หลวงปู่ไดโนเสาร์
ขอให้ท่าน ๆ เห็นภาพ เห็นหัวข้อแล้วอ่านให้จบ ทำความเข้าใจให้ดี สำหรับท่านมักขุดซากพืช ซากสัตว์ที่ตายแล้วล้าน ๆ ปีมาหากิน ในเรื่องนี้หลวงปู่ท่านตอบได้ดีมาก ๆ สาธุ… กระดูกไดโนเสาร์
ดังที่ได้ทราบกันว่า พระเทพมงคลวชิรมุนี (หา สุภโร) ท่านเป็นผู้นิมิตเห็นวิญญาณของสัตว์โบราณในบริเวณวัดของท่าน (วัดสักกะวัน (ภูกุ้มข้าว)) จนลูกหลานได้เรียกขานว่า หลวงตาวัดไดโนเสาร์บ้าง หลวงปู่วัดไดโนเสาร์บ้าง จนต่อมากร่อนเสียงลงเรียก หลวงปู่ไดโนเสาร์ และเรียกขานท่านด้วยนามนี้มาจนถึงปัจจุบัน
หลาย ๆ ท่านจึงคิดว่า ท่านมีกระดูกของไดโนเสาร์ไว้ในความครอบครอง ด้วยว่ากระดูกไดโนเสาร์เป็นของหายาก ถ้านำมาเป็นมวลสารผสมวัตถุมงคลคงจะได้รับความนิยมมาก จึงมีคนบางพวกมากราบองค์ท่านเพื่อขอกระดูกไดโนเสาร์อยู่เนื่อง ๆ วันนี้ก็เช่นกัน ได้มีคณะพระและฆราวาสกลุ่มใหญ่เดินทางมาที่วัด
คณะ ฯ กราบเรียนถาม : หลวงปู่ครับ ทราบว่าหลวงปู่มีกระดูกไดโนเสาร์ พอดีพวกกระผมมีความประสงค์จะทำพระสมเด็จขึ้นมาหนึ่งชุด เพื่อเอาไว้กราบไหว้บูชาและส่วนหนึ่งนำออกให้คนเช่าบูชา เพื่อนำปัจจัยมาบูรณะวัดวาอารามจึงมาขอกราบเมตตาหลวงปู่ จะให้เป็นท่อนหรือเป็นผง ให้มากหรือน้อยแล้วแต่หลวงปู่จะเมตตาครับผม
หลวงปู่ : หือ เอากระดูกสัตว์ คุณว่าคนกับสัตว์ อันไหนประเสริฐกว่ากัน
คณะ ฯ : คนครับผม หลวงปู่
หลวงปู่ : เออ แล้วคน (ทั่วไป) กับพระพุทธเจ้า ใครประเสริฐกว่ากัน
คณะ ฯ : พระพุทธเจ้าประเสริฐกว่าครับหลวงปู่
หลวงปู่ : เออ คนมีสติปัญญา คนฝึกได้ หัดได้ พัฒนาได้ ยอดของคนผู้ฝึกตน พัฒนาตน คือพระพุทธเจ้า ถ้าคุณจะเอากระดูกสัตว์ กระดูกไดโนเสาร์ไปทำพระ คนที่ได้พระของคุณก็จะเห็นสัตว์นั้นสำคัญเห็นสัตว์นั้นประเสริฐกว่าพระพุทธเจ้า เดรัจฉานแปลว่าขวาง พระพุทธเจ้าแปลว่าผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน พระพุทธเจ้าเป็นผู้ตื่น ไดโนเสาร์เป็นผู้หลับ หลับไหลอยู่ใต้ดินมาหลายล้านปี คุณอย่าเอาสิ่งอื่นสิ่งใดมาใหญ่กว่าพระพุทธเจ้า มาใหญ่กว่าพระธรรมพระวินัย มาใหญ่กว่าพระสงฆ์ อย่าเอาอะไรมาบังพระรัตนตรัย คนที่บัง คนที่ถูกบังก็จะไม่เห็นความจริง เมื่อไม่เห็นความจริงมันก็หลง คนที่ได้พระของคุณไปก็จะเกิดหลง เกิดเป็นโมหะ พระพุทธเจ้าสอนให้พวกเราพ้นหลง แต่พวกคุณกำลังจะสอนให้เขาลุ่มหลง มันออกนอกทาง ออกนอกคำสอน สอนให้คนมีปัญญาเป็นแนวทางของพระพุทธเจ้า