
สำหรับหนังสือ “ประวัติพระบุญนาค เที่ยวกรรมฐาน” ถือว่าเป็นเรื่องที่ประหลาดใจสำหรับผมไม่น้อยนะครับ ผมวิเคราะห์ตลอดทั้งเล่มว่าท่านผู้เล่าเรื่องไม่ได้เขียนสอดแทรกแต่งเติมเรื่องปาฏิหาริย์ แต่ก็มีเรื่องปาฏิหาริย์อยู่ในตัว หมายถึงมันมีเหตุการณ์ปาฏิหาริย์อยู่ในตัวอย่างน่าทึ่ง ผมจึงมีความเชื่อว่าทุกเรื่องราวที่ปรากฏอยู่ในหนัง “ประวัติพระบุญนาค เที่ยวกรรมฐาน” นั้นเป็นความจริง
มีตอนหนึ่งท่านกล่าวว่า
…..ตอนออกพรรษาแล้ว ๕ วัน จึงเที่ยวต่อไปอีก ข้ามเขา ๓ ลูกแล้ว จวนจะค่ำยังไม่พบบ้านคน อาตมภาพก็แวะขึ้นเขา หาน้ำฉัน เพื่ออันจะพักจำวัดที่นั้นด้วย เผอิญไปพบพระหลวงตาองค์หนึ่ง หาบตะกร้าใหญ่ เที่ยวเก็บผลไม้มะเดื่ออยู่หน้าถ้ำ อาตมภาพจึงถามท่านว่า อยู่ที่ไหน ท่านตอบว่า ผมอยู่ในจักรวาล อาตมภาพจึงตะกายขึ้นไปพักที่ถ้ำ วางบาตรไว้แล้วจึงไปสรงน้ำเสร็จกลับมา พระหลวงตาองค์นั้นก็มาพักที่ถ้ำอันเดียวกัน จำวัดด้วยกันในถ้ำนั้น ท่านเรียกอาตมภาพไปเรียนคาถาด้วย ท่านว่าคาถาสำเร็จ คือปรารถนาอะไรก็สำเร็จตามประสงค์ดังนี้ ใจความว่า
“โอม อุ อะ มะ นะโม พุทธายะ ชะ สุ มัง”
ท่านบอกว่าให้เณรเจริญเป็นนิตย์ เณรจะสมหวังดังความตั้งใจในชาตินี้และชาติหน้า ดังนี้
พออาตมภาพเรียนจำไว้แล้ว ท่านก็ลงไปในเวลา ๗ ทุ่ม คือตี ๑ ในกลางคืนวันนั้น อาตมภาพถามว่า ท่านจะไปไหน ท่านตอบว่า จะไปเที่ยวในจักรวาล อาตมภาพถามว่า ท่านชื่ออะไร ท่านตอบว่า ผมชื่อพระ ดังนี้ แล้วก็เดินเรื่อยไปตามชายเขา อาตมภาพจำวัดอยู่ที่นั้นจนสว่าง…
คาถาสำเร็จ หรือคาถาสมปรารถนา คาถาสมหวัง คาถาสมประสงค์นี้ เมื่อก่อนผมเคยท่องนะ สมัยสอบ ท่องในใจตลอดเวลาไม่ได้ดูหนังสือ อาบน้ำ กินข้าว เข้าห้องน้ำ ทำความสะอาด ขณะกำลังนอน ภาวนาอยู่อย่างนั้น “โอม อุ อะ มะ นะโม พุทธายะ ชะ สุ มัง” (แต่ผมใช้ “โอม อุ อะ มะ นะโม พุทธายะ สะ สุ มัง” นะครับ ถ้า ชะ สุ มัง เวลาสวดขัด ๆ ยังไงไม่รู้) ผมภาวนาไปเรื่อย ๆ ไม่น้อยกว่าหนึ่งเดือนก่อนสอบ ปรากฏว่าสอบได้ สอบผ่านตามประสงค์ครับ