
ความหมายของเครื่องรางของขลัง
เครื่องรางของขลัง คือ วัตถุหรือสิ่งของที่ถูกสร้างขึ้นและผ่านพิธีกรรมทางความเชื่อ เพื่อมอบพลังพิเศษหรือความคุ้มครองแก่ผู้ครอบครอง ในสังคมไทย เครื่องรางของขลังมีหลากหลายประเภท เช่น พระเครื่อง ตะกรุด ผ้ายันต์ มีดหมอ กำไล หรือวัตถุมงคลที่ทำจากไม้ โลหะ หรือกระดูกสัตว์ เชื่อกันว่าสามารถป้องกันภัยอันตราย เสริมโชคลาภ และเพิ่มบารมี
ความเชื่อและรากเหง้าทางวัฒนธรรม
ความเชื่อเรื่องเครื่องรางของขลังในไทยมีรากฐานมาจากหลายแหล่ง ไม่ว่าจะเป็นศาสนาพุทธ ศาสนาพราหมณ์–ฮินดู ความเชื่อพื้นบ้าน และวิชาสายไสยเวท ผสมผสานกันอย่างลงตัว ตัวอย่างเช่น
- พระเครื่อง เกี่ยวพันกับพุทธศาสนา เชื่อว่ามีพุทธคุณคุ้มครอง
- ตะกรุด มีต้นกำเนิดจากคติพราหมณ์ ใช้ป้องกันภัยและเสริมอำนาจ
- ผ้ายันต์ และ เครื่องรางจากธรรมชาติ มาจากความเชื่อพื้นบ้านและไสยศาสตร์
บทบาทของชายไทยกับเครื่องราง
ในอดีตชายไทย โดยเฉพาะทหาร ตำรวจ หรือคนทำงานเสี่ยงอันตราย มักพกเครื่องรางติดตัวเพื่อความมั่นใจ เพราะเชื่อว่าเป็น “เกราะป้องกัน” ทั้งทางกายและใจ นอกจากนั้น ชายหนุ่มจำนวนไม่น้อยยังใช้เครื่องรางเพื่อเสริมเสน่ห์ เมตตามหานิยม และสร้างความเชื่อมั่นในการทำงานหรือการเข้าสังคม
พิธีกรรมและการอาราธนา
การบูชาเครื่องรางมักมาพร้อมพิธีกรรม เช่น การสวดคาถาอาราธนา การไหว้ครู หรือการทำบุญเพื่อเสริมฤทธิ์ของวัตถุ ซึ่งนอกจากจะเป็นการขอพรแล้ว ยังเป็นการย้ำเตือนให้ผู้ครอบครองตั้งตนอยู่ในศีลธรรม เพราะความเชื่อดั้งเดิมมักระบุว่า เครื่องรางจะศักดิ์สิทธิ์ได้ต่อเมื่อผู้ใช้ประพฤติดี
เครื่องรางในสังคมปัจจุบัน
แม้เทคโนโลยีและวิทยาการก้าวหน้า ความนิยมในเครื่องรางของขลังก็ยังคงอยู่ ชายไทยรุ่นใหม่อาจพกเครื่องรางควบคู่กับการใส่ใจด้านความปลอดภัยในชีวิตจริง เช่น ใส่พระเครื่องไว้ในกรอบกันน้ำ หรือพกตะกรุดเล็กติดกระเป๋าสตางค์ ความศรัทธายังคงสืบต่อ แต่ถูกปรับให้เข้ากับวิถีชีวิตยุคใหม่
คาถาบูชาพระเครื่องราง
ถ้ามีพระเครื่องรางต่าง ๆ เช่นตะกรุด เสมา แหวน เหรียญ ยันต์ ให้ใช้คาถานี้บูชา
อิมินา สักกาเรนะ อักขะระยันตัง สันตัง ปะฏิรูปัง อะภิปูชะยามิ ฯ
ทุติยัมปิ อิมินา สักกาเรนะ อักขะระยันตัง สันตัง อะภิปูชะยามิ ฯ
ตะติยัมปิ อิมินา สักกาเรนะ อักขะระยันตัง สันตัง อะภิปูชะยามิ ฯ
เมื่อจะไปไหนมาไหน ต้องการจะให้พระเครื่องรางคุ้มครองให้ทำการบูชาเพื่อระลึกถึงคุณหรือเพื่อเชื่อมจิตเราให้เป็นอันหนึ่งเดียวกับพระเครื่องหรือเครื่องรางเสียก่อน
คาถาปลุกเสกเครื่องราง
นำพระเครื่องรางวางไว้ที่ฝ่ามือปลุกเสกด้วยคาถาดังนี้คือ
โอมมะกะหลุก ๆ อิติพุทธะนิมิตตัง อักขะระยันตัง สันตัง นามะ ปะฏิรูปัง วิเสเส อิอิ พุทธะ นาเม สังวิธา ปุกะยะปะฯ
จบแล้วเป่าลงฝ่ามือ ๑ ครั้งจะมีอิทธิฤทธิ์มากขึ้น ฯ
ถ้าจะปลุกให้รู้อิทธิฤทธิ์ แล้วให้คาถานี้เป่าลง ๓ ครั้ง นั่งบริกรรมจนขึ้นกว่าจะรู้ได้




