วิบากชีวิตและห้วงแห่งกรรมหลังความตายของผีเปรต

ผีเปรตเป็นอีกตำนานผีไทย เป็นผีที่คนไทยมีความคุ้นเคยและรู้จักดีว่าเป็นผีที่ทำกรรม และทำความชั่วก่อนตายมากมาย ทั้งผู้ที่ชอบดุด่าตบตีผู้มีพระคุณหรือบุพการี พ่อแม่ ผู้ที่ชอบฆ่าสัตว์ตัดชีวิต หรือเวรกรรมอื่นๆ อีกมาก เมื่อตายไปดวงวิญญาณ จึงต้องกลายไปเป็นเปรตลำบากแสนเข็ญ และวันนี้เราก็มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับวิบากกรรมของผีเปรตมาเล่าสู่กันฟัง จะเป็นอย่างไรบ้างนั้น ตามไปดูกันเลย

ผีเปรต คืออะไร

ผีเปรต มีรากศัพท์มาจากภาษาสันสกฤตว่า เปรตา หมายถึง ผู้ที่ละโลกนี้ไปแล้วหรือผู้ที่เสียชีวิตไปแล้ว โดยเป็นผีอีกจำพวกหนึ่งที่ได้เคยสร้างบาปกรรมหนักไว้ เมื่อครั้งยังเป็นมนุษย์ พอตายไปแล้วจะต้องมารับกรรม และกลายเป็นเปรตที่มีลักษณะรูปลักษณ์แตกต่างกันไป ซึ่งในคัมภีร์เปรตวัตถุหรือนิรยกถา อันเป็นคัมภีร์ว่าด้วยเรื่องของเปรต แบ่งเปรตออกได้มากถึง 12 พวก ตามแต่แรงกรรมของแต่ละตนที่ได้สร้างไว้ ซึ่งผีเปรตนั้นจะต้องทนทุกข์ อยู่กับความยากลำบากแร้นแค้น ชอบส่งเสียงร้องและมาขอส่วนบุญจากมนุษย์

ลักษณะของผีเปรต

ตามความเชื่อของคนไทยนั้น ผีเปรต เป็นผีที่มีรูปร่างสูงเท่าต้นตาล ผมยาว คอยาว รูปร่างผอมโซ ผิวดำ ท้องโต มือใหญ่เท่าใบตาล แต่มีปากเล็กเท่ารูเข็ม อีกทั้งเปรตจะหิวอยู่ตลอดเวลา เนื่องจากกินอะไรไม่ได้ จึงชอบมาขอส่วนบุญในงานบุญต่างๆ แต่ผีเปรตจะส่งเสียงร้องขอส่วนบุญเป็นคำพูดไม่ได้ ทำได้เพียงส่งเสียงเล็กแหลมเหมือนคนผิวปากให้ได้ยินเท่านั้น ซึ่งผีเปรตนั้นจะต้องสะสมบุญ ให้มากกระทั่งพ้นกรรมที่ทำ จึงจะได้ไปเกิดในชาติใหม่ และจึงจะพ้นจากทุกข์ทรมานที่กำลังเจออยู่

คนทั่วไปไม่สามารถมองเห็นเปรตได้

ตามปกติทั่วไปแล้ว คนธรรมดาไม่สามารถมองเห็นเปรตได้ด้วยตาเปล่า เพราะอยู่ในที่ที่ไม่เหมาะสม ดังนั้นการจะเห็นเปรตได้ จะต้องอยู่ในที่เหมาะสม ที่เปรตไปขอส่วนบุญ อีกทั้งตามความเชื่อผู้ที่จะเห็นเปรตได้ จะต้องเป็นผู้ที่มีสัมผัสที่ 6 หรือมีจิตที่สามารถรับสัญญาณจากผีเปรตได้ตรงกันเท่านั้น จึงจะสามารถเห็นได้

