ฤดูหนาว.. มาพร้อมสภาพร่างกายที่เสี่ยงต่อการเจ็บป่วยตลอดเวลา โดยเฉพาะการเป็นไข้หวัด เชื่อว่าหลายคนยังคงป่วยเป็นหวัดกันได้ง่ายๆ ต่อเนื่อง
วันนี้เราจึงไม่พลาดที่จะนำเอาอาหารต้านหวัด 6 อย่างมาแนะนำให้ได้กินกัน แต่ก่อนอื่นเรามาดูกันก่อนนะคะว่าไข้หวัดเกิดจากอะไร มีอาการอย่างไรบ้าง จากนั้นจึงมาติดตามอาหารต้านหวัดกันต่อดังนี้ค่ะ
ไข้หวัดเกิดจากอะไร?
ไข้หวัดเกิดจากระบบทางเดินหายใจส่วนบนได้รับการติดเชื้อไวรัส ซึ่งก็คือส่วนของจมูกและคอ ส่วนใหญ่ผู้คนมักจะป่วยกันมากในฤดูหนาว เนื่องจากเป็นช่วงที่อากาศเย็นและมีความชื้นต่ำ เมื่อสูดดมอากาศที่มีเชื้อเข้าไป รวมถึงการคลุกคลีอยู่กับผู้ป่วยและกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง ซึ่งเมื่อติดเชื้อเข้าไปแล้วผู้ป่วยก็จะมีอาการอ่อนเพลีย ปวดศีรษะ คัดจมูก น้ำมูก จาม มีอาการไอซึ่งเกิดจากการอักเสบของหลอดคอและอาจจะมีอาการไข้ต่ำร่วมด้วย โดยทั่วไปเมื่อเป็นไข้หวัดแล้วก็มักจะป่วยอยู่ประมาณ 3-5 วัน แต่อาจมีอาการไอและมีน้ำมูกยาวนานต่อเนื่องไปอีก 2-3 สัปดาห์
อย่างไรก็ตาม การกินอาหารบางประเภท หากเลือกกินให้เหมาะสมก็สามารถให้คุณสมบัติในการต่อต้านและบรรเทาโรคหวัดได้ โดยอาหารต้านหวัดที่ควรกินในฤดูหนาวนั้นมีดังนี้ค่ะ
1.ดื่มน้ำให้มากเพียงพอ
โดยปกติแล้ว ร่างกายคนเราจะต้องได้รับน้ำสะอาดวันละ 8-10 แก้วเป็นประจำทุกวัน ยิ่งหากเป็นหวัดด้วยแล้ว ยิ่งควรดื่มน้ำสะอาดอุ่นๆ เพื่อช่วยให้ร่างกายอบอุ่นอยู่เสมอ คุณสมบติของการดื่มน้ำเปล่าจะช่วยบรรเทาอาการไข้หวัดให้ลดลงได้ ทำให้ทางเดินหายใจและระบบทางเดินอาหารมีความชุ่มชื้นมากขึ้น เสมหะก็จะถูกขับออกได้อย่างง่ายดายและยังช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อไวรัสหวัดได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
สำหรับเครื่องดื่มซึ่งเป็นที่นิยมดื่มบรรเทาหวัดก็คือ น้ำขิงค่ะ เพียงนำขิงสดมาสับให้ได้ 2 ช้อนโต๊ะ ผสมกับกระเทียมสับอีก 2-3 กลีบ จากนั้นนำแช่กับน้ำเดือนสัก 5-10 นาที เสร็จแล้วให้ชงดื่มแทนน้ำชา สรรพคุณจากเครื่องดื่มดังกล่าวจะช่วยให้ร่างกายขับเหงื่อออกมา ทำให้ระบบทางเดินหายใจทำงานคล่องตัวมากขึ้น ช่วยบรรเทาอาการปวดท้อง ไม่ว่าจะเป็นอาหารท้องอืดท้องเฟ้อ ช่วยขับลมและช่วยบรรเทาอาการข้ออักเสบได้ด้วย สามารถดื่มได้เป็นประจำบ่อยๆ จนกว่าอาการหวัดจะหายไปได้ค่ะ
2.อาหารรสเผ็ดร้อนและเครื่องเทศ
แนะนำพวกพริก กระเทียม พริกไทย หัวหอม ขิง ข่า ตะไคร้ ขมิ้น กระชาย ใบกะเพรา แมงลัก รวมถึงสมุนไพรชนิดอื่นๆ ที่มีประสิทธิภาพช่วยบรรเทาอาการคัดจมูก อย่างเช่น อบเชย กานพลูและใบโหระพาก็ยังได้เช่นกัน โดยนำมาประกอบเมนูอาหารอย่างแกงต่างๆ เช่น ต้มยำไก่ เมื่อซดกินร้อนๆ แล้วจะยิ่งช่วยให้ระบบทางเดินหายใจโล่งโปร่งมากขึ้น แถมยังช่วยปรับสมดุลภายในร่างกายให้สามารถกลับมาทำงานได้อย่างปกติมากขึ้นได้อีกด้วย
3.ซุปไก่ร้อน ๆ
การกินซุปไก่ร้อนๆ หรือต้มยำไก่ แกงไก่ไทยๆ บ้านเรานั้น โดยปกติแล้วเมนูอาหารเหล่านี้จะต้องมีส่วนผสมจากสมุนไพรไทยต่างๆ เป็นส่วนประกอบ และสรรพคุณจากสมุนไพรก็ออกฤทธิ์ช่วยต่อต้านหวัดและยังบรรเทาอาการหวัดให้ลดลงได้ด้วย โดยจะบรรเทาอาการคัดจมูก ไอและเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันสุขภาพให้แข็งแรง นับเป็นการเสริมโปรตีนที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย กระตุ้นให้ร่างกายสดชื่นกระปรี้กระเปร่ามีเรี่ยวมีแรงมากขึ้น แนะนำให้ใส่ผักต่างๆ หลากหลายเพื่อเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการและให้ร่างกายได้รับสารแอนตี้ออกซิแดนท์ เพื่อช่วยในการต้านโรคอย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น
4.หัวหอมและกระเทียม
กระเทียมเป็นผักสมุนไพรมากด้วยคุณประโยชน์หลากหลายซึ่งให้ผลดีต่อสุขภาพทั้งสิ้น ทั้งยังช่วยป้องกันและรักษาโรคหวัดได้เป็นอย่างดี วิธีใช้นั้น ให้คุณนำกระเทียม 1 กลีบเล็กมาหั่นเป็นชิ้นบาง บี้ให้แตกด้วยช้อนจากนั้นใส่น้ำร้อนลงไปแล้วปิดฝาทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที จึงเติมน้ำมะนาวและน้ำผึ้งลงไปผสมอีกเล็กน้อย คนให้เข้ากันแล้วนำมาดื่มวันละ 2 ถ้วย เพียงแค่นี้ก็จะช่วยรักษาอาการหวัดให้บรรเทาลง หรือหากจะนำหัวหอมมาตำแล้วใช้ดมเพื่อกระตุ้นทางเดินหายใจให้โล่งขึ้นก็ยังได้เช่นกันค่ะ
5.กินอาหารที่ให้สารต่อต้านอนุมูลอิสระ
เน้นกินอาหารที่ให้สารจำพวกเบต้าแคโรทีนหรือวิตามินเอ วิตามินซีและอีซึ่งมีคุณสมบัติช่วยกำจัดสิ่งแปลกปลอมและเชื้อโรคต่างๆ ออกจากร่างกาย แนะนำให้กินผักผลไม้มากๆ โดยเฉพาะแครอท ผักใบเขียวทุกชนิด ชาเขียว แคนตาลูป มะละกอสุก ฝรั่งและองุ่น เป็นต้น หากกินเป็นประจำ นับว่าวิตามินเหล่านี้เปรียบดั่งการกินอาหารเป็นยาต้านหวัดได้อย่างมีประสิทธิภาพดีมากที่สุดเลยล่ะ
6.โยเกิร์ต
โยเกิร์ตเป็นอาหารทานง่ายที่หาซื้อได้ไม่ยากและเหมาะสำหรับคนทุกเพศทุกวัย คุณสมบัติจากโยเกิร์ตจะช่วยกระตุ้นการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาวและเสริมสร้างสารแอนติบอดี้บางอย่าง แนะนำให้รับประทานโยเกิร์ตรสไขมันต่ำ น้ำตาลน้อยจะได้ไม่ทำให้น้ำหนักตัวเพิ่ม และแต่ทำให้ร่างกายได้รับจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์อย่างเต็มๆ รับรองมันจะช่วยดีท็อกซ์ของเสียได้ดี และต่อต้านการเกิดโรคได้ง่ายขึ้นแน่นอน
นอกจากการกินอาหารต้านหวัดช่วงหน้าหนาวแล้ว ยังจะต้องหันมาใส่ใจดูแลพฤติกรรมการใช้ชีวิตด้านอื่นๆ พร้อมกันด้วยนะคะ กล่าวคือ ควรหมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ นอนพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่เครียด เพราะปัจจัยเหล่านี้จะช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง ทำให้ร่างกายสามารถต่อต้านการติดเชื้อไวรัสได้ดียิ่งขึ้น และที่สำคัญก็ควรหาเสื้อผ้าแขนยาวขายาวหนาๆ มาสวมใส่เพื่อเติมความอบอุ่นให้แก่ร่างกายอยู่เสมอ เมื่อร่างกายอบอุ่นตลอดเวลา อาการเจ็บป่วยจากการเปลี่ยนแปลงของอากาศก็ย่อมมีโอกาสน้อยลงแน่นอนค่ะ
เพื่อนๆ ได้ทราบกันแบบนี้แล้ว ก็อย่าลืมหันมากินอาหารต้านหวัดทั้ง 6 อย่างดังที่เราหยิบมาแนะนำเป็นประจำกันนะคะ เราจะได้มีสุขภาพดีห่างไกลโรคหวัดไปตลอดหน้าหนาวนั่นเอง
