Skip to content
พระคุ้มครอง

วัตถุมงคล พระเครื่อง เครื่องราง คาถา สิ่งศักดิ์สิทธิ์

  • Home
  • ทำบุญ
  • ธรรมะ
  • คาถา
  • นิทาน
  • นำโชค
  • เรื่องผี
  • ตำนาน
  • หนังสือ
  • เรียกจิต
  • ประเพณี
  • ภาษาวัด
  • ทายนิสัย
  • พระเครื่อง
  • เครื่องราง
  • นานาสาระ
  • ยาสมุนไพร
  • พระสายกรรมฐาน
พระคุ้มครอง

วัตถุมงคล พระเครื่อง เครื่องราง คาถา สิ่งศักดิ์สิทธิ์

ธุดงค์คืออะไร อีกคำที่คนไทยเข้าใจผิดมากที่สุด

พระคุ้มครอง, 24 ธันวาคม 202224 ธันวาคม 2022
เห็นว่าบทความนี้มีประโยชน์ โปรดแชร์....

ธุดงค์คืออะไร อีกคำที่คนไทยเข้าใจผิดมากที่สุด
ธุดงค์คืออะไร อีกคำที่คนไทยเข้าใจผิดมากที่สุด

เมื่อเห็นพระเดินแบกกลด สะพายบาตร สะพายย่าม ไปตามที่ต่าง ๆ คนไทยส่วนมากมักเข้าใจว่านั่นคือพระธุดงค์

ธุดงค์ คืออะไร

ธุดงค์ แปลตามรูปศัพท์ว่า องค์คุณเป็นเครื่องกำจัดกิเลส, องค์คุณของผู้กำจัดกิเลส หรือ การสมาทานเพื่อเป็นเครื่องกำจัดกิเลสอันอันตรายต่อสัมมาปฏิบัติ

ธุดงค์ เป็นวัตรปฏิบัติที่พระพุทธเจ้าทรงอนุญาตแก่พระภิกษุ ไม่มีการบังคับว่าต้องปฏิบัติ แล้วแต่ผู้ใดจะสมัครใจปฏิบัติ ซึ่งข้อปฏิบัติที่เรียกว่าธุดงค์นั้นแบ่งเป็น 4 หมวด รวม 13 ข้อ จะปฏิบัติพร้อมกันทั้ง 13 ข้อ หรือเลือกข้อปฏิบัติตามแต่จะปฏิบัติได้ หรือไม่ปฏิบัติเลยก็ได้ ไม่มีความผิดอันใด

ธุดงค์ 13

หมวดที่ 1 จีวรปฏิสังยุต (เกี่ยวกับจีวร — connected with robes)

           1. ปังสุกูลิกังคะ (องค์แห่งผู้ถือทรงผ้าบังสุกุลเป็นวัตร คำสมาทานโดยอธิษฐานใจหรือเปล่งวาจาว่า “คหปติจีวรํ ปฏิกฺขิปามิ, ปํสุกูลิกงฺคํ สมาทิยามิ” แปลว่า “เรางดคฤหบดีจีวร สมาทานองค์แห่งผู้—” — refuse-rag-wearer’s practice)
           2. เตจีวริกังคะ (องค์แห่งผู้ถือทรงเพียงไตรจีวรเป็นวัตร คำสมาทานว่า “จตุตฺถจีวรํ ปฏิกฺขิปามิ, เตจีวริกงฺคํ สมาทิยามิ” แปลว่า “ข้าพเจ้างดจีวรผืนที่ 4 สมาทานองค์แห่งผู้—” — triple-robe-wearer’s practice)

หมวดที่ 2 ปิณฑปาตปฏิสังยุต (เกี่ยวกับบิณฑบาต — connected with almsfood)

