
ณ วัดแห่งหนึ่งในภาคอีสาน เกิดปรากฏการณ์แปลกประหลาด คือมีพื้นที่ตรงหนึ่งมีรูขนาดเล็กลงไปยังใต้ดิน ที่ว่าแปลกคือ ฟ้าผ่าตรงพื้นที่เดิม ๆ นั้นซ้ำซากทุกครั้งที่ฝนตก จะปลูกสร้างอาคารอะไรก็ไม่ได้ จะปลูกต้นไม้ ต้นไม้ก็ถูกฟ้าผ่าตายหมดสิ้น
คณะกรรมการจึงนำเหตการณ์ดังกล่าวไปปลึกษาท่านเจ้าอาวาส เพื่อต้องการทราบสาเหตุและหาทางแก้ไข เพื่อจะได้ใช้ที่ตรงนั้นใช้สอยตามสมควร เช่น ปลูกกุฏิถวายวัดหรือปลูกต้นไม้เป็นต้น
ท่านเจ้าอาวาสนั่งนิ่งพิจารณาดูครู่หนึ่งก็บอกว่า อยากรู้ว่าเป็นเพราะเหตุใด ให้นำเสียม (จอบ) ไปขุดแล้วจะเจอสาเหตุและฟ้าจะได้ไม่ต้องผ่าอีก
หลังจากถวายภัตตาหารพระเสร็จและทุกคนรับประทานอาหารเรียบร้อยหมดแล้ว กรรมการวัดจึงชักชวนเด็กวัดไปขุดพิสูจน์ดู โดยมีพระรูปอื่น ๆ ไปสังเกตการณ์ดูด้วย ต่างก็คิดว่ามีอะไรอยู่ตรงนี้หรือไม่ บางคนก็คิดว่าน่าจะมีสายแร่ทองคำอยู่ บางคนก็คิดว่าน่าจะมีของดีหรือวัตถุโบราณอยู่ ขุดไปเรื่อย ๆ ตามรูที่นั้น ๆ ใช้เวลาขุดจนถึงเย็น เกิดเป็นหลุมท่วมหัวก็ไม่เห็นอะไร และรูนั้นก็ไม่มีทีท่าว่าจะสิ้นสุดลง
ก่อนที่จะมืด ท่านเจ้าอาวาสท่านก็เดินมาดูพร้อมกับถามว่าเจออะไรไหม หลังจากที่คณะขุดได้กราบเรียนท่านว่าไม่เจออะไรเลย ท่านเจ้าอาวาสก็ใช้มือเขี่ยดินที่ขุดแล้วไปมาสองสามครั้งแล้วจึงหยิบหินหรือโลหะกลม ๆ ขึ้นมาพร้อมกับพูดว่า “นี่ไง ลูกปืนพญาแถน” แล้วท่านก็เดินกลับกุฏิไป
ทุกคนที่ลุ้นว่าขุดแล้วจะเจออะไร ต่างก็มองหน้าซึ่งกันและกัน จากนั้นก็หยุดขุด แยกย้ายกันไปทำกิจธุระส่วนตัว เป็นอันว่าการขุดยุติลงแต่เพียงเท่านั้น
การขุดค้นหาของดีในครั้งนั้นทำให้เกิดหลุมขนาดใหญ่ ลึกเกือบท่วมศีรษะ ผลที่ตามมาเป็นดังคำของท่านเจ้าอาวาสพูดจริง ๆ คือ ไม่เกิดเหตุการณ์ฟ้าผ่าขึ้นอีกเลย

ผมคนเขียน ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ แต่เป็นเรื่องที่ได้ฟังมา จากการพิจารณาของผม ก็เป็นไปได้ที่ฟ้าจะผ่าลงมาเพราะวัตถุที่เท่าเจ้าอาวาสเก็บไป หรืออีกประการหนึ่ง การขุดจนทำให้เกิดหลุมขนาดใหญ่ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ขึ้นได้ ทั้งความหนาแน่นของมวลสาร ความลาดเอียงของพื้นที่ คือเมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงพื้นที่ ฟ้าก็อาจจะไม่ผ่าตรงนั้นอีก
ส่วนภาพประกอบบทความ ไม่เกี่ยวกับเนื้อหาใด ๆ ทั้งสิน ผมนำมาภาพจาก Pixabay มาประกอบบทความเท่านั้น