หญิงคนหนึ่งได้เสียชีวิตลงอย่างกระทันหัน นางคุกเข่าวิงวอนขอร้องต่อยมบาลว่า “ดิฉันยังไม่อยากตาย ขอเวลาต่อพระยายมราช 1 เดือนเพื่อไปสะสางงานที่คั่งค้างอยู่ มีเรื่องต้องจัดทำมากมาย ยังไม่ได้แบ่งทรัพย์สินให้ลูก ๆ ยังไม่ได้โอนที่ดิน ยังไม่ได้ไปทวงเงินลูกหนี้ ยังมีอีกหลายอย่างที่ต้องจัดการ เมื่อทุกอย่างให้เรียบร้อยแล้วจึงจะยอมตาย”
พระยายมกล่าวว่า “ไม่ได้”
“ถ้าเช่นนั้น ดิฉันขอเวลา 2 อาทิตย์”
พระยายม “ไม่ได้:
“งั้นขอเวลา 1 อาทิตย์ก็ได้”
พระยายมบอกว่า “นาทีเดียวก็ไม่ได้”
หญิงคนนั้นจึงถามว่า “ทำไมไม่ได้ล่ะ ท่านเป็นถึงพระยายม เป็นใหญ่ในยมโลก การที่ดิฉันได้ตายลงอย่างกระทันหันมันไม่ยุติธรรมต่อดิฉันเลย”
พระยายมจึงบอกว่า
“เคยแจ้งเตือนไปหลายครั้งแล้ว ทราบหรือไง”
“การแจ้งเตือนอะไร ดิฉันไม่เห็นรู้เรื่องเลย”
พระยายมเสียงเข้มบอกว่า
“ข้าส่งการแจ้งเตือนเจ้าแล้ว แสดงให้เจ้าเห็นผ่านทางเด็กเกิดใหม่ คนแก่ คนป่วย คนถูกลงโทษ และคนตาย เจ้าไม่เคยเห็นหรือ?
“เคยเห็นค่ะ”
พระยายมราชกล่าวต่อ “เจ้าเห็นเด็กแรกเกิดนอนเกลือกกลั้วเปื้อนเลือด เกิดคู่กับตาย เกิดได้ก็ต้องตายได้ ต้องรีบทำความดี อย่าได้ประมาท
เจ้าเห็นคนแก่ หลังค่อม มีร่างกายเสื่อมโทรมลงทุกวัน มีผมหงอก ฟันหัก ศีรษะล้าน เจ้ามัวแต่ประมาทไม่เร่งทำความดี คิดแต่ว่ายังมีเวลา ๆ
เจ้าเห็นคนเจ็บป่วยไข้ ร้องครวญคราง นอนจมกองอุจจาระและปัสสาวะ แต่เจ้าก็ยังประมาทอยู่ ไม่ทำความดี
เจ้าเห็นนักโทษ คนถูกทำโทษ เพราะทำสิ่งไม่ดี แทนที่เจ้าจะนำมาเป็นข้อคิดในการทำความดี แต่เจ้ากลับเพิกเฉยเสีย
เจ้าเคยไปงานศพ เห็นการตายของญาติมิตรและเพื่อนบ้าน รู้การตายของเพื่อนร่วมโลก แต่เจ้ากลับเพิกเฉย คิดว่าความตายเป็นเรื่องห่างตัว ความตายจะไม่มาถึงเรา แทนที่เจ้าจะทำในสิ่งที่ควรทำ สั่งสมความดี แต่เจ้ากลับประมาทเสีย
ทารก คนแก่ คนป่วย คนถูกลงโทษ คนตาย นี่คือเทวทูตห้าที่ข้าส่งไปแจ้งข่าวเตือนพวกเจ้าไม่ให้ประมาท
เทวทูต 5 มาใน เทวทูตสูตร พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๔ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๖ มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์