           3. ปิณฑปาติกังคะ (องค์แห่งผู้ถือเที่ยวบิณฑบาตเป็นวัตร คำสมาทานว่า “อติเรกลาภํ ปฏิกฺขิปามิ, ปิณฺฑปาติกงฺคํ สมาทิยามิ” แปลว่า “ข้าพเจ้างดอติเรกลาภ สมาทานองค์แห่งผู้—” — alms-food-eater’s practice)
           4. สปทานจาริกังคะ (องค์แห่งผู้ถือเที่ยวบิณฑบาตไปตามลำดับเป็นวัตร คำสมาทานว่า “โลลุปฺปจารํ ปฏิกฺขิปามิ, สปทานจาริกงฺคํ สมาทิยามิ” แปลว่า “ข้าพเจ้างดการเที่ยวตามใจอยาก สมาทานองค์แห่งผู้—” — house-to-house-seeker’s practice)
           5. เอกาสนิกังคะ (องค์แห่งผู้ถือนั่งฉัน ณ อาสนะเดียวเป็นวัตร คือฉันวันละมื้อเดียว ลุกจากที่แล้วไม่ฉันอีก คำสมาทานว่า “นานาสนโภชนํ ปฏิกฺขิปามิ, เอกาสนิกงฺคํ สมาทิยามิ” แปลว่า “ข้าพเจ้างดเว้นการฉัน ณ ต่างอาสนะ สมาทานองค์แห่งผู้—” — one-sessioner’s practice)
           6. ปัตตปิณฑิกังคะ (องค์แห่งผู้ถือฉันเฉพาะในบาตรเป็นวัตร คือ ไม่ใช้ภาชนะใส่อาหารเกิน 1 อย่างคือบาตร คำสมาทานว่า “ทุติยภาชนํ ปฏิกฺขิปามิ, ปตฺตปิณฺฑิกงฺคํ สมาทิยามิ” แปลว่า “ข้าพเจ้างดภาชนะที่สอง สมาทานองค์แห่งผู้—” — bowl-food-eater’s practice)
           7. ขลุปัจฉาภัตติกังคะ (องค์แห่งผู้ถือห้ามภัตที่ถวายภายหลังเป็นวัตร คือเมื่อได้ปลงใจกำหนดอาหารที่เป็นส่วนของตน ซึ่งเรียกว่าห้ามภัต ด้วยการลงมือฉัน เป็นต้นแล้ว ไม่รับอาหารที่เขานำมาถวายอีก แม้จะเป็นของประณีต คำสมาทานว่า “อติริตฺตโภชนํ ปฏิกฺขิปามิ, ขลุปจฺฉาภตฺติกงฺคํ สมาทิยามิ” แปลว่า “ข้าพเจ้างดโภชนะอันเหลือเฟือ สมาทานองค์แห่งผู้—” — later-food-refuser’s practice)

ปิณฑปาติกังคะ ถือเที่ยวบิณฑบาตเป็นวัตร เป็นหนึ่งในธุดงค์ 13
ปิณฑปาติกังคะ ถือเที่ยวบิณฑบาตเป็นวัตร เป็นหนึ่งในธุดงค์ 13

หมวดที่ 3 เสนาสนปฏิสังยุต (เกี่ยวกับเสนาสนะ — connected with the resting place)

           8. อารัญญิกังคะ (องค์แห่งผู้ถืออยู่ป่าเป็นวัตร อยู่ห่างบ้านคนอย่างน้อย 500 ชั่วธนู คือ 25 เส้น คำสมาทานว่า “คามนฺตเสนาสนํ ปฏิกฺขิปามิ, อารญฺญิกงฺคํ สมาทิยามิ” แปลว่า “ข้าพเจ้างดเสนาสนะชายบ้าน สมาทานองค์แห่งผู้—” — forest-dweller’s practice)
           9. รุกขมูลิกังคะ (องค์แห่งผู้ถืออยู่โคนไม้เป็นวัตร คำสมาทานว่า “ฉนฺนํ ปฏิกฺขิปามิ, รุกฺขมูลิกงฺคํ สมาทิยามิ” แปลว่า “ข้าพเจ้างดที่มุงบัง สมาทานองค์แห่งผู้—” — tree-root-dweller’s practice)
           10. อัพโภกาลิกังคะ (องค์แห่งผู้ถืออยู่ที่แจ้งเป็นวัตร คำสมาทานว่า “ฉนฺนญฺจ รุกฺขมูลญฺจ ปฏิกฺขิปามิ, อพฺโภกาสิกงฺคํ สมาทิยามิ” แปลว่า “ข้าพเจ้างดที่มุงบังและโคนไม้ สมาทานองค์แห่งผู้—” — open-air-dweller’s practice)
           11. โสสานิกังคะ (องค์แห่งผู้ถืออยู่ป่าช้าเป็นวัตร คำสมาทานว่า “อสุสานํ ปฏิกฺขิปามิ, โสสานิกงฺคํ สมาทิยามิ” แปลว่า “ข้าพเจ้างดที่มิใช่ป่าช้า สมาทานองค์แห่งผู้—” — charnel-ground-dweller’s practice)
           12. ยถาสันถติกังคะ (องค์แห่งผู้ถืออยู่ในเสนาสนะแล้วแต่เขาจัดให้ คำสมาทานว่า “เสนาสนโลลุปฺปํ ปฏิกฺขิปามิ, ยถาสนฺถติกงฺคํ สมาทิยามิ” แปลว่า “ข้าพเจ้างดความอยากเอาแต่ใจในเสนาสนะ สมาทานองค์แห่งผู้—” — any-bed-user’s practice)

