ซื้อเตียงมาแล้ว เมียบอกไม่ถูกใจ สปริงแข็ง นอนแล้วเจ็บก้น ทำอย่างไรดี

อย่างที่ผมได้กล่าวในบทความก่อน สาวสวยทำกาแฟหก ฟ้องร้านกาแฟว่าน้ำร้อนเกินไป ซึ่งเกิดขึ้นในประเทศสหรัฐอเมริกา ประเทศเขาน่าอยู่ตรงที่เขาให้สิทธิ์ผู้บริโภคในการเลือกซื้อสินค้า เมื่อซื้อมาแล้ว ใช้งานแล้ว หากไม่พอใจในสินค้าก็สามารถคืนได้ ไม่มีข้อแม้ใด ๆ คืนเต็มไม่มีการมาต่อล้อต่อเถียงกับลูกค้า ไม่เหมือนบ้านเรา ทั้ง ๆ สินค้าบกพร่องเอง คนขายทำผิดเอง หรือให้สินค้าที่บกพร่องแก่เราเอง แต่พอเรานำสินค้าไปคืนหรือแค่นำไปเปลี่ยนใหม่ คนขายทำพูดเหมือนกับตนเองเป็นเจ้าของร้านหรือเจ้าของสินค้าเสียเอง ทั้ง ๆ ที่เขานั่นแหล่ะขายของไม่ดีให้แก่เรา ถ้าหากลูกค้ามาคืนสินค้าหรือเปลี่ยนสินค้าใหม่ หน้าที่ของเขาก็ตรวจรับแล้วคืนเงินให้เขาในกรณีที่เขาต้องการเงินคืน หรือให้สินค้าใหม่แก่เขาในกรณีที่เขาต้องการเปลี่ยน ไม่ใช่ทำตัวโวยวาย หน้าบึ้งใส่เหมือนเรามาขอไปฟรีอย่างนั้นแหล่ะ แต่ในต่างประเทศไม่ใช่อย่างนั้น มีตัวอย่างครับ

สั่ง mini projector มาใช้ ไม่ถูกใจส่งคืน

ผมได้สั่งซื้อ mini projector และกล้องวงจรปิดจากเว็บไซต์ Amazon.com มาหลายครั้ง เมื่อได้ทดสอบการใช้งานดูประมาณ 1 สัปดาห์แล้วรู้สึกไม่ชอบใจในคุณสมบัติการใช้งาน จึงได้ทำเรื่องส่งคืนไปที่ amazon.com ทาง amazon.com ก็ส่งรถมารับถึงที่ คืนเงินให้เราเต็มโดยไม่งอแงแต่อย่างใด

ซื้อเตียงมาแล้ว เมียไม่ชอบ ส่งคืน

เพื่อนของผมซื้อเตียงจากห้างใหญ่ในสหรัฐแล้วมาใช้นอนดูประมาณ 2 สัปดาห์ ปรากฏว่าเมียเขาไม่ชอบใจ สปริงของเตียงแข็งไปหน่อย ทำให้เวลานอนเจ็บหลัง เจ็บก้น ไม่ถูกใจ เขาจึงได้นำเตียงคืนทางร้าน ทางร้านก็แค่ถามว่า “คุณคืนสินค้าเพราะเหตุใด?” เขาก็ตอบว่า “เมียฉันไม่ชอบเตียงนี้” แค่นั้นแหล่ะทางร้านก็ตอบว่า “โอเค ฉันเข้าใจ” และเขารับสินค้าคืนและคืนเงินให้เต็มจำนวน

ซื้อปากมาเกือบเดือน เห็นเขาลดราคาทีหลัง ส่งคืนแล้วซื้อใหม่

เพื่อนของผมซื้อปากกาด้ามหนึ่งในราคา 30 เหรียญ ตอนนั้นทางร้าานก็ประกาศว่าลดราคาพิเศษแล้ว ผ่านไป 3 สัปดาห์ เป็นช่วงเทศกาลคริสต์มาส ทางร้านประกาศลดราคาลงอีกเหลือด้ามละ 10 เหรียญ เพื่อนของผมทราบจึงได้นำปากกาเก่าที่ซื้อไปในราคา 30 เหรียญนั้นไปขอคืนเงิน ทางร้านถามว่า “ขอคืนเงินเพราะเหตุใด?” เพื่อนก็ตอบว่า “ฉันเห็นว่าปากการุ่นนี้ได้ลดราคาลง ถ้าฉันขอคืนเงิน 30 เหรียญนี้ ฉันสามารถซื้อปากกาใหม่ได้ถึง 3 ด้าม” ทางร้านก็หัวเราะ แล้วตอบว่า “โอเค ฉันเข้าใจ” และทำการคืนเงินให้ แล้วเพื่อนก็ไปซื้อปากกาใหม่ได้ถึง 3 ด้ามด้วยเงินที่ได้คืนมาจากปากกาด้ามเดียวนั้น

นี่เป็นแค่ตัวอย่างของการคืนสินค้าในต่างประเทศ ไม่นับรวมสินค้ามีข้อบกพร่อง สินค้ามีตำหนิ การขนส่งผิดพลาด สินค้ามีความเสียหายในขณะขนส่ง ซึ่งทางร้านต้องรับผิดชอบอยู่แล้ว วกมาที่เมืองไทย ห่างไกลกันลึกลับ คนรับสินค้าหน้าบูดบึง คิดว่ามึ….เป็นเจ้าของร้านเองหรือไง ใช่คุณรับผิดชอบในการรับสินค้าคืนก็จริง แต่ลูกค้าคืนสินค้าเพราะมีเหตุแห่งการขอคืนจริง ๆ ไม่มีใครอยากเสียเวลาหอบของมาท่ามกลางรถติดและอากาศเป็นพิษแบบนี้หรอก ฉะนั้น ฝากผู้ให้บริการรับคืนสินค้าในเมืองไทยด้วยครับ