
เนื่องจากมีผู้สอบเข้ามาทางไลน์ครับ โพสต์นี้ผมขอบตอบตามความเข้าใจของผม เนื่องจากว่าผมสวดมนต์บ่อย สวดมนต์ในโพสต์นี้หมายถึงสวดพระพุทธมนต์ พระสูตรต่าง ๆ หรือบางคนอาจจะเรียกว่าพระพุทธวจนะก็ได้นะครับ เพราะบางบทก็เป็นพระสูตรที่พระศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสไว้นั่นเอง
เครื่องรางสายดำ คืออะไร
เครื่องรางสายดำในที่นี้ หมายถึงเครื่องรางที่ใช้อำนาจภูตผีปีศาจในการปลุกเสก หรือเชิญ/เรียก/บังคับวิญญาณหรือผีมาสิงอยู่ในเครื่องรางเพื่อใช้งานให้เป็นไปตามความประสงค์ แน่นอนว่าเครื่องรางเหล่านี้มักใช้สิ่งที่ได้จากศพบ้าง อยากพิธีศพบ้าง จากป่าช้าบ้างมาเป็นมวลสารในการจัดทำ อย่างเช่น น้ำมันพราย สีผึ้งพราย แม่พราย พ่อพราย ทั้งหลาย
สวดมนต์คืออะไร เพื่ออะไร
สวดมนต์ในที่นี้ หมายถึงสวดบทพระพุทธคุณ หรือบทธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าที่มาในรูปแบบของพระสูตรบ้าง ปาฐะบ้าง คาถาบ้าง การสวดมนต์นั้น ถ้าตอบแบบกำปั้นทุบดินตอบแบบบ้าน ๆ ก็คือสวดเพื่อให้เกิดบุญขึ้นมา เพื่อให้เกิดความสงบสุขขึ้นมา นอกจากนั้นเป็นการสืบทอดหรือรักษาคำสอนของพระพุทธเจ้าไว้ด้วย แต่เป็นอันว่าเอาบุญเป็นตัวหลักในการสวดมนต์ละกัน
เมื่อสวดมนต์แล้วเกิดผลอย่างไรกับเครื่องรางสายพราย
อย่างที่ได้กล่าวข้างต้น สวดมนต์เพื่อให้เกิดบุญขึ้นแต่ตนเอง แก่สถานที่สวด และแก่บุคคลอื่นที่ได้ยินได้ฟัง แม้ไม่ได้ฟังด้วยตนเอง แต่ทราบว่ามีการสวดมนต์หากเขาได้อนุโมทนาก็ย่อมเกิดบุญขึ้นได้
เมื่อการสวดมนต์ทำให้เกิดบุญ ธรรมดาแล้วบุญย่อมเป็นที่ต้องการของสัตว์ทุกหมู่เหล่า แม้แต่ท้าวสักกะจอมแห่งเทวดาหรือที่เรารู้จักกันในนามพระอินทร์ พระองค์ก็ยังเคยแปลงกายมาตักบาตรพระมหากัสปะก็เพราะต้องการบุญหนุนส่ง เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ว พราย ภูต ผี วิญญาณ หรือเทพ หรือคุณจะเรียกว่าอะไรก็ตามที่อยู่ในเครื่องรางสายดำนั้นก็ย่อมต้องการบุญเช่นกัน เมื่อเขาได้ยินได้ฟังบทสวดมนต์แล้ว ทำการอนุโมทนาแล้วย่อมเกิดบุญเกิดพลังขึ้นแก่เขา ทำให้เกิดความผ่องใสรัศมีเปล่งปลั่ง เกิดพลังงานขึ้น
บางคนบอกว่านำเครื่องรางสายดำสายพรายสายวิญญาณมาฟังสวดมนต์ มาเข้าวัดมาหาพระแล้วทำให้เสื่อม ถ้าเป็นของอัปมงคล ไม่ดีเกิดจากการสาปแช่งไว้อาจจะเสื่อมสูญไปจริง แต่ถ้าเป็นวิญญาณเป็นพรายแล้วอาจจะเสื่อมได้เหมือนกัน แต่เสื่อมจากความไม่ดีกลายเป็นหรือยกให้ดีขึ้นไปอีก เมื่อพรายได้รับบุญเขาอาจจะเสื่อมจากที่เขาเป็นอยู่แล้วได้รับแสงสว่างแห่งบุญแห่งพระธรรมอาจจะทำให้ได้อัตตภาพใหม่ที่ดีกว่าเดิมก็ได้ เสื่อมจากการที่ต้องมาเฝ้ารับกินของเซ่นไหว้ ของสดของคาว เหล้ายาปลาปิ้ง ต่อไปเขาอาจจะหลุดพ้นจากจุดนี้ได้อัตตภาพที่ดีมีอาหารทิพย์ก็ได้