 หมวดที่ 4 วิริยปฏิสังยุต (เกี่ยวกับความเพียร — connected with energy)

           13. เนสัชชิกังคะ (องค์แห่งผู้ถือการนั่งเป็นวัตร คือเว้นนอน อยู่ด้วยเพียง 3 อิริยาบถ คำสมาทานว่า “เสยฺยํ ปฏิกฺขิปามิ, เนสชฺชิกงฺคํ สมาทิยามิ” แปลว่า “ข้าพเจ้างดการนอน สมาทานองค์แห่งผู้—” — sitter’s practice)

จะเห็นว่า ธุงดงค์ทั้ง 13 ข้อนี้ ไม่มีข้อไหนเลยที่กำหนดว่า ต้องเดินแบกกลด สะพายบาตร สะพายย่าม ไปในตามถนนหนทางหรือป่าเขา เดินเป็นวัตรไม่มี สะพายกลดเป็นวัตรไม่มี ไม่ขึ้นรถเป็นวัตรก็ไม่มีเช่นกัน

พระในเมือง อยู่ในห้องแอร์ ก็สามารถสมาทานธุดงค์ เนสัชชิกังคะ ได้ คือไม่นอนในระยะเวลาที่อธิษฐานไว้ สามารถสมาทานธุดงค์ ปิณฑปาติกังคะ คือเที่ยวบิณฑบาตเป็นวัตรได้ ไม่รับกิจนิมนต์ฉันที่อื่นนอกจากอาหารที่บิณฑบาตได้เท่านั้น แต่คนไทยก็แปลกอีก เมื่อพระท่านไม่รับกิจนิมนต์ ก็กล่าวว่าพระหยิ่ง ไม่ทำกิจของสงฆ์ ทั้งที่จริงท่านอาจจะสมาทานธุดงค์ปิณฑปาติกังคะก็ได้

พระที่ขึ้นรถ นั่งเครื่องบิน เดินทางไปมา ท่านอาจจะปฏิบัติธุดงค์ข้อใดข้อหนึ่งในธุดงค์ทั้ง 13 ข้อนี้ก็เป็นได้

เนสัชชิกังคะ  ธุดงค์ว่าด้วยการถือการยืน เดิน นั่ง เป็นวัตร
เนสัชชิกังคะ ธุดงค์ว่าด้วยการถือการยืน เดิน นั่ง เป็นวัตร ซึ่งไม่เกี่ยวกับว่าจะนั่งในป่า ในกลด ในกุฏิ หรือในห้องแอร์ ส่วนการอยู่ปา อยู่โคนต้นไม้ เป็นอีกข้อหนึ่ง

อาจจะมีคำกล่าวว่า “ตำรากับการปฏิบัติจริงมันต่างกันนะ อย่าคาบแต่ตำรามาพูด“

ในข้อนี้ จึงย้อนถามว่า แล้วท่านปฏิบัติธุดงค์ตามใคร ถ้าตามพระพุทธเจ้าก็ต้องปฏิบัติตามที่พระพุทธเจ้าทรงวางไว้ ถ้าเช่นนั้นก็ไม่ควรเรียกว่า ธุดงค์ ตามพระพุทธเจ้า

อาจจะมีคำแย้งว่า ก็ท่านปฏิบัติธุดงค์ตามหลวงปู่องค์นั้นหลวงพ่อรูปนี้ที่ท่านปฏิบัติมาก่อนจนมีเชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับ แล้วหลวงปู่หลวงพ่อที่เอ่ยถึงนั้นท่านบวชตามใคร ปฏิบัติตามใคร ทำไมถึงเรียกว่าธุดงค์

การเดินนั้น ก็คือการสัญจรจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่งซึ่งมีแต่โบราณ คนและพระสมัยก่อนก็อาศัยการเดินทางด้วยเท้ากันทั้งนั้น ด้วยเหตุนี้ การเดินจึงไม่มีในธุดงค์ 13 (เพราะใคร ๆ ในสมัยพุทธกาลที่ไม่มีม้ามีเกวียนก็เดินกันทั้งนั้น ไม่มีความพิเศษอะไร)

ส่วนการสะพายบาตร ย่าม นั่นเป็นบริขารของพระอยู่แล้วที่ต้องมีใช้ประจำตัว ส่วนกลดก็เหมือนมุ้งมีไว้ป้องกันยุง ฝน ลม แดด เวลาที่ต้องพักค้างแรม

ที่เขียนนี้ ไม่ได้ต่อต้านพระที่เดินแบกกลด สะพายบาตร สะพายย่าม ไปตามที่ต่าง ๆ ว่าไม่ถูกต้องดีงาม ที่ท่านทำนั้นดีงามแล้ว เพียงแต่ไม่ใช่ธุดงค์ตามที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ และเราก็ไม่รู้ว่าพระที่เดินแบกกลด สะพายบาตร สะพายย่าม ไปตามที่ต่าง ๆ นั้นท่านสมาทานธุดงค์ข้อใดในธุดงค์ 13 ข้อ ถ้าเห็นท่านฝากถามท่านด้วยก็ดี

ข้อมูล : พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต) พระธรรมปิฎก (ประยุทธ์ ปยุตฺโต)


เห็นว่าบทความนี้มีประโยชน์ โปรดแชร์....

บทความที่เกี่ยวข้อง

สามเรื่องที่คนไทยเข้าใจผิดชนิดสุดขั้วสามเรื่องที่คนไทยเข้าใจผิดชนิดสุดขั้ว คำจบทำบุญ ตักบาตรทำบุญวันเกิดง่าย ๆ ได้บุญทุกขั้นตอน สุขสันต์วันเกิดครับ การบำรุงพระภิกษุ-สามเณรอาพาธมารดาบิดาผู้จะพึงพยาบาลพวกเธอก็ไม่มี หากเธอไม่พยาบาลกันเอง ใครเล่า จักพยาบาล เหรียญเสมาธรรมจักร ท่านพ่อลี วัดอโศการาม สมุทรปราการเหรียญเสมาธรรมจักร ท่านพ่อลี วัดอโศการาม สมุทรปราการ
ธรรมะคุ้มครอง พระธุดงค์พระสายกรรมฐาน

แนะแนวเรื่อง

Previous post
Next post

สวัสดียามเช้า พระคุ้มครอง

  • คลิป VIDEO
  • คอมพิวเตอร์
  • คาถา
  • ดาวน์โหลด
  • ตำนาน
  • ธรรมะคุ้มครอง
  • นานาสาระ
  • นิทาน
  • นิสัยใจคอ
  • บ้านและสวน
  • ประเพณี
  • พระสายกรรมฐาน
  • พระเครื่อง
  • ภาษาวัด ภาษาไทย
  • ยาสมุนไพรโบราณ
  • วัดธรรมยุตในต่างประเทศ
  • ส่งคำอวยพร
  • สังฆทาน
  • สิ่งนำโชค
  • สุขภาพ
  • อาชีพและครอบครัว
  • เครื่องราง
  • เรียกจิต
  • เรื่องผี
  • แนะนำหนังสือ
  • แบ่งปัน
  • ไม้ประดับ ไม้มงคล

เว็บไซต์แห่งนี้ นำเสนอบทความเกี่ยวกับ วัตถุมงคล พระเครื่อง เครื่องราง มนต์คาถา พิธีกรรมต่าง ๆ
ซึ่งทั้งหมด เป็นที่พึ่งทางจิตใจ เป็นความรู้ เป็นความเชื่อที่สืบทอดต่อกันมา
ทางเราไม่อาจจะพิสูจน์ได้ว่า ความเชื่อเหล่านั้นเป็นจริงหรือไม่
ผู้เขียนบทความ ไม่อาจจะรับรองความเชื่อนั้นว่าจะได้ผลจริง หากท่านนำไปปฏิบัติตาม
หน้านโยบายความเป็นส่วนตัว

บทความต่าง ๆ บนเว็บไซต์นี้ แม้ทางเรานำเสนอโดยการศึกษาจากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ จึงมาเขียน ฉะนั้น ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความโดยพยัญชนะ