คาถาอิติปิ โส ถอยหลัง
ติ วา คะ ภะ โธ พุท นัง สา นุส มะ วะ เท ถา สัต ถิ ระ สา มะ ทัม สะ ริ ปุ โร ตะ นุต อะ ทู วิ กะ โล โต คะ สุ โน ปัน สัม ณะ ระ จะ ชา วิช โธ พุท สัม มา สัม หัง ระ อะ วา คะ ภะ โส ปิ ติ อิ ฯ
คาถาอิติปิโสถอยหลัง ก็คือบท อิติปิ โส…. นั่นเอง แทนที่จะสวดตามปกติ แต่สวดจากด้านหลังมาด้านหน้า โบราณาจารย์พรรณาอานุภาพแห่งคาถาอิติปิโสถอยหลังไว้มากมาย เช่น สามารถสะเดาะกุญแจโซ่ตรวนได้ หรืออาจจะเป็นกุสโลบายของครูอาจารย์ที่ต้องการให้ศิษย์อยู่ในบทพุทธคุณ เมื่อให้จิตเกิดสมาธิจึงได้ใช้เรื่องอานุภาพเป็นล่อในการสวดก็ได้
แต่ที่แน่ ๆ เมื่อสามารถสวดถอยหลังได้แบบไม่ต้องท่องตามหนังสือ จิตต้องเป็นสมาธิเป็นอย่างมาก เมื่อจิตเป็นสมาธิก็ย่อมข่มหรือถอนนิวรณ์หรือกามคุณได้ ตราบใดที่จิตเป็นฌานเป็นสมาธิ กามหรือนิวรณ์นี่แหล่ะคือกุญแจหรือโซ่ตรวนที่ผูกมัดสัตว์โลกไว้ เมื่อถอนกามหรือนิวรณ์ทั้งหลายได้แล้ว จึงชื่อได้ถอนกุญแจหรือสะเดาะโซ่ตรวนออกได้
คาถาอิติปิโสถอยหลังนี้ ผมเคยสวดได้ แต่สวดได้จากการท่องจากหนังสือ จึงไม่แตกต่างจากการท่องคาถาบทอื่นมากนัก
วิธีสวดคาถาอิติปิโสถอยหลังให้ได้ผลตามตำรา
ผมเชื่อว่า หากต้องการสวดคาถาอิติปิโสถอยหลังให้ได้ผลตามตำรา คือสามารถสะเดาะกุญแจได้ สะเดาะโซ่ตรวนได้ ต้องสวดคาถาอิติปิโสถอยหลังแบบไม่ดูหนังสือ ไม่ต้องท่องจำตามหนังสือ คือให้สวดคาถาอิติปิโส โดยอนุโลม คือสวดตามปกติ อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ วิชชาจะระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู อะนุตตะโร ปุริสะทัมมะสามระถิ สัตถา เทวะมะนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติ จากนั้นก็สวดโดยปฏิโลม คือย้อนกลับ ติ วา คะ ภะ โธ พุท นัง สา นุส มะ วะ เท ถา สัต ถิ ระ สา มะ ทัม สะ ริ ปุ โร ตะ นุต อะ ทู วิ กะ โล โต คะ สุ โน ปัน สัม ณะ ระ จะ ชา วิช โธ พุท สัม มา สัม หัง ระ อะ วา คะ ภะ โส ปิ ติ อิ ฯ ค่อย ๆ สวดกลับไปกลับมาจนจำได้ขึ้นใจ ทั้งหมดต้องไม่ดูหนังสือแบบท่องจำ