เรื่องนี้ผมยกตัวอย่างที่ท่านกล่าวไว้ในตำรา มีค้างคาวฝูงหนึ่งได้ฟังพระสงฆ์ซักซ้อมสวดพระอภิธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าในถ้ำ พวกมันฟังไม่รู้เรื่อง แต่ได้ยินแล้วเกิดความเลื่อมใส ตั้งใจฟังเป็นอย่างมาก จนเผลอตัวหล่นลงมาใส่พื้นหินตายไป ตำรากล่าวว่าค้างคาวเหล่านั้น ได้ไปเกิดเป็นเทวดา
วิญญาณ ผี พราย ที่อยู่ในเครื่องรางสายดำก็เช่นกัน ถามว่าเสื่อมไหม ก็อาจจะเสื่อมจากอัตตภาพเป็นพรายเป็นผี แต่อาจจะได้อัตตภาพที่ดีกว่า เหมือนค้างคาวได้ฟังเสียงสวดมนต์เสื่อมจากการเป็นสัตว์เดรัจฉานแล้วได้อัตตภาพที่ดีกว่าคือความเป็นเทวดา ส่วนว่าวิญญาณหรือพรายทั้งหลายเมื่อได้ฟังสวดมนต์แล้วเห็นแสดงสว่างแล้วได้อัตตภาพที่ดีกว่าแล้ว เขาจะยังช่วยเราหรือไม่ ข้อนี้ตอบยาก แรก ๆ อาจจะช่วยอยู่บ้าง นานเข้า พวกเขาได้แสงสว่างแล้ว ก็อาจจะคิดว่า “สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว พวกมนุษย์อยากได้อะไรก็ทำเอาเองสิ ในเมื่อคำสอนของพระพุทธเจ้าในเรื่องทำให้คนรักต้องทำอย่างไร อยากร่ำรวยต้องทำอย่างไร ก็ปฏิบัติตามคำสอนไปสิ พวกเขาอาจจะวางเฉย หรืออยู่ในฐานะที่ช่วยอะไรไม่ได้ก็เป็นได้

แต่ก็ใช่ว่าวิญญาณหรือพรายทุกตนจะยินดีในบทสวดมนต์นะครับ พรายบางตนอาจจะปิดกั้นตนเอง ยินดีในอัตตภาพที่เป็นอยู่ ยินดีในของสดของคาว ยินดีในเหล้ายาของเซ่นไหว้ต่าง ๆ อย่างนั้นก็ได้ ไม่ใช่ว่าบทสวดมนต์ไปทำร้ายเขา แต่เขาไม่ชอบเท่านั้นเอง ยกตัวอย่างง่าย ถ้าคุณเป็นคนเจ้าชู้ คงไม่ชอบฟังพระเทศน์เกี่ยวกับโทษหรือนรกที่จะได้รับเพราะความเป็นคนเจ้าชู้ ไม่ใช่สิ่งที่พระสอนไม่ดี แต่คุณชอบที่จะเป็นอยู่อย่างนั้น หรือคนติดบุหรี่หากใครมาว่าเขาว่าสูบบุหรี่ไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้ เขารู้ แต่เขาไม่สนใจและยินดีที่จะสูบต่อไป ยินดีที่จะใช้ชีวิตอย่างนั้นต่อไป หรือยกนิทานโบราณขึ้นมาก็ได้ สองคนเป็นเพื่อนกัน เมื่อตายแล้วคนหนึ่งเกิดเป็นหนอนอีกคนหนึ่งเกิดเป็นเทวดา คนเกิดเป็นเทวดารู้สึกสงสารเพื่อนจึงมาชวนไปอยู่บนสวรรค์ด้วย คนที่เกิดเป็นบอกว่าอยู่นี่ก็สบายแล้วอยากกินก็กินมีให้กินตลอด อยากนอนตรงไหนก็นอน นอนกินทั้งชาติก็ไม่หมด ถึงแม้เพื่อนจะพรรณาถึงสววรค์อย่างไรเขาก็ไม่สนใจ ไม่รับรู้ พอใจที่จะอยู่อย่างนี้ต่อไป