เมื่อครั้งที่พระโพธิสัตว์เจ้าได้เสวยพระชาติเป็นพญาเต่าเรือนคือมีตัวใหญ่เหมือนอย่างเรือนหรือบ้านเล็ก ๆ มีนามว่า “มหาจิตรจุล” ได้อาศัยอยู่บนเกาะแห่งหนึ่ง ต่อมาไม่นานได้เกิดเหตุการณ์พายุเข้าบริเวณเกาะ เหตุให้เรือสำเภาที่ผ่านไปมาอับปางใกล้เกาะดังกล่าวนึ้น จึงมีผู้คนว่ายน้ำหนีตายมาอาศัยอยู่บนเกาะนี้เป็นจำนวนมาก เมื่อหมู่มนุษย์พากันขาดอาหารและน้ำ จึงพากันคิดที่จะทำร้ายพญาเต่าโพธิสัตว์
ในครั้งนั้นพญาเต่าโพธิสัตว์คิดว่า ในเมื่อชาวบ้านต่างเดือดร้อน จนถึงขั้นต้องมาคิดฆ่าเราเพื่อความอยู่รอด พญาเต่าโพธิสัตว์จึงได้มีจิตอนุเคราะห์ ขึ้นไปบนภูเขาแล้วกลิ้งตัวเองลงมาหมายที่จะบริจาคทานด้วยเลือดและเนื้อของตนเองเพื่อเป็นอาหารของเหล่ามนุษย์ ผู้คนเหล่านั้นจึงได้อาศัยเนื้อของพญาเต่าเรือนโพธิสัตว์บริโภคเป็นอาหาร แล้วจึงเอากระดองเต่านั้น ทำเป็นเรือพาหนะ กลับสู่บ้านเมืองของตนอย่างปลอดภัย
เมื่อคนเหล่านั้นได้กลับถึงบ้านเมืองพบครอบครัวอันเป็นที่รักแล้ว ก็มาระลึกถึงบุญคุณของพญาเต่าเรือนโพธิสัตว์นั้น จึงได้พากันวาดภาพพญาเต่าเรือนไว้สักการบูชา เพื่อเป็นเครื่องระลึกถึง เพื่อความเป็นสิริมงคลแห่งตน ต่อมาจึงได้พาก็สร้างเป็นรูปวัตถุมงคลรูปเต่าลงอักขระเลขยันต์ปลุกเสกไว้บูชาสืบทอดกันมาถึงปัจจุบันด้วยอานุภาพแห่งมหาทานอันยิ่งใหญ่แห่งพญาเตาเรือนโพธิสัตว์นั้น
พญาเต่าเรือน หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน
สำหรับพญาเต่าเรือนของหลวงพ่อเงินนั้น ว่ากันมาว่าหลวงพ่อเงินท่านได้สร้างเต่าเรือนขึ้นมาเพื่อทดสอบในการหลอมโลหะและทำการเทพิมพ์เพื่อเตรียมจะสร้างรูปหล่อและเหรียญจอบต่าง ๆ ของท่านขึ้นภายในวัด ประกอบกับด้วยเป็นการสร้างเต่าเรือนตามตำนานพระโพธิสัตว์เจ้า 500 พระชาติ ที่ได้เคยเสวยพระชาติเป็นพญาเต่าเรือน เชื่อว่าท่านได้สร้างช่วงประมาณปี 2451 – 2562 จำนวนการสร้างนั้นไม่ชัดเจน คงต้องอาศัยการดูเนื้อต้องคล้ายกับรูปหล่อหลวงพ่อเงิน
คาถาพญาเต่าเรือน
นาสัง สิโม ภะคะวานาโถ สุสิโม พุทโธภะคะวา
หรือ นะมะพะทะ นาสังสิโม สังสิโมนา สิโมนาสัง โมนาสังสิ นะอุทะกะ เมมะอะอุอะ
พุทธคุณ พญาเต่าเรือน
- โชคลาภ โชคดี ทำให้ดวงดีขึ้น
- แก้ดวงตก ดวงไม่ดี
- ค้าขาย ทำมาหากินคล่อง
- สุขภาพแข็งแรง อายุยืน
- เป็นเมตตามหานิยม