
การสวดมนต์ จัดว่าเป็นวิธีการหัดทำสมาธิได้อย่างดีประการหนึ่ง ขณะที่จิตใจอยู่ในความฟุ้งซ่าน จนไม่สามารถที่จะสงบระงับได้ มีวิธีที่จะหักห้ามความนึกคิด ทำจิตใจให้เป็นปกติได้ดีที่สุดก็คือการสวดมนต์ตามแบบปฏิบัติในทางพระพุทธศาสนา กำหนดให้มีการสวดมนต์ทำวัตรทั้งเช้าและเย็น เฉพาะผู้ที่มีโอกาสน้อย ไม่สามารถจะบำเพ็ญวัตรได้บริบูรณ์ ในชั่วระยะวันหนึ่งคืนหนึ่ง จะเป็นเวลาใดก็ได้แล้วแต่โอกาสจะเหมาะ จงพยายามสวดมนต์ให้ได้สักครั้งหนึ่ง เพื่อเป็นการฝึกหัดทำจิตของเราให้เป็นสมาธิเป็นประจำ
การสวดมนต์นั้น ถ้ามีดอกไม้ธูปเทียนก็บูชา ถ้าหากไม่มีก็พึงเอามือสิบนิ้ว และปากกับใจของเราเป็นเครื่องบูชา ให้นำมาเอากระแสเสียงศักดิ์สิทธิ์ทั้ง ๓ ประการ คือ
๑. กระแสของพระรัตนตรัย อันได้แก่พระพุทธเจ้า พระธรรมเจ้า พระสังฆเจ้า
๒. กระแสของบิดาและมารดา
๓. กระแสของครูบาอาจารย์
ขอนำมาซึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้ง ๓ กระแสนี้ ให้มาช่วยอุปถัมภ์สมาธิให้บังเกิดกับเรา พึงปฏิบัติกระทั่งทำให้เป็นนิสัยสิน การกระทำสมาธินั้นก็คือการตั้งจิตมั่นอยู่ในอารมณ์เดียว มีพระบรมพุทธโชวาทกล่าวไว้ว่า “สมาธิ ภิกฺขเว ภาเวถ สมาหิโต ยถาภูตํ ปชานาติ” แปลว่า ภิกษุทั้งหลาย ท่านทั้งหลายจงยังสมาธิให้เกิดขึ้นผู้มีจิตเป็นสมาธิแล้ว ย่อมรู้ตามความเป็นจริง จากอุปกรณ์ อุปกรณ์กัมมัฏฐาน ให้ได้อรรถาธิบายไว้ว่า
อาการใจวจรอาจจะเป็นอย่างไรเท่านั้น ย่อมสำเร็จมาจากใจเป็นผู้บังคับบัญชา ถ้าใจได้รับการอบรมดี ก็บังคับบัญชาให้กายวาจาให้ดีไปตาม ถ้าใจชั่วก็บังคับบัญชาให้กายวาจาชั่วไปตามใจเป็นใหญ่ ท่านจึงสอนให้ทำสมาธิให้เกิด เมื่อใจเป็นสมาธิ แม้จะนำไปนึกคิดอะไรก็ละเอียดสุขุม ย่อมรู้จักความเป็นจริงได้ดีกว่าผู้ที่มิใช่ใจเป็นสมาธิ ใจที่ไม่เป็นสมาธินั้นบางคราวอาจทำให้เสียคนได้ เช่นทำให้ตนเคียดแค้น เพราะไม่มีอะไรเป็นเครื่องควบคุม
อำนาจจิตที่เป็นสมาธินั้น เป็นอำนาจจิตที่มีสมรรถภาพ เพราะได้รับ การฝึกฝนมาดีแล้ว ย่อมมีอำนาจสามารถที่จะทำถึงซึ่งเราจะมองเห็นด้วยตาปกติมิได้ ให้บังเกิดขึ้นได้ อุบายที่จะฝึกฝนให้ใจเป็นสมาธินั้น เรียกว่ากัมมัฏฐาน มีอยู่ ๒ ประเภทด้วยกัน คือ
๑. สมถกัมมัฏฐาน กัมมัฏฐานเป็นอุบายสงบใจ หรือกัมมัฏฐานเนื่องด้วยบริกรรม ไม่เกี่ยวกับปัญญา จัดเป็นสมถกัมมัฏฐานชั้นแรก (การสวดมนต์ภาวนาเพื่อให้ใจเป็นสมาธิ จัดว่าอยู่ในประเภทสมถกัมมัฏฐาน)
๒. วิปัสสนากัมมัฏฐาน กัมมัฏฐานเป็นอุบายเรื่องปัญญา หรือกัมมัฏฐานเนื่องด้วยทัศนะทางใจ ในคติของอรรถาปรมัตถภาวะธรรม และ สามัญญลักษณะ จัดเป็นวิปัสสนากัมมัฏฐาน ซึ่งเป็นกัมมัฏฐานชั้นสูง ที่จะทำให้บรรลุความสุขที่แท้จริงคือนิพพาน

