
มีบางท่านถามมาว่า “ทำบุญแบบทุ่มสุดตัว หรือทำแล้วตนเองลำบาก เดือดร้อนแล้วได้บุญไหม” อันนี้ต้องดูองค์ประกอบหลายๆ อย่าง ถ้าทำบุญถูกวิธีและมีใจยินดีในบุญนั้นอย่างไม่ต้องสงสัย ไม่เสียดายที่ได้ทำลงไป แบบนี้ได้บุญแน่นอน
ยกตัวอย่างง่ายๆ เราอยู่กับแม่สองคน อากาศหนาวมากมีเสื้อหรือผ้าห่มผืนเดียว แล้วเราถอดเสื้อนั้นให้แม่นุ่งห่ม แน่นอนทำแล้วเราต้องหนาว ต้องเดือดร้อน แต่เรายินดีทำ มีใจเบิกบานที่ได้ทำ นึกขึ้นที่ไร ก็ไม่เสียใจที่ได้ทำ แบบนี้ได้บุญแน่นอน
หรือยกตัวอย่างมหาชาดกพระเวสสันดร พระองค์ก็รู้ว่าถ้าให้ทานช้างนี้แก่พราหมณ์ตนเองจะต้องลำบากเดือดร้อนถูกไล่ออกจากเมือง แต่พระองค์ก็ทำ และยอมลำบากเพราะเหตุนี้ และการให้ทานของพระองค์นั้นกลับส่งเสริมบุญบารมีของพระองค์ให้เต็มเปี่ยมจนได้บรรลุพระโพธิญาณในกาลต่อมา
จริงๆ มีตัวอย่างมากมายในเรื่องการทำบุญ ทุกวันนี้ที่เราบอกว่าทำบุญแล้วไม่ได้บุญเพราะว่า
1.เราหวังหรือต้องการบุญที่เป็นรูปวัตถุภายนอกเกินไป เช่น มาทำบุญแล้วต้องถูกหวย ได้เงินทองมาแบบง่ายๆ
2.เพราะทำแล้วรู้สึกเสียดายทีหลัง บ่นทีหลัง เช่น รู้อย่างนี้ไม่ทำดีกว่า ถ้ารู้ว่าทำแล้วจะอด หรือเดือดร้อนไม่ทำดีกว่า ถ้ารู้ว่ามาวัดแล้วไม่ได้ของขลัง ไม่ได้หวยไม่มาดีกว่า
ความรู้สึกสองอย่างนี้ เป็นเหตุบั่นทอนบุญที่ควรจะได้อย่างเต็มทีลงไปมากทีเดียว