ศีลทำให้คนมีสมบัติจริงหรือ ถ้าจริงชาวประมงไม่มีศีล แต่ทำไมถึงรวย ?
ศีลทำให้คนมีโภคสมบัติจริงหรือไม่ ถ้าจริงชาวประมงไม่มีศีล แต่ทำไมถึงรวย ? พระพุทธเจ้าทรงแสดงอานิสงส์คือผลอันเกิดขึ้นจากการรักษาศีลไว้ในมหาปริพพานสูตรก่อนกาลปรินิพพานของพระองค์ว่า ศีลที่บุคคลรักษาสำรวมระวังดีแล้วย่อมได้รับอานิสงส์ ๕ ประการ คือ
๑. ย่อมได้ลาภโภคสมบัติเป็นอันมาก
๒. กิตติศัพท์อันดีงามย่อมฟุ้งขจรไปในที่ทั้งปวง
๓. เมื่อไปในท่ามกลางชุมนุมชนใดก็ตามไม่สะทกสะท้านหวั่นไหว
๔. ไม่หลงทำกาลกริยาคือตายอย่างมีสติ
๕. หลังจากตายไปแล้วย่อมบังเกิดในสุคติโลกสวรรค์
ชาวพุทธทั่วไปมักจะได้ยินคำกล่าวของพระเวลาให้ศีลท่านจะจบลงด้วยคำว่า
“ศีลย่อมนำไปสู่สุคติ ศีลให้บุคคลถึงพร้อมด้วยโภคสมบัติ ศีลย่อมนำไปสู่นิพพาน
เพราะเหตุนั้นจงชำระศีลให้บริบูรณ์”
ข้อความเหล่านี้เป็นหลักฐานที่เป็นพระพุทธดำรัส แต่บุคคลอาจสังเกตพบด้วยตนเองว่าใครก็ตามที่ดำรงชีวิตอยู่ด้วยการละเมิดศีล ถูก เขาอาจจะร่ำรวยได้ในบางโอกาส แต่หากลองติดตามดูวาระสุดท้ายแห่งชีวิตของเขาเหล่านั้นจะพบว่า มักจะฉิบหายไป เพราะอันตรายในด้านต่างๆ ตรงกันข้าม กับทรัพย์สมบัติที่เกิดขึ้นแก่ผู้มีศีลอาจจะเป็นการค่อยๆเจริญขึ้น แต่เป็นความเจริญเติบโตอย่างมีสัดส่วนแบบธรรมชาติทั้งหลาย ทรัพย์สมบัติเหล่านั้นจะไม่ฉิบหายไปเพราะอันตรายต่างๆ เรื่องอานิสงส์ศีลส่วนนี้ จะเกิดความเข้าใจได้ดี ต้องอาศัย
การสังเกตพิจารณาบุคคลผู้มีศีลเป็นรายๆไป
การประจักษ์ด้วยตนเองเมื่อตนเป็นผู้มีศีล
การได้ความสุขใจอันเกิดขึ้นจากการทำงานที่ปราศจากโทษ
นอกจากนั้นศีลที่บุคคลรักษาดีแล้วนั้น ย่อมนำไปสู่ความมีอริยทรัพย์คือทรัพย์ที่ประเสริฐเพราะสามารถนำติดตนไปได้ ในกาล สถานที่ คติ ภพทั้งปวง คือ
“ทรัพย์คือศรัทธา ทรัพย์คือศีล ทรัพย์คือหิริ ทรัพย์คือโอตตัปปะ ทรัพย์คือ พาหุสัจจะ
ทรัพย์คือจาคะ ทรัพย์คือปัญญา”
คำว่าทรัพย์คือสิ่งที่นำความปลื้มใจมาให้ จะพบว่าทรัพย์ภายนอกนั้นให้ความปลื้มใจ ที่แฝงไว้ด้วยความวิตกกังวลห่วงใย หวาดหวั่น แต่ทรัพย์คือศีลนั้นให้ความสุขกาย สบายใจที่ถาวร ยืนนาน ข้ามภพ ข้ามชาติได้ ศีลจึงเป็นทางให้เกิดโภคทรัพย์ในระดับต่างๆดังนี้ ส่วนชาวประมงนั้นศีลไม่ได้มีเฉพาะข้อปาณาติบาตเมื่อไรเล่า ศีลข้ออื่น เขาไม่เสียนี่ เมื่อเขาขยันทำงานก็ย่อมได้เงินเป็นธรรมดา.