ศิวลึงค์ ลึงค์ หรือ ลิงค์ หมายถึง เครื่องหมาย สัญลักษณ์ เพศ องคชาต อันที่ก่อเกิดลูกหลานชั่วนิรันดร์ ศิวลึงค์ถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ของพระศิวะเทพเจ้าในศาสนาฮินดู เป็นสิ่งการบูชาสักการะในโบสถ์วิหารฮินดู แต่ในวงศาสนาฮินดูเองก็ยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ว่า แท้จริงแล้ว ศิวลึงค์เป็นตัวแทนทางกายภาพของเทพเจ้าหรือเป็นแค่เครื่องหมายทางจิตวิญญาณเท่านั้น
ศิวลึงค์ ถูกตีความว่าเป็นเครื่องหมายที่แสดงถึงพลังสร้างสรรค์ในบุรุษเพศที่มาจากองคชาต ปัจจุบันชาวฮินดูส่วนใหญ่มองศิวลึงค์เป็นเครื่องหมายแห่งพลังความศักดิ์สิทธิ์มากกว่าเครื่องหมายทางเพศ
ศิวลึงค์มักถูกสร้างคู่กับโยนี อันเป็นสัญลักษณ์ของพระแม่ปารวตีอันบ่งบอกถึงพลังสร้างสรรค์แห่งสตรีเพศ การที่ศิวลึงค์และและโยนีอยู่ร่วมกันนั้น ย่อมเป็นการแสดงถึง “ความเป็นสองในหนึ่งเดียวที่แยกออกจากกันไม่ได้ของบุรุษและสตรี อวกาศที่หยุดนิ่งและเวลาซึ่งเคลื่อนที่อันเป็นต้นกำเนิดของสรรพชีวิต”
ตั้งแต่สิ้นคริสต์ศตวรรษที่ 19 นักวิชาการทั้งหลายตีความว่าศิวลึงค์และโยนีเป็นอวัยวะเพศชายและหญิง แต่ชาวฮินดูกลับมองว่าทั้งสองสิ่งนี้เป็นเครื่องแสดงถึงหลักการที่ว่าหญิงและชายไม่อาจแยกออกจากกันได้และเป็นเครื่องหมายแห่งการก่อกำเนิดของสิ่งทั้งปวง
ปลัดขิกที่ถูกสร้างโดยเกจิอาจารย์ทั้งหลายในประเทศไทย เข้าใจว่า ได้แนวคิดหรือต้นแบบมาจากศิวลึงค์นั่นเอง แต่ได้เปลี่ยนขนาดให้ง่ายต่อการพกพา และใช้วัสดุที่หาง่ายในท้องถิ่น เป็นต้นว่า ไม้มงคลต่าง ๆ นำมาจัดสร้าง แล้วเสกด้วยมนต์คาถาที่ได้เรียนมา
ในกลุ่มคนที่นิยมชมชอบปลัดขิก เชื่อว่าปลัดขิกมีอิทธิคุณในด้านเมตตามหานิยม ค้าขาย ส่งเสริมในด้านโชคลาภ มีกินมีใช้ไม่มีอด นอกจากนั้นยังเชื่อว่ามีอิทธิคุณด้านแคล้วคลาดปลอดภัย คงกระพันชาตรีอีกด้วย โดยปลัดขิกที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก คือปลัดขิกหลวงพ่อเหลือ วัดสาวชะโงก และ ปลัดขิกหลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ
ที่มา : https://th.wikipedia.org/wiki/ศิวลึงค์