คนทุกคนย่อมมีจุดดีจุดเด่นจุดด้อยแตกต่างกัน เคยคิดไหมว่าเราเองก็มีจุดดีจุดด้อยไม่แตกต่างจากคนอื่น หลายคนอาจลืมไปว่า ทุกคนมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ที่ทำให้เกิดการผิดพลาดในชีวิต
และทุกครั้งที่เกิดการผิดพลาดหลายคนก็ไม่สามารถใช้เวลาในการทบทวนตนเอง ปล่อยให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปเรื่อยๆ อาจเรียกได้ว่า ปล่อยปละละเลยจนเกิดปัญหาซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนสุดท้ายก็หาทางแก้ไขปัญหาไม่ได้
อะไรเป็นฉนวนให้เราไม่คิดค้นหาสิ่งดีๆ ที่มีในตัวคนอื่น เนื่องมาจากเราไม่มีฐานความคิดของความอิจฉาริษยาฝังอยู่ลึกๆ อย่างไม่รู้ตัว จึงไม่ต้องการเห็นใครที่ดีกว่าตนเอง ดังนั้นเมื่อใครก็ตามที่ทำสิ่งดีๆ เราก็จะพยายามขุดคุ้ย มองด้วยความคิดลบทันที มันคือสิ่งที่ซ่อนอยู่ในจิตใต้สำนึกของเรา เมื่อเราไม่มีสติทุกอย่างก็จะเกิดขึ้นอย่างไม่สามารถควบคุมได้ ทำให้เราเป็นคนที่มีนิสัยมองโลกแย่ๆ เสมอ และสิ่งนี้จะทำให้เราเองเกิดสะสมสิ่งไม่ดีต่างๆ ไว้ในจิตใจของเราอย่างไม่รู้ตัวเช่นกัน
เมื่อไรก็ตามที่เรามองคนอื่นในด้านลบ ให้เรารีบตั้งคำถามกับตนเองทันทีว่า เราเองก็เป็นเช่นนั้นใช่หรือไม่ เพื่อเตือนสติตนเองให้เรากลับมาคิดใหม่ทำใหม่ มีมุมมองใหม่ๆ การที่คนเราจะเปลี่ยนนิสัยบางอย่างมานานย่อมไม่ใช่เรื่อง แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่ทำไม่ได้ มีคนมากมายที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ดังนั้นเราก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้เช่นกัน
เราต้องตั้งมั่นในการเปลี่ยนแปลง เริ่มต้นด้วยการมองหามุมดีดีของคนอื่นให้เจอ เพราะทุกคนมีทุกด้าน มีดีมีไม่ดีเตือนสติตนเองเอาไว้ แต่สิ่งที่ต้องฝึกฝนให้เกิดเป็นความเคยชินในจิตใจเราคือ การมองด้านดีดีของผู้อื่นให้เป็นนิสัย มองแต่สิ่งดีดีเราก็จะจดจำแต่สิ่งดีดี และเมื่อเราจดจำสิ่งดีดีเราจะพบเจอแต่สิ่งดีดีเช่นกัน นั่นคือ เราจะได้มิตรภาพที่ดีดีตอบกลับอย่างไม่น่าเชื่อ
หลายครั้งเราอาจพบว่า คนนั้นมีข้อบกพร่อง แต่เราไม่ควรมอง ปล่อยให้เขาเป็นผู้เรียนรู้สิ่งที่เขากระทำด้วยตัวของเขาเอง และไม่ต้องไปคิดแก้ไขใดๆ ทั้งสิ้น เพียงแต่ค้นหาสิ่งดีๆ เพื่อให้เรายอมรับเขาได้ง่ายขึ้น มีมิตรที่ดีเพิ่มขึ้นอีกคน ดีกว่าสร้างศัตรูเพิ่ม แต่ความคิดดังกล่าวต้องมีการฝึกฝน เพราะคนเราติดคิดลบมาไม่รู้กี่ชาติภพ ต้องต่อสู้กับความคิดของตนเองให้ผ่านไปได้
การเปลี่ยนมุมความคิดของตนเอง อาจยากในช่วงแรก แต่เมื่อเราเคยชิน ทำจนเป็นนิสัยแล้ว เราจะเห็นว่าเป็นเรื่องง่ายดาย และเราก็จะได้มิตรใหม่เรื่อยๆ อย่างไม่มีที่สิ้นสุด ลองฝึกทำดูนะคะ