ตามหลักไตรสิกขาคือ ศีล สมาธิ ปัญญา ซึ่งเป็นปฏิปทาที่พระพุทธองค์ทรงบัญญัติขึ้นไว้ เพื่อเป็นทางปฏิบัติในพระธรรมวินัย คือเป็นเบื้องต้นที่จะต้องอบรมให้บริบูรณ์ก่อน เพื่อจะได้เป็นเครื่องอุปถัมภ์ให้สมาธิเจริญต่อไป ทางดำเนินเพื่อให้เกิดสมาธินั้น ถือเอาสมถกัมมัฏฐานเป็นวิธีปฏิบัติ เมื่อบริบูรณ์แล้วในสมาธิ จึงเจริญในกองปัญญาสืบต่อไป โดยปฏิบัติตามหลัก
ของวิปัสสนากัมมัฏฐาน ทางดำเนินของสมถกัมมัฏฐานเพื่อให้บรรลุผลในทางสมาธินั้น บัลลุได้สูงสุดเพียงฌานสมาบัติ ๘ คือ
๑. ปฐมฌาน ๒. ทุติยฌาน ๓. ตติยฌาน ๔. จตุตถฌาน (ฌานทั้ง ๔ นี้ เรียกว่ารูปฌาน คือ ฌานที่มีรูป ๔) ๕. อากาสานัญจายตนฌาน ๖. วิญญาณัญจายตนฌาน ๗. อากิญจัญญายตนฌาน ๘. เนวสัญญานาสัญญายตนฌาน (ฌานทั้ง ๔ นี้เรียกว่า อรูปฌาน คือ ฌานที่ไม่มีรูป ๔)
จากนี้ไปก็เข้าชั้นของวิปัสสนากัมมัฏฐาน อันเป็นกองปัญญาตามหลักของวิปัสสนาฌาน ๙ ประการ สำหรับฌานสมาบัตินั้น เพียงกระทำได้ขั้นต้น คือรูปฌาน ๔ ก็สำแดงอิทธิปาฏิหาริย์ได้ เช่นพวกดาบสต่างๆ ตามที่กล่าวไว้ในเรื่องจักรๆ วงศ์ๆ หรือดังเช่นพระเทวทัต เมื่อแรกได้รูปฌานก็สามารถจำแลงกาย ถวายเจ้าอชาตศัตรูมาร ทำให้บังเกิดความเลื่อมใสได้
วิธีบำเพ็ญสมถกัมมัฏฐาน เพื่อปฏิบัติใจให้เป็นสมาธินั้น ท่านได้วางวิธีปฏิบัติไว้หลายวิธี ใช้กษิณบ้าง ใช้คาถาบริกรรมบ้าง เลือกเอาแล้วแต่จะเหมาะกับนิสัยของผู้ปฏิบัติ จุดมุ่งหมายก็คือต้องการให้ดวงจิตเป็นสมาธิแน่วแน่ เพื่อสำเร็จกิจในอิทธิปาฏิหาริย์เท่านั้น การทำสมาธิโดยใช้คาถาบริกรรมนั้น ได้เจริญแพร่หลายมากในพระพุทธศาสนาฝ่ายลัทธิมหายานก่อน บังเกิดมีการสั่งสอนเวทย์มนต์เกิดขึ้น โดยนำวิธีการทางไสยศาสตร์ของพราหมณ์มาใช้ แต่ได้ดัดแปลงแก้ไขดัดแปลงเสียใหม่ ตัดเอามนต์ของพราหมณ์ออก จัดเอาพระพุทธมนต์เข้าแสดงไป โดยให้ข้อแม้ว่ามนต์ของพราหมณ์ยังมีอานุภาพได้ ถ้าหากเป็นพระพุทธมนต์จะต้องทรงอานุภาพยิ่งกว่าเป็นแน่ วิธีการปลุกเสกเลขยันต์ ซึ่งแต่เดิมมาก็เป็นวิธีการทางไสยศาสตร์ อันเป็นของลัทธิพราหมณ์ ก็ได้ถูกดัดแปลงมาใช้ในลัทธิทางพระพุทธศาสนา นับตั้งแต่ครั้งกระนั้นมาแสหมักเร่กเถิดแพร่หลาย จากลัทธิมหายานมาสู่ลัทธิหินยานหรือเถรวาท คือ ลัทธิฝ่ายพระพุทธศาสนา ที่เรานับถือกันมาจนทุกวันนี้ นับเป็นปฐมเหตุที่ก่อให้เกิดการสวดมนต์ภาวนานั้น การสวดมนต์ที่กระทำโดยแบบที่ถูกต้อง พึงกระทำให้ได้เป็น ๔ ระยะ ก่อนที่จะเริ่มระยะที่ ๑ ก็เป็นการถวายดอกไม้ ธูป เทียนเสียก่อน
อ่านต่อ การถวายดอกไม้ ธูป เทียน