ผู้ทำบาปเองก็เศร้าหมองเอง มีพระพุทธพจน์ตรัสไว้อย่างนี้ ถ้าตนไม่ทำแต่ใช้ให้เขาทำบาป อย่างนี้ผิดหรือไม่ ถ้าผิดไม่แย้ง กับข้อความข้างต้นหรือ ?
ผิดและไม่แย้งกับข้อความข้างต้นแต่ประการใดที่เป็นเช่นนี้เพราะเหตุไร ? เพราะว่า กรรม คือ เจตนา ที่บุคคลกระทำลงไปนั้น ย่อมเป็นได้ทั้งทางกาย วาจา ใจ แต่ละอย่าง เมื่อบุคคลกระทำลงไปย่อมเป็นผลให้เกิดเป็นบาป บุญ ตามสมควรแก่กรรมทั้งนั้น คนไทยโบราณท่านกล่าวไว้ให้คิดว่า
“บาปคนทำ กรรมคนใช้ “
การตัดสินว่าบาปหรือไม่บาปนั้น ท่านให้ดูที่เจตนาว่าประกอบด้วยกลุ่มกิเลสสาย โลภะ โทสะ โมหะ อย่างใดอย่างหนึ่งหรือไม่ หากประกอบด้วยกิเลส ๓ กลุ่มนี้ อย่างใด อย่างหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นการกระทำด้วยกาย วาจา หรือแม้จะคิดด้วยใจก็ตามท่านถือว่าเป็นบาปทั้งนั้น
ด้วยหลักนี้ทำให้เราพบว่า แม้กฎหมายท่านก็ลงโทษทั้งคนทำเองและคนใช้จ้างวานให้ทำเพราะว่าผิดกฎหมายเหมือนกัน เรื่องบาปก็เช่นนั้น หากใช้คนอื่นทำสิ่งที่เป็นบาป ตนก็ได้รับบาปนั้นด้วย ใช้ให้เขาทำสิ่งที่เป็นบุญตนก็ได้บุญด้วย.