Skip to content
พระคุ้มครอง

วัตถุมงคล พระเครื่อง เครื่องราง คาถา สิ่งศักดิ์สิทธิ์

  • Home
  • ทำบุญ
  • ธรรมะ
  • คาถา
  • นิทาน
  • นำโชค
  • เรื่องผี
  • ตำนาน
  • หนังสือ
  • เรียกจิต
  • ประเพณี
  • ภาษาวัด
  • ทายนิสัย
  • พระเครื่อง
  • เครื่องราง
  • นานาสาระ
  • ยาสมุนไพร
  • พระสายกรรมฐาน
พระคุ้มครอง

วัตถุมงคล พระเครื่อง เครื่องราง คาถา สิ่งศักดิ์สิทธิ์

ถ้าทุกสิ่งเป็นอนัตตา จะมัวปฏิบัติดีปฏิบัติชอบไปทำไม

พระคุ้มครอง, 20 กันยายน 202220 กันยายน 2022
เห็นว่าบทความนี้มีประโยชน์ โปรดแชร์....

ถ้าทุกสิ่งเป็นอนัตตา จะมัวปฏิบัติดีปฏิบัติชอบไปทำไม
ถ้าทุกสิ่งเป็นอนัตตา จะมัวปฏิบัติดีปฏิบัติชอบไปทำไม

ถ้าทุกสิ่งเป็นอนัตตา จะมัวปฏิบัติดีปฏิบัติชอบไปทำไม

พระพุทธศาสนาสอนว่าทุกสิ่งเป็นอนัตตาหาสาระมิได้  ถ้าอย่างนั้นแล้วจะหลงปฏิบัติดีปฏิบัติชอบไปทำไม เพราะอะไรๆก็ไม่มีสาระเสียแล้ว?

ฟังดูเผินๆก็น่าจะเป็นอย่างนั้น หากจะตอบสั้นๆก็อาจตอบได้ว่าที่คนต้องปฏิบัติดีปฏิบัติชอบนั้น เพื่อต้องการให้เข้าถึงความรู้แจ้งเห็นจริงในความเป็นอนัตตาแห่งธรรมทั้งหลาย จนสามารถถ่ายถอนตัณหาคืออาการของจิตที่ทะเยอทะยานอยากในสิ่งทั้งหลายและอุปาทานคือความยึดมั่นถือมั่นในขันธ์ทั้งหลายออกไป เปรียบเหมือนการวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ในด้านกายภาพและชีวภาพ  ในการวิเคราะห์นั้น จะวิเคราะห์จนเข้าถึงกฏแห่งความเปลี่ยนแปลงของสรรพสิ่ง จนเห็นว่าไม่ว่าจะเป็นวัตถุหรือสิ่งมีชีวิตก็ตามไม่มีแก่นสารตัวตนอะไรประกอบขึ้นและรวมตัวกันอยู่ด้วยปรมาณูแห่งธาตุทั้งหลาย ในที่สุดจะเข้าถึงการแยกตัวตนออกเป็นพลังงานอันไม่มีตัวตนกลายเป็นพลังในทางทำลายอันมหาศาล เช่นระเบิดปรมาณู อันเกิดขึ้นจากการแยกปรมาณูเพื่อให้เกิดพลังงาน

แต่การให้เห็นความเป็นอนัตตาแห่งธรรมทั้งหลายนั้นไม่เกิดผลในการทำลายล้างคนสัตว์ แต่กลายเป็นพลังในการทำลายกิเลส หรืออวิชชา ด้วยพลังแห่งวิชชาอันจะบังเกิดขึ้นได้ด้วยการละความชั่ว บำเพ็ญความดี หรือการลดปริมาณแห่งอวิชชา ความไม่รู้ เสริมสร้างวิชชา ความรู้ จนอวิชชาหมดไปเพราะความปรากฏอย่างเต็มที่ของวิชชา ได้ชื่อว่า เขาถึงเป้าหมายองค์พระพุทธศาสนา เมื่อถึงระดับนี้แล้วกิจด้วยการละชั่ว ประพฤติดีหมดไปเพราะท่านละได้ทั้งบุญและบาปหมดสิ้นแล้วหากจะตอบเพียงนี้ก็ได้

แต่เห็นควรทำความเข้าใจในประเด็นต่างๆให้ชัดเจนยิ่งขึ้นเพราะเกี่ยวข้องกับหลักธรรมสำคัญในพระพุทธศาสนาซึ่งควรทำความเข้าใจในประเด็นเหล่านี้ คือ

อนัตตา คืออะไร?