ฤทธิ์เดชของผีเปรตเป็นอย่างไร

ผีเปรตเป็นผีที่ไม่สามารถทำอันตรายคนได้ นอกจากการสร้างความหวาดกลัวให้กับคน ตามความเชื่อเดิม หรือจะเป็นการสร้างความรำคาญใจให้กับคนเท่านั้น ซึ่งการที่เปรตมาปรากฎตัวให้เห็นเพียงต้องการแสดงว่ามันต้องการอะไรบ้างอย่างจากคน บางครั้งต้องการเลือด ของกินหรืออาหารที่มันต้องการ แม้จะกินไม่ได้ก็ตาม อีกทั้งเปรตที่ได้พบเห็นนั้น ยังสามารถดลบันดาลใจคน ด้วยการสร้างภาพหลอน หรือมีการปลอมตัวเป็นคนที่รู้จัก เพื่อมาบอกในสิ่งที่มันต้องการ และเราก็จะได้หาสิ่งที่มันต้องการให้ได้

เสียงของผีเปรตเล็กแหลมน่ารำคาญ

เสียงของผีเปรตมีลักษณะเล็กแหลมมาก ดังกว่าเสียงคนที่กำลังผิวปาก หรือจะเหมือนเสียงไมโครโฟนที่หวีดดังก็ได้ ซึ่งส่วนมากแล้วหากจิตไม่สามารถสัมผัสถึงขนาดเห็นรูปร่างได้ ก็จะได้ยินเพียงเสียงร้องวี๊ดๆ เล็กแหลมของเปรตเท่านั้น ซึ่งเสียงที่แหลมนั้น คงมาจากปากของมันที่มีขนาดเล็ก ไม่สามารถพูดเป็นภาษาคนได้ จึงทำได้แค่ส่งเสียงแหลมๆ เท่านั้น

ความเชื่อของคนรุ่นใหม่เกี่ยวกับเปรต

ในยุคนี้เรื่องของผีเปรต คงเป็นเพียงตำนานเล่าต่อๆ กันเท่านั้น ส่วนเปรตจริงๆ ก็คงมีคนเห็นได้ยาก หากไม่ไปในที่หรือแหล่งที่มีเปรตอยู่จริง แต่คนรุ่นใหม่ก็ยังมีความคุ้นชินเกี่ยวกับผีเปรตว่า เปรตเป็นเพียงเงาร่างสูงใหญ่กว่าต้นตาล เพราะใช้ความเชื่อบวกกับเรื่องเล่า ของคนสมัยก่อนเข้ามาผสมผสานกัน อย่างไรก็ตามสิ่งที่คนรุ่นใหม่ได้ยินได้ฟังมานั้น อาจจะมีอยู่จริงในตอนนี้ หรือหายไปจากโลกนี้แล้วก็ได้ ไม่ว่าในปัจจุบันนี้เรื่องของเปรตจะยังมีอยู่จริงหรือไม่ แต่คนทุกคนต้องหมั่นสร้างคุณงามความดี เพราะตามความเชื่อทางพระพุทธศาสนา คำว่าเปรตวิสัย ซึ่งเป็นหนึ่งในอบายภูมิ 4 ที่เมื่อใครได้ตกลงไปแล้ว จะมีโอกาสกลับมาเป็นมนุษย์ได้ยาก ฉะนั้นเมื่อมีโอกาสได้เป็นมนุษย์แล้วจงเร่งทำความดี เป็นคนกตัญญู ไม่เถียงบิดามารดา ไม่ทำร้ายผู้มีพระคุณ ตอบแทนท่านและดูแลท่านจนแก่เฒ่าเป็นอย่างดี ก่อนจะล้มหายตายจากกันไป รวมทั้งรักษาศีล 5 ด้วย เพียงเท่านี้ก็เชื่อว่าจะทำให้รอดพ้น จากการตกลงไปสู่อบายภูมิเปรตได้แล้ว