บางท่านอ่านแล้วอาจจะตกใจ ถวายเสื้อกันหนาวพระได้ด้วยหรือ อย่าว่าแต่เสื้อกันหนาวเลยครับ หวี แป้งผัดหน้า ผ้าถุง ผมยังเห็นชาวบ้านถวายในงานศพ หรือในห่อผ้าบังสุกุลเลย รู้ทั้งรู้ว่าพระที่ไหนจะใช้หวี พระที่ไหนจะใช้ผ้าถุงลายหมี่ บางคนอาจจะแย้งว่า นั่นเขาถวายอุทิศให้คนตาย อ้าว แล้วเสื้อกันหนาว หมวกกันหนาว ถุงมือ ถุงเท้า ถวายอุทิศให้คนตายไม่ได้หรือ
พอถึงหน้าหนาว ไม่ได้หนาวแต่คนธรรมดานะ พระก็หนาวด้วย จริงอยู่พระท่านมีผ้าสังฆาฏิที่พระพุทธเจ้าอนุญาตให้ใช้กันหนาว แต่นั่นมันในตำรา การรักษาสุขภาพนั้นเป็นเรื่องสำคัญ พระพุทธเจ้าทรงให้ข้อยกเว้นหลายอย่างเกี่ยวกับการรักษาสุขภาพ เกี่ยวกับภิกษุผู้อาพาธ
เป็นอันว่า แม้พระท่านจะใส่เสื้อกันหนาวบ้าง หมวก ถุงมือ ถุงเท้า ทันก็ไม่ได้ใส่เป็นแฟชั่น ไม่ได้ใส่เพื่อความสวยงาม ไม่ได้ใส่ประเจิดประเจ้อ ท่านใส่เพื่อระงับเวทนาที่เกิดจากความหนาว ใส่เพื่อรักษาสุขภาพ ใส่เวลาอยู่ในกุฏิหรือในเวลาจำวัดตอนกลางคืนเท่านั้น ถ้าออกไปข้างนอก หากหนาวมาก ๆ จำเป็นต้องใส่ อย่างพระที่อยู่ต่างประเทศท่านก็ใส่ซ้อนข้างใน แล้วห่มจีวรทับชั้นหนึ่ง หากคุณได้ไปอยู่ต่างประเทศแล้วจะเข้าใจว่าการรักษาสุขภาพนั้นมันสำคัญแค่ไหน ห้ามเจ็บห้ามป่วย ถ้าป่วยแล้วค่ารักษาพยาบาลไม่ใช่ถูก หากเป็นพระเข้าโรงพยาบาลในต่างประเทศก็เสียค่ารักษาแพง เดือดร้อนญาติโยมอีก ฉะนั้นคนไทยในต่างประเทศจึงนิยมถวายเสื้อกันหนาว หมวกกันหนาว ถุงมือกันหนาว ถุงเท้ากันหนาว
สำหรับโลชั่นทาผิวก็สำคัญนะครับ ทาเพื่อรักษาผิวไม่ให้แตก แตกแล้วทำไม ก็มันเจ็บ เลือดไหล บางคนต้องนอนกุมมือหรือกอดอกเพื่อให้ความอบอุ่น โลชั่นจึงเป็นสิ่งที่ควรได้ใช้ในหน้าหนาว บางคนอาจจะคิดแย้งอีก (ข้อแม้มากเหลือเกิน) แล้วทำไมไม่ถวายน้ำมันมะกอกหรือน้ำมันมะพร้าวล่ะ ? ได้ครับน้ำมันมะกอกหรือน้ำมันมะพร้าว น้ำมันพืชน้ำมันงาก็ถวายได้ทั้งนั้น แต่ผมคิดว่ายุคนี้เป็นยุคของโลชั่น ไม่ใช่ยุคน้ำมันมะกอกหรือน้ำมันหมูแล้ว โลชั่นหาซื้อได้ง่ายกว่า เขาผลิตขึ้นมาเพื่อใช้ทาผิวโดยเฉพาะ อย่าลืมว่าถวายของปราณีตก็ย่อมประสบพบเจอสิ่งที่ปราณีต อ่านเพิ่มเติมที่ ปีใหม่นี้ ควรทำบุญด้วยอะไรดี มีประโยชน์ ทำบุญหน้าหนาว ใช้งานตามสมัย ขี้เกียจพิมพ์ล่ะ