ส่วนมากเรามักจะพูดกันว่า อนัตตา ได้แก่ ไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตนฟังแล้วทำให้หลงทางได้ง่าย คำว่าอนัตตาท่านจึงแสดงว่า “ธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตา” โดยแสดงลักษณะ ที่เรียกว่าอนัตตาไว้ว่า
         สิ่งทั้งหลายไม่อยู่ในอำนาจการบังคับบัญชาของใคร
        สิ่งทั้งหลายตรงกันข้ามกับสิ่งที่เป็นตัวตน
        ไม่มีใครเป็นเจ้าของสิ่ง คน ทั้งหลายอย่างแท้จริง
        เมื่อแยกย่อยออกไปแล้วกลายเป็นของสูญคือว่างเปล่าจากตัวตน

ด้วยความหมายที่ท่านนิยามออกมานั้นเป็นการประกาศให้ทราบความจริงของคนสัตว์ สิ่งของทั้งที่เป็นรูปธรรมและนามธรรมว่ามีลักษณะอย่างนั้น ซึ่งเมื่อคนปรับจิตของตนให้เข้าถึงและยอมรับได้ตามสมควรแก่กรณี แล้วย่อมทำให้ความยึดติดในลักษณะต่างๆอ่อนตัวลงไม่ต้องทุกข์โศกเป็นต้น ในเมื่อประสบกับเรื่องที่ชวนให้ทุกข์ให้โศกเป็นต้น ในขณะเดียวกันเพื่อบรรลุถึงความรู้แจ้งเห็นจริงในความเป็นอนัตตานั้น ท่านให้ยึดเอาสาระแห่งธรรมทั้งหลายเหล่านี้ คือ

“ศีล สมาธิ ปัญญา วิมุตติ วิมุตติญาณทัสสนะและปรมัตถสาระ”

ธรรมเหล่านี้ทรงแสดงว่าเป็นสาระแห่งธรรมทั้งหลาย ซึ่งเน้นหนักไปในข้อปฎิบัติที่จะนำคนเข้าไปสู่พระนิพพานคือสภาพจิตที่ถึงความสมบูรณ์แห่งสุขอันเกิดจากความสงบจากสรรพกิเลส หลักกุศลธรรมในพระพุทธศาสนานั้นเมื่อเราแบ่งออกเป็นระดับจะได้สองระดับ คือ

วัฎฎคามีกุศล คือกุศลความดีที่บุคคลจะต้องยอมรับว่ามีอยู่เป็นอยู่แห่งสิ่งทั้งหลายตามโลกบัญญติ เช่น นับถือพ่อแม่ ครูอาจารย์ ให้ทาน รักษาศีล บำเพ็ญภาวนาเป็นต้น แต่ไม่ควรจะยึดติดในสิ่งต่างๆในลักษณะตายตัว เช่นตนมีหน้าที่ ตำแหน่งงานอะไรอยู่ ก็ต้องปฏิบัติตนให้เหมาะสมแก่หน้าที่ตำแหน่งงานนั้นๆให้ถูกต้องสมบูรณ์ แต่ไม่ควรยึดติดว่าตนเป็นนั่นเป็นนี่ จนมีการยกตนเสมอท่านหรือยกตนข่มคนอื่นเป็นต้นหรือยึดถือ ว่าตนเท่านั้นจะต้องเป็นเช่นนี้คนอื่นเป็นไม่ได้ ในระดับนี้พระพุทธศาสนายอมรับความ
จริงตามที่สมมติเรียกร้องกันแต่ไม่ยึดถือเป็นตัวเป็นตนจนเกิดความเดือดร้อน

