ก่อนที่เราจะมาเป็นเราทุกวันนี้ เราได้เวียนว่ายตายเกิดมาแล้วไม่รู้กี่ภพกี่ชาติ เชื่อว่าเราทุกคนต่างก็เคยเกิดมาเป็นญาติพี่น้อง พ่อแม่ลูก สามีภรรยากันมาแล้ว เป็นเพื่อนรักและศรัตรูกันมาแล้วไม่ชาติใดก็ชาติหนึ่ง จากนั้นก็ต่างคนต่างไปตามกรรมที่ตนเองได้สร้างไว้ กรรมดีก็ไปสู่สุคติเกิดเป็นเทวดาหรือมนุษย์โลก กรรมชั่วก็สู่อบายภูมิต่าง ๆ ฉะนั้นการที่เราได้เกิดมาเป็นคนนั้น ญาติมิตร พ่อแม่หรือผู้มีพระคุณ มิตรสหายที่รักเราอาจจะมีบางท่านหรือบางชาติที่ได้เกิดเทวดา และท่านเหล่านั้นยังรักและห่วงใยเราอยู่ จึงกลายเป็นเทวดาประจำตัวเราด้วยความผูกพันที่ได้เคยทำกรรมร่วมกันมา
การขอขมาเทวดา หรือการบูชาเทวดา หรือการอุทิศบุญให้แก่เทวดานั้น คือการผูกมิตรไมตรีต่อเทวดาเหล่านั้น เหมือนเราผูกมิตรกับญาติผู้ใหญ่ในสถานที่ที่เราอยู่อาศัย อย่างเราไปพักในหมู่บ้านใด เราก็บอกกล่าวกับผู้ใหญ่บ้าน กำนันในหมู่บ้านนั้น ๆ เราก็ย่อมได้รับการคุ้มครองจากผู้ใหญ่บ้านหรือกำนันที่เป็นใหญ่ในถิ่นนั้น ๆ การขอขมาเทวดา การบอกกล่าวเทวดา การสร้างสัมพันธไมตรีกับเทวดาประจำกายเราก็เหมือนกัน เป็นการผูกมิตรไมตรีเปิดโอกาสให้ท่านได้มาช่วยเหลือเหล่าได้อย่างเต็มที่
คำกล่าวขอขมาเทวดาประจำกาย
การขอขมาเทวดานั้นอย่างน้อยควรมีเครื่องสักการะท่านบ้าง ให้เน้นของหอมและสวยงาม ได้แก่ ดอกไม้ที่มีกลิ่นหอม เทียนหอม ธุปหอม หรือจะเพิ่มมะพร้าวอ่อนสักลูกก็ได้ จัดใส่พาน ตกแต่งให้สวยงาม หลังจากเราสวดมนต์ไหว้พระเสร็จแล้ว ให้กล่าวคำขอขมาเทวดาดังนี้
อิติ สุขะคะโต อะระหัง พุทโธ นะโมพุทธายะ ปะฐะวีคงคา พรหมะเทวา อินทะเทวา อังคะเทวา อาคันตุกะเทวะตา รุกขะเทวาพาลี ชัยยะมังคะลา อาจาริยัง อาจาริยะเทวา มุนีสิทธิ มาตาปิตุโร อะโรคะเยนะ สุขเขนะจะ ขะมามิหัง สาธุ สาธุ สาธุ
ด้วยอานุภาพแห่งพระพุทธเจ้าทั้งปวง ด้วยอานุภาพแห่งพระธรรมเจ้าทั้งปวง ด้วยอานุภาพแห่งพระสงฆเจ้าทั้งปวง ด้วยอานุภาพแห่งพระรัตนตรัยทั้ง 3 ประการนี้ ขอได้โปรดดลบันดาลให้บุญที่ข้าพเจ้าได้บำเพ็ญมาแล้วตั้งแต่อดีตชาติจนถึงปัจจุบันชาตินี้
ข้าพเจ้าขออุทิศส่วนบุญนี้ ให้แก่เทวดาทั้งหลายที่รักษาตัวของข้าพเจ้า ให้แก่เทวดาทั้งหลายที่รักษาบ้านเรือนที่อยู่อาศัยของข้าพเจ้า ให้แก่เทวดาทั้งหลายที่รักษากิจการค้าขายของข้าพเจ้า ถ้าท่านทั้งหลายตกทุกข์ขอให้พ้นจากทุกข์ ถ้าท่านทั้งหลายมีสุขขอให้มีความสุขยิ่ง ๆ ขึ้นไป ขอท่านทั้งหลายจงมีแต่ความสุข ความเจริญ มีอาหารอันดีเลิศ มีอาภรณ์อันประเสริฐ ขอให้ท่านจงมีภพมีภูมิที่สูงขึ้นยิ่งขึ้น และเจริญยิ่งๆ ขึ้นไป เมื่อท่านทั้งหลายได้รับผลบุญของข้าพเจ้าแล้ว ขอได้โปรดอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้า และขอได้โปรดอนุโมทนาบุญกับข้าพเจ้าด้วยเถิด
เมื่อท่านทั้งหลายได้อนุโมทนาบุญกับข้าพเจ้าแล้ว ขอได้โปรดอวยพรให้ข้าพเจ้า จงมีแต่ความสุขความเจริญ มีความเจริญรุ่งเรืองและแคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายทั้งหลายทั้งปวง จงมีความสำเร็จในหน้าที่การงาน การเงิน การติดต่อ การค้าขาย การดำเนินชีวิตให้ดียิ่งขึ้น
ขอให้ข้าพเจ้าชนะศัตรูหมู่คนพาล เป็นที่รักของมนุษย์ทั้งหลาย และขอให้ข้าพเจ้าจงมีแต่ความสุข มีโชคลาภอยู่เสมอ และสำเร็จดังที่ปรารถนาโดยเร็วพลันเทอญ
ในเรื่องนี้ พระพุทธเจ้าได้เคยตรัสไว้ใน เทวะตาทิสสะทักขิณานุโมทะนาคาถา ซึ่งขึ้นว่า ยัสมิง ปะเทเส กัปเปติ วาสัง ปัณฑิตะชาติโย เป็นต้น ซึ่งแปลเป็นใจความได้ว่า “บัณฑิตชาติ อยู่ในประเทศสถานที่ใด พึงเชิญเหล่าท่านที่มีศีลสำรวมระวังประพฤติพรหมจรรย์มาเลี้ยงดูกันในที่นั้น เทพดาเหล่าใด สถิตในที่นั้น ควรอุทิศทักษิณาทานเพื่อเทพดาเหล่านั้นด้วย เทพดาที่ได้รับการบูชาแล้ว ย่อมบูชาเขาตอบบ้าง ที่ได้รับการสักการะแล้ว ย่อมสักการะเขาตอบบ้าง แต่นั้นเทวดาย่อมอนุเคราะห์เขา ประหนึ่งมารดาอนุเคราะห์บุตรที่เกิดจากอก บุรุษได้อาศัยเทพดาอนุเคราะห์แล้ว ย่อมเห็นกิจการอันเจริญขึ้นทุกเมื่อ.“