ผมไปเจอคาถาบทหนึ่ง ความหมายดีมาก ไม่แน่ใจใครเป็นประพันธ์ไว้ ดูลักษณะของคาถาแล้ว ผู้แต่งเป็นผู้มีความรู้ในด้านภาษาบาลีเป็นอย่างดี น่าจะแต่งขึ้นมาเพื่อพรรณนาคุณแห่งพระธรรม การสวดคาถาเบื้องต้น ให้ตั้ง นะโม 3 จบ ตามด้วยบทสรณคมน์ และบทคาถา
พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ.
ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ.
สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ.
อัคโค เสฎโฐ วะโร ธัมโม อัคคะปุญโญ ปะพุชฌติ อัคคะธัมมัง สุณิปุณัง อัคคะตันตัง ชะยัง เทวะมะนุสสานัง ชะโย โหตุ ปะราชิโต โสกะ สัตเต ปะโมเจนโต โสภะวัณณัง นะมามิหังฯ “
พระธรรมอันยอดเยี่ยมประเสริฐเลิศ ข้าพเจ้าทั้งหลาย..ขอนอบน้อมพระธรรมอันประเสริฐอันดีเลิศที่สุดนั้น..ขอชัยชนะจงมีแก่เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย ผู้ที่แพ้แล้ว จงกลับเป็นผู้ชนะ แลยังสัตว์ทั้งหลาย ผู้ที่มีความทุกข์โศกให้หลุดพ้นฯ.
ผมชอบคำว่า “ผู้ที่แพ้แล้ว จงกลับเป็นผู้ชนะ“
ผู้ที่แพ้แล้ว จงกลับเป็นผู้ชนะ ไม่ได้หมายความว่า คนแพ้แล้วจะชนะในเหตุการณ์นั้น หรือครั้งนั้น ๆ เสมอไป แต่หมายความว่า คนที่ล้ม แพ้ ย่อท้อ สามารถที่จะลุกขึ้นสู้และประสบความสำเร็จได้ ครั้งนี้แพ้ แต่ครั้งหน้ามีโอกาสที่จะกลับชนะได้ สิ่งเลวร้ายต่าง ๆ ก็จะผ่านพ้นไป
จากคำแปลของคาถานี้ เป็นการระลึกถึงพระธรรมอันประเสริฐของพระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐ ด้วยอานุภาพแห่งพระธรรมและการะลึกถึงนั้น ขอให้มนุษย์และเทวดาจงเป็นผู้มีชัยในทุกด้าน ประสบความสำเร็จในทุกอย่าง แม้ผู้ที่แพ้แล้วหรือประสบความล้มเหลวในชีวิตก็ให้ยืนหยัดลุกขึ้นสู้จนกว่าจะมีชัย จากที่เคยแพ้หรือล้มเหลวให้เป็นผู้มีชัยประสบความสำเร็จ อนึ่ง สัตว์ทั้งหลายที่มีความทุกข์โศกขอให้พ้นความความทุกข์โศกนั้น
ที่มา : ธวัชชัย แซ่ตั้ง