วิวัฏฏคามีกุศล คือเรื่องที่เป็นความจริงอย่างแท้จริงไม่เกาะเกี่ยวด้วยสมมติบัญญติแต่เป็นปรมัตถธรรมล้วนๆ แต่ควรเข้าใจว่าหลักธรรมแม้ในส่วนที่เป็นวิวัฏฏคามีกุศลคนธรรมดาก็อาจสัมผัสได้ในระดับหนึ่ง เช่นการฆ่าความโกรธที่เกิดขึ้น เป็นการระงับกิเลสไว้ได้ชั่วคราวอันท่านเรียกว่า ตทังควิมุตติ คือจิตหลุดพ้นด้วยองค์นั้นๆ หรือความเข้าถึงอนัตตาแห่งธรรมทั้งหลาย หากคนปรับจิตให้เหมาะสมแล้วสามารถได้รับประโยชน์อย่างมากในขั้นที่เป็นวัฏฏคามีกุศล


เห็นว่าบทความนี้มีประโยชน์ โปรดแชร์....

บทความที่เกี่ยวข้อง

กราบไหว้บูชา พระพุทธรูปสอนไม่ให้ยึดถือ แต่ถ้านับถือพระพุทธศาสนา จะขัดแย้งกับอนัตตาไหม ศาสนาพุทธสอนให้อยู่คนเดียวเป็นการเห็นแก่ตัวเอาตัวรอดใช่ไหมศาสนาพุทธสอนให้อยู่คนเดียวเป็นการเห็นแก่ตัวเอาตัวรอดใช่ไหม พระสงฆ์ธรรมเป็นอกาลิโก ส่วนวินัยเป็นอกาลิโกด้วยหรือไม่ ไหว้พระ สักการะพุทธสถานในอิเดีย สักครั้งในชีวิตหนึ่ง คุณควรพาแฟนไปชาวพุทธขอแต่พร เป็นคนเกียจคร้านทำงาน
ธรรมะคุ้มครอง คำสอนพระพุทธศาสนาอนัตตา

แนะแนวเรื่อง

Previous post
Next post

สวัสดียามเช้า พระคุ้มครอง

  • คลิป VIDEO
  • คอมพิวเตอร์
  • คาถา
  • ดาวน์โหลด
  • ตำนาน
  • ธรรมะคุ้มครอง
  • นานาสาระ
  • นิทาน
  • นิสัยใจคอ
  • บ้านและสวน
  • ประเพณี
  • พระสายกรรมฐาน
  • พระเครื่อง
  • ภาษาวัด ภาษาไทย
  • ยาสมุนไพรโบราณ
  • วัดธรรมยุตในต่างประเทศ
  • ส่งคำอวยพร
  • สังฆทาน
  • สิ่งนำโชค
  • สุขภาพ
  • อาชีพและครอบครัว
  • เครื่องราง
  • เรียกจิต
  • เรื่องผี
  • แนะนำหนังสือ
  • แบ่งปัน
  • ไม้ประดับ ไม้มงคล

เว็บไซต์แห่งนี้ นำเสนอบทความเกี่ยวกับ วัตถุมงคล พระเครื่อง เครื่องราง มนต์คาถา พิธีกรรมต่าง ๆ
ซึ่งทั้งหมด เป็นที่พึ่งทางจิตใจ เป็นความรู้ เป็นความเชื่อที่สืบทอดต่อกันมา
ทางเราไม่อาจจะพิสูจน์ได้ว่า ความเชื่อเหล่านั้นเป็นจริงหรือไม่
ผู้เขียนบทความ ไม่อาจจะรับรองความเชื่อนั้นว่าจะได้ผลจริง หากท่านนำไปปฏิบัติตาม
หน้านโยบายความเป็นส่วนตัว

บทความต่าง ๆ บนเว็บไซต์นี้ แม้ทางเรานำเสนอโดยการศึกษาจากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ จึงมาเขียน ฉะนั้น ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความโดยพยัญชนะ