การเกิดขึ้นแห่งพระพุทธเจ้าผู้เป็นมหาบุรุษและเอกบุคคลในโลกนั้นเป็นสิ่งที่เกิดได้ยากยิ่ง แต่เกิดขึ้นแล้วย่อมมีเหตุการณ์ที่ไม่ธรรมดาและสิ่งที่ไม่ธรรมดาเกิดขึ้นมาพร้อมกับพระองค์
ในวันเพ็ญ เดือน 6 พระมหาบุรุษโพธิสัตว์ได้ถือกำเนิดขึ้นพร้อมกับด้วยสหชาติ คือบุคคล สัตว์ และสิ่งที่เกิดขึ้นในวันเดียวกับพระองค์ เรียกว่า สหชาติ ซึ่งมี 7 สหชาติ ดังนี้
1. พระนางพิมพา
พระนางพิมพาหรือพระนางยโสธรา พระนาท์ด้ 16 พรรษา เป็นพระมารดาของพระราหุล ภายหลังออกบวชเป็นภิกษุณีมีนามว่า พระภัททกัจจานาเถรี
2. พระอานนท์
พระอานนท์เป็นเจ้าชายแห่งศากยวงศ์ เป็นพระโอรสของพระเจ้าสุกโกทนะ ซึ่งเป็นพระเจ้าอาของเจ้าชายสิทธัตถะ ท่านออกบวชในพุทธศาสนา และคณะสงฆ์ได้มอบหมายให้ท่านเป็นพระพุทธอุปัฏฐาก ท่านได้รับการยกย่องเป็นเอตทัคคะในหลายด้าน ท่านบรรลุเป็นพระอรหันต์หลังจากที่พระพุทธเจ้าปรินิพพานแล้ว 3 เดือน ท่านได้เป็นกำลังสำคัญในการสังคายนาครั้งแรก ท่านดำรงขันธ์อยู่ได้ถึง 120 ปี จึงนิพพานในอากาศเหนือแม่น้ำโรหิณี ซึ่งอยู่ระหว่างแคว้นของพระญาติทั้งสองฝ่ายคือศากยะ และโกลิยะ
3. นายฉันนะ
นายฉันนะเป็นอำมาตย์คนสนิทและสารถีของเจ้าชายสิทธัตถะ ในวันที่เจ้าชายสิทธัตถะเสด็จออกบรรพชาเมื่อพระชนม์ได้ 29 พรรษา นายฉันนะได้ตามเสด็จไปด้วยและได้นำเครื่องอาภรณ์ต่าง ๆ พร้อมทั้งคำกราบทูลของเจ้าชายสิทธัตถะกลับมากรุงกบิลพัสดุ์ ภายหลังได้บวชเป็นพระภิกษุถือตัวว่าเป็นคนใกล้ชิดของพระพุทธเจ้ามาแต่เก่าก่อน ใครว่าอะไรก็ไม่ฟัง หลังจากพระพุทธเจ้าปรินิพานแล้ว ถูกสงฆ์ลงพรหมทัณฑ์หายพยศและได้สำเร็จเป็นพระอรหันต์ในที่สุด
4. อำมาตย์กาฬุทายี
ท่านเป็นพระสหายคนสนิทของเจ้าชายสิทธัตถะ หลังจากที่เจ้าชายสิทธัตถะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าแล้ว พระเจ้าสุทโธนะส่งอำมาตย์กาฬุทายีไปทูลเชิญพระศาสดาเพื่อเสด็จมาโปรดชาวเมืองกรุงกบิลพัสดุ์ อำมาตย์กาฬุทายีได้ไปเผ้าพระศาสดาที่กรุงราชคฤห์ ครั้นเมื่อได้ฟังพระธรรมเทศนาจากพระศาสดาได้บรรลุพระอรหัตตผล อุปสมบทเป็นภิกษุแล้ว จึงได้ทูลเชิญพระบรมศาสดาพร้อมด้วยพระภิกษุสงฆ์เสด็จมายังกรุงกบิลพัสดุ์ ท่านได้รับการยกย่องจากพระศาสดาว่าเป็นผู้เลิศที่สุดในบรรดาพระภิกษุผู้ทำตระกูลให้เลื่อมใส
5. ม้ากัณฐกะ
ม้ากัณฐกะเป็นม้าพระที่นั่งของเจ้าชายสิทธัตถะ ตำนานกล่าวว่าตัวม้ามีความยาวจากคอถึงหาง 18 ศอก มีส่วนสูงที่เหมาะสมกับส่วนยาว มีสีขาวผ่องเหมือนเปลือกหอยสังข์ที่ขัดดีแล้ว ในคืนที่เจ้าชายสิทธัตถะเสด็จออกจากพระราชวังเพื่อพรรพชา ซึ่งการเดินทางในครั้งนี้มีนายฉันนะอำมาตย์คนสนิทติดตามเกาะหางม้ากัณฐกะไปด้วย ม้ากัญฐกะเดินทางมาถึงแม่น้ำอโนมานทีใช้เวลาเที่ยงคืนถึงเช้าระยะทาง 30 โยชน์ (ประมาณ 480 กิโลเมตร) กระโดดครั้งเดียวก็สามารถข้ามแม่น้ำอโนมานทีได้ (บางตำนานว่าเทวดาช่วยพยุงม้า) เมื่อข้ามฝั่งแม่น้ำได้แล้วเจ้าชายสิทธัตถะจึงได้รับสั่งให้ม้ากัณฐกะกลับไปยังเมืองกบิลพัสดุ์ ม้ากัณฐกะได้มองตามเจ้าชายสิทธัตถะที่เสด็จจากไป พอเจ้าชายลับสายตาไป ม้ากัณฐกะก็ถึงแก่ความตายเนื่องจากความเสียใจ และได้ไปเกิดอยู่ในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์มีชื่อว่ากัณฐกเทพบุตร
6. ต้นพระศรีมหาโพธิ์
เมื่อเจ้าชายสิทธัตถะเสด็จออกบรรพชาเมื่อพระชนมายุได้ 29 พรรษา ทรงศึกษาและบำเพ็ญเพียรจนถึงพระชนมายุได้ 35 พรรษา จึงได้ตรัสรู้อนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ เมื่อวันเพ็ญ เดือน 6 ใต้ต้นอัสสัตถะ ต่อมาเรียกว่าต้นโพธิ์ (ต้นไม้แห่งการตรัสรู้) ใกล้แม่น้ำเนรัญชรา ตำบลอุรุเวลาเสนานิคม แคว้นมคธ (ปัจจุบันคือ ตำบลพุทธคยา แขวงเมืองอุรุเวลาเสนานิคม ของรัฐพิหาร) ต้นพระศรีมหาโพธิ์ในปัจจุบันนี้เป็นต้นที่ 4 ซึ่งมีลำดับดับนี้
ต้นพระศรีมหาโพธิ์ต้นที่ 1 เกิดพร้อมกับเจ้าชายสิทธัตถะ มีอายุประมาณ 352 ปี
ต้นพระศรีมหาโพธิ์ต้นที่ 2 มีอายุประมาณ 891 ปี
ต้นพระศรีมหาโพธิ์ต้นที่ 3 มีอายุ 1,227 ปี
ต้นพระศรีมหาโพธิ์ต้นปัจจุบันเป็นต้นที่ 4 ปลูกราว ปีพ.ศ. 2423
7. ขุมทรัพย์ทั้งสี่
ขุมทรัพย์ทั้ง 4 หรือนิธิกุมภี คือขุมทอง 4 ขุม ได้แก่ ขุมทองสังขนิธี ขุมทองเอลนิธี ขุมทองอุบลนิธี ขุมทองปุณฑริกนิธี ขุมทรัพย์ทั้งสี่นี้กเกิดขึ้นเพื่อเจ้าชายสิทธัตถะ หากพระองค์ทรงความเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ แต่เมื่อพระองค์ทรงผนวชตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าขุมทรัพย์นี้ก็อันตรธานไป
บทความแนะนำ…พระโพธิสัตว์ประสูติ หันหน้าไปทิศเหนือ มีดอกบัวรองรับ เดิน 7 ก้าว มีนัยอย่างไร
ข้อมูลคัดลอกกันมา ผมตัดแต่งข้อความนิดหน่อย ขอบคุณข้อมูลจาก ๗ สหชาติ ของพระพุทธเจ้า