สอนให้คนหลงไม่ใช่แนวทางของพระพุทธเจ้า ไม่ใช่พระพุทธศาสนา อย่าเอากระดูกสัตว์ไปบังพระพุทธเจ้า บังพระธรรม บังพระสงฆ์ ที่พระพุทธเจ้าพระองค์ประเสริฐเพราะพระองค์ฝึกตนดีแล้ว รู้แล้ว แจ้งแล้ว เราเป็นสาวกเป็นผู้เดินตามเป็นผู้ฝึกตามและสอนให้คนอื่นเดินตาม ไม่ใช่สอนให้คนอื่นหลงทิศหลงทาง ศาสนธรรมคำสอนพระพุทธเจ้าชี้ไปที่ทางพ้นทุกข์ พระธรรมชี้ไปแล้ว คุณอย่าพากันตีความผิด ชี้ทิศชี้ทางกันผิดๆนะ มันหลงทางหลงทิศหาฝั่งกันไม่พบไม่เจอ เข้าใจนะ
บทความข้างต้น ผมจำไม่ได้แล้วว่านำมาจากไหน น่าจะบนเพจใดเพจหนึ่งใน facebook ขอขอบคุณ ผู้บันทึกบทความ ให้เราได้อ่าน ได้ปัญญา แม้จะทำตามไม่ได้ทั้งหมด แต่อย่างน้อย นั่นคือความจริง ที่หลวงปู่ครูอาจารย์ผู้เป็นพระสงฆ์พยายามสั่งสอนเรา ชี่ทางแห่งปัญญาให้พวกเรา
ทำไมคณะ ฯ ดังกล่าวจึงอยากได้กระดูกไดโนเสาร์มาเป็นส่วนผสมในการสร้างวัตถุมงคล ที่มาไม่ได้กล่าวไว้ แต่หลาย ๆ ท่านเชื่อตามกระแสว่า (ผมเขียนเอง ท่านไม่ต้องเชื่อผม ผมเขียนให้อ่านเล่น ๆ ให้เนื้อหามันเพิ่มขึ้นเท่านั้น)
- กระดูกไดโนเสาร์ เป็นของหายาก สร้างเป็นจุดสนใจให้วัตถุมงคลนั้น ๆ ได้เป็นอย่างดี จะเรียกว่านำมาเป็นสนใจหรือจุดขายของวัตถุมงคลที่จะสร้างก็ว่าได้
- กระดูกไดโนเสาร์นั้นถูกค้นพบโดยพระที่เราเชื่อมั่นว่าเป็นผู้ทรงศีล สมาธิ ปัญญา ท่านอาจจะพบด้วยฌาน ตาทิพย์ หรือญาณวิเศษใด เราไม่อาจจะรู้ได้ แต่ด้วยความเคารพนับถือในองค์ท่าน เราจึงมีความเชื่อว่า สิ่งที่ท่านพบนั้น ท่านได้สัมผัสทางจิตอันทรงพลัง จึงทำให้เชื่อว่าสิ่งนั้นมีความศักดิ์สิทธิ์ไปด้วย ซึ่งต่างจากการค้นพบโดยบุคคลผู้เต็มไปด้วยกิเลสทั้งหลาย
- จากการท่านค้นพบกระดูกไดโนเสาร์ด้วยกำลังแห่งจิตที่บริสุทธิ์ ทำให้เราเชื่อว่าไดโนเสาร์เหล่านั้นอาจจะต้องมีส่วนร่วมด้วย สัตว์เหล่านั้นอาจจะเป็นเกิดเป็นเทพเทวาแล้ว ใครจะไปรู้ได้ เมื่อนำมาสร้างเป็นวัตถุมงคล เทพเทวาที่เคยเป็นไดโนเสาร์อาจจะส่งพลังงานความศักดิ์มาสู่วัตถุมงคลที่สร้างขึ้น
- กระดูกไดโนเสาร์กลายเป็นฟอสซิล (fossil) หรือหิน หรือนักเล่นเครื่องรางเรียกว่า คด นั่นเอง เมื่อเป็นคด จึงเชื่อว่าไม่ธรรมดา เป็นเครื่องรางของขลังตามธรรมชาติ สะสมพลังงานมานาน
- ไดโนเสาร์ แม้จะสูญพันธุ์ไปนานแล้ว แต่ก็เป็นสัตว์ที่เคยครองโลก สร้างความหวาดกลัวให้แก่สัตว์และมนุษย์ในยุคนั้นเป็นอย่างมาก ฉะนั้น จึงเป็นเครื่องหมายแห่งพลังอำนาจ ปกครองคน ผู้คนเกรงขาม
