกชายฝั่งอังกฤษ ซึ่งตามความเชื่อหากนำผู้หญิงขึ้นเรือไปด้วยจะเจอกับเรื่องหายนะ และก็เกิดเรื่องไม่ดีขึ้นจริงๆ เมื่อหัวหน้าประจำเรือไปหลงรักภรรยาของกัปตันเรือไซมอน และเกิดความอิจฉา โกรธและหึงหวง โดยขณะที่กัปตันกำลังฉลองการแต่งงานที่ดาดฟ้าเรือนั้น หัวหน้าเรือได้บังคับเรือออกไปให้เป็นเรือมฤตยู และสุดท้ายเกิดอุบัติเหตุที่แหลมกู๊ด ทางชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของอังกฤษ ทุกคนบนเรือเสียชีวิตทั้งหมด จากนั้นทุกๆ 15 ปี เรือเลดี้ โลวี่บันด์ จะปรากฎในฐานะเรือผี ในลักษณะแตกต่างกันออกไป เช่น รูปซากปรักหักพัง หรือแสงสีเขียวประหลาด ซึ่งเป็นตำนานผีที่มีคนเล่าขานอย่างมากในยุโรป
ตำนานเรือผีทะเล The Joyita
The Joyita เป็นชื่อเรือยอร์ชยาว 21 เมตร ถูกสร้างในปี ค.ศ. 1931 และผ่านการใช้งานของหลายคน กระทั่งถูกทำให้กลายเป็นเรือเช่าเหมาลำ สำหรับการทำประมง โดยเรื่องลึกลับของเรือนี้ ได้เกิดขึ้นเมื่อผู้โดยสารทั้ง 25 คนบนเรือได้หายไปอย่างลึกลับ ในแปซิฟิกใต้ ซึ่งมีทั้งเจ้าของเรือ และลูกเรืออีก 16 คน พร้อมทั้งผู้โดยสารอีก 9 คน ซึ่งเรือนี้ได้หายไปอย่างลึกลับโดยไม่มีใครหาเจออีกเลย แม้จะใช้การค้นหาทางอากาศ แต่ก็ไม่พบเรือ จนกระทั่งเวลาผ่านไปประมาณ 10 สัปดาห์ เรือได้ถูกค้นพบที่แถวเส้นทางเดินเรือจากซูวาไปฟูนะฟูตี ในสภาพที่เรือบางส่วนจมในทะเล เครื่องยนต์เสียหาย แต่ไม่มีร่องรอยของคนบนเรือเลย สินค้าบนเรือก็หายไป โดนสันนิษฐานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนเรือ คือโจรสลัดฆ่าแล้วโยนร่างคนบนเรือลงน้ำ
ตำนานเรือผีทะเล Octavius
เรื่องของเรือออคตาเวียส ไม่สามารถยืนยันได้ว่าจริงหรือเท็จ แต่เรื่องนี้ได้มีการเล่าขาน ถึงชะตากรรมอันน่าสยดสยองของคนบนเรือ และเต็มไปด้วยความลี้ลับ โดยตำนานมีอยู่ว่า เรือล่าวาฬลำหนึ่งชื่อเฮราลด์ ได้สะดุดพบเรือออคตาเวียสโดยบังเอิญ บริเวณนอกชายฝั่งกรีนแลนด์ ในสภาพโดนน้ำแข็งจับไม่สามารถเดินเรือต่อได้ ซึ่งเรือลำนี้ได้หายสาบสูญไปแล้วกว่า 13 ปี แต่ตอนนี้กัปตันและลูกเรือเฮราลด์ ได้สำรวจเรือพบว่ามีร่างของลูกเรือนอนตายอยู่ที่นอนคลุมด้วยผ้าห่ม ร่างกายถูกแช่แข็งในสภาพเย็นจัด
นอกจากนั้นยังพบกัปตันเรือนอนตายคว่ำหน้า พร้อมกับสมุดบันทึก เนื้อหาในบันทึกกล่าวว่า เรือนี้ได้เริ่มจับตัวเป็นน้ำแข็ง ซึ่งตามบันทึกระยะเวลาตอนนั้น ถึงตอนที่ไปสำรวจเจอห่างกันเป็นเวลา 13 ปี แล้วเรือลำนี้สามารถแล่นได้อย่างไร ในเมื่อลูกเรือตายทั้งหมด นอกจากกัปตันจะเป็นผี ก่อนที่เรือจะหยุดเพราะติดน้ำแข็ง และกระทั่งปัจจุบันไม่มีใครรู้แน่ชัด เกี่ยวกับโศกนาฏกรรมของเรือนี้ ตำนานผีทะเลทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ มีความคล้ายคลึงกันอย่างหนึ่งคือ ผีทะเล คือชีวิตที่ตายในท้องทะเล ส่งผลให้วิญญาณวนเวียนอยู่กับทะเล และคอยปรากฎตัวหรือหลอกหลอน ผู้คนที่อาศัยและใช้ชีวิตอยู่กับทะเลแถบนั้น ซึ่งเรื่องตำนานผีทะเลจะมีจริงหรือไม่ คงต้องพิสูจน์ความจริงต่อไป แต่สิ่งหนึ่งที่ได้รู้จากตำนานคือ ทุกชีวิตต้องดิ้นรน แม้รู้ว่าจะตายในไม่ช้า แต่ต้องสู้กระทั่งวินาทีสุดท้ายของชีวิต