ทุททุภายชาดก ที่มาของกระต่ายตื่นตูม
ทุททุภายชาดก เป็นหนึ่งในชาดกที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงแก่หมู่พระญาติในคราวที่พระองค์แสดงไปห้ามพระญาติทั้งสองฝ่ายที่ทะเลาะวิวาทเพราะเหตุแห่งน้ำ พระพุทธองค์ทรงแสดงให้เห็นโทษของการทำเรื่องเล็กให้กลายเป็นเรื่องใหญ่โตจนถึงขึ้นทะเลาะวิวาทลงไม้ลงมือต่อกันและกัน
ความย่อของ ทุททุภายชาดกนั้นมีอยู่ว่า
ครั้นเมื่อพระโพธิสัตว์เกิดเป็นพญาราชสีห์อาศัยอยู่ในป่าแห่งหนึ่ง มีดงตาลกับต้นมะตูมอยู่ติดทะเลด้านทิศตะวันตกของป่านั้น
กระต่ายตัวหนึ่งอาศัยอยู่ใต้ใบตาลแห้งใกล้ต้นมะตูมต้นหนึ่ง วัน ๆ เจ้ากระต่ายตัวนี้ออกเที่ยวหากินอิ่มแล้วก็กลับมานอนพักผ่อนอยู่ใต้ต้นตาล มันกำลังนอนคิดเพลิน ๆ อยู่ว่า “ถ้าหากแผ่นดินถล่ม เราจะไปอยู่ที่ไหนล่ะ” ทันใดนั้นนั่นเอง ผลมะตูมสุกลูกหนึ่งได้หล่นลงมาถูกใบตาลแห้งเสียงดังสนั่นหวั่นไหว เจ้ากระต่ายคิดว่าต้องเป็นเสียงแผ่นดินถล่มแน่ จึงร้องขึ้นสุดเสียงว่า “แผ่นดินถล่มแล้ว ๆ” พร้อมกับกระโดวิ่งหนีไปอย่างไม่คิดชีวิต
กระต่ายตัวอื่น ๆ เห็นมันวิ่งหนีอะไรมาอย่างสุดชีวิตเช่นนั้น จึงได้ร้องถามว่า “เจ้าวิ่งหนีอะไรมา” มันทั้งวิ่งทั้งร้องตอบว่า “รีบหนีเร็ว แผ่นดินถล่มแล้ว ๆ” กระต่ายในป่านับพันตัวต่างก็รีบวิ่งหนีตายตามมันไปด้วย แม้สัตว์ป่านานาชนิดเมื่อทราบข่าวต่างก็วิ่งหนีตามกระต่ายนั้นไปด้วย ฝูงสัตว์ทั้งหลายวิ่งหนีตามกันมาเป็นทิวแถว
ฝ่ายราชสีห์โพธิสัตว์เห็นสัตว์น้อยใหญ่วิ่งกันมาฝุ่นฟุ้งกระจุยจึได้งร้องถามไปว่า “พวกเจ้าวิ่งหนีอะไรมาหรือ” ได้รับคำตอบว่า “นาย แผ่นดินที่โน้นถล่มแล้ว พวกเราวิ่งหนีตาย” แล้วก็วิ่งไปต่อ บ่ายหน้าไปทางหน้าผาสูงชันโดยไม่รู้ตัว พญาราชสีห์มีจิตกรุณาในสัตว์ทั้งหลายเกรงว่าจะพากันตกเหวตายเสียหมด จึงวิ่งไปขวางหน้าพร้อมกับคำรามด้วยเสียงอันดังขึ้น 3 ครั้ง สัตว์ทั้งหลายพอได้ยินเสียงพญาราชสีห์ก็พากันตกใจกลับได้สติในสิ่งที่ตนทำ
พญาราชสีห์จึงถามว่า “มีใครเห็นแผ่นดินถล่มบ้าง” พวกสัตว์บอกว่า “ช้างเห็นขอรับ” ช้างบอกว่า “เสือเห็น” เสือบอกว่า “แรดเห็น” แรดบอกว่า “ควายเห็น” ควายบอกว่า “หมูป่าเห็น” หมูป่าบอกว่า “กวางเห็น” กวางบอกว่า “กระต่ายเห็น” พวกกระต่าย จึงชี้บอกว่า “กระต่ายตัวนี้เห็นแผ่นดินถล่มครับ..นาย” ราชสีห์จึงถามกระต่ายตัวนั้นว่าเป็นจริงหรือเปล่า กระต่ายตอว่า “ข้าพเจ้าเห็นจริง ๆ นายท่าน ขณะที่ข้าพเจ้ากำลังนอนพักผ่อนอยู่ใต้ใบตาลแห้งก็มีเสียงดังสนั่นหวั่นไหวขึ้น ข้าพเจ้าจึงวิ่งหนีตายมานี่ละ.. นายท่าน”
พญาราชสีห์เป็นผู้ฉลาดต้องการเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงนั้นจึงบอกให้สัตว์ทั้งหลายรออยู่ที่ตรงนั้น ส่วนตนและเจ้ากระต่ายนั้นได้เดินกลับไปดูสถานที่ต้นเหตุ ตรวจดูแล้วเห็นผมมะตูมสุกลูกหนึ่งวางอยู่ก็เข้าใจทันทีว่าเกิดจากอะไร จึงกลับมาบอกสัตว์ทั้งหลายว่า “ท่านทั้งหลายเลิกกลัวได้แล้ว เสียงที่เข้าใจว่าเป็นแผ่นดินถล่มนั้น เป็นแค่เสียงผลมะตูมสุกหล่นกระทบใบตาลแห้งเท่านั้น พาเลิกกลัวได้แล้ว” สัตว์ทั้งหลายอาศัยพญาราชสีห์จึงเอาชีวิตรอดมาได้จากการวิ่งตกหน้าผาตาย
พระพุทธองค์จึงตรัสพระคาถาว่า
“พวกคนโง่เขลายังไม่ทันรู้เรื่องราวแจ่มแจ้ง ฟังคนอื่นโจษขาน ก็พากันตื่นตระหนก พวกเขาเชื่อคนง่าย ส่วนคนเหล่าใดเป็นนักปราชญ์ เพียบพร้อมด้วยศีลและปัญญา ยินดีในความสงบ และเว้นไกลจากการ ทำชั่ว คนเหล่านั้นหาเชื่อคนอื่นง่ายไม่”