เมื่อสามสิบกว่าปีที่แล้ว หนุ่มสาวอีสานมักจะเดินทางไปเสี่ยงโชคโดยการไปทำงานในเมืองหลวงกรุงเทพมหานคร ซึ่งผมก็เป็นหนึ่งในนั้นและเป็นเหตุให้ผมได้รู้จักมนต์เรียกจิตสาว
ณ ที่โรงงานแห่งหนึ่งแถวมหาชัยเมืองใหม่ซึ่งอยู่ในเขตจังหวัดสมุทรสาคร เป็นแหล่งที่หนุ่มสาวเดินทางไปทำงานและทำความรู้จักคุ้นเคยสนิทสนมกัน ใครชอบคนไหนก็ทความสนิทสนมจีบคนนั้น ส่วนผมเป็นคนขี้อายแต่ก็แอบรักสาวคนหนึ่งซึ่งเพื่อน ๆ เขาก็รู้เรื่องนี้เป็นอย่างดี
วันหนึ่งเพื่อนที่มาจากจังหวัดศีรษเกษเขาคงสงสารผมจึงบอกว่าข้าจะสอนมนต์เรียกจิตสาวให่แก แต่แรกผมก็ไม่เชื่อ จึงให้มันทำให้ดู วิธีการทำพิธีมนต์เรียกจิตสาวของมันก็คือ มันจะหาผ้าขาวมาสี่ผืน แล้วเขียนชื่อสาว ๆ 4 คนลงบนกระดาษขาว แล้วก็ม้วนแผ่นกระดาษนั้น จากนั้นจึงนำม้วนกระดาษนั้นใส่ตรงกลางผ้าขาวม้า พับผ้าขาวม้าครึ่งหนึ่งแล้วม้วนโดยให้กระดาษรายชื่อสาวนั้นอยู่ข้างใน ทำอย่างนี้รายชื่อละม้วน จากนั้นนำผ้าขาวม้ามาวางทับไขว้กันเป็นสี่เหลี่ยมจตุรัส ประนมมือขึ้นเสกคาถาแล้วจึงเป่าเพี้ยงลงไปทั้งสี่มุมของผ้าขาวม้านั้น ในบรรดาสาวทั้งสี่คนที่มีรายชื่ออยู่ในม้วนผ้าขาวม้านี้ ถ้าสาวคนไหนรักเรา คิดถึงเรา รายชื่อของสาวคนนั้นก็จะออกมาอยู่นอกผ้า ปรากฎว่า เมื่อเปิดม้วนผ้าขาวม้าออกมา ม้วนกระดาษรายชื่อของสาวคนที่เรารักเราคิดถึงนั้นอยู่ข้างนอกม้วนผ้าขาวม้าจริง ๆ ผมเห็นกับตา ม้วนเปิดผ้าเห็นด้วยตนเองแบบนี้จึงทำให้อยากเรียนมนต์เรียกสาวทันที
ผมหยุดตามจีบสาวไปสักพัก แต่หันมาจีบอาจารย์ขมังเวทย์แทนเพื่อขอเรียนมนต์เรียกจิตสาว ในที่สุดก็สมหวังได้มนต์เรียกจิตสาวมาสมใจด้วยค่าครู 15 บาท
คาถามนต์เรียกจิตสาว
โอม จิตตะจิตตัง ปลุกสาวทั้งสี่ขึ้นมา จิตตัง ปิยัง มะมะ
เมื่อผมได้คาถามนต์เรียกจิตสาวมา ผมก็ทดลองทำดูทันที ปรากฎว่าทำครั้งแรกก็ได้ผลจริง ม้วนกระดาษชื่อสาวที่เรารักออกมาจากม้วนผ้าขาวม้าจริง ๆ
ประโยชน์ของคาถามนต์เรียกจิตสาว
มนต์เรียกจิตนี้ ไม่ใช่เสกคาถาหรือเสกมนต์ให้เขามารักนะครับ แต่แค่อยากรู้ว่าเขารักเราหรือไม่ เขาคิดถึงเราหรือไม่ ถ้าเขาคิดถึงเรา เราก็จะได้เดินเครื่องต่อไป แต่ถ้ารู้ว่าเขาไม่รักเรา เราก็จะได้หาสาเหตุและปรับปรุงตนเอง