ตอนสมัยเด็ก ๆ ผมได้ยินผู้เฒ่าทั้งที่เป็นพระในวัดประจำหมู่บ้านที่เคยธุดงค์ในป่าเขาและชาวบ้านทั่วไปที่เป็นนายพรานและเก็บของป่าเล่าให้ฟังว่า สมัยก่อนจะมีต้นยาสูบซึ่งมีลำต้นขนาดใหญ่สามารถนำมาเป็นเสาบ้านได้ ลักษณะของลำต้น ใบ ก็เหมือนต้นยาสูบทั่วไป เมื่อเก็บใบที่แห้งแล้วมาหั่นทำเป็นยาเส้นสูบก็มีรสเมาเหมือนยาสูบทั่วไปเพียงแต่มีลำต้นขนาดใหญ่เท่าเสาบ้านเท่านั้น
ในเมื่อผู้เฒ่าเล่ามาอย่างนี้ประกอบความเป็นเด็กที่มีจินตนการสูง ตอนนั้นผมเชื่อสนิทใจว่ามีจริง แต่วันเวลาผ่านไปนานหลายปีผมก็ลืมเรื่องนี้ไปเสียสิ้น จนได้มาอ่านหนังสือ “ประวัติพระบุญนาคเที่ยวกรรมฐาน” ซึ่งเป็นบันทึกของพระอาจารย์บุญนาคที่ท่านได้ไปเที่ยวธุดงค์ในป่าเขาและท่านก็ได้ไปพบต้นยาใหญ่อีกทั้งท่านยังได้ทดสอบสูบดูก็มีรสเมาเหมือนยาสูบทั่วไป ผมขอนำเหตุการณ์บางช่วงที่ปรากฎในหนังสือ”ประวัติพระบุญนาคเที่ยวกรรมฐาน” ที่ได้กล่าวถึงต้นยายักษ์มาให้ท่านได้อ่านครับ
ต่อนั้น อาตมภาพจึงลาเณร แล้วเที่ยวต่อไปอีก ๓ วันยังไม่พบบ้านคน ฉันผลไม้เป็นอาหาร วันคำรบ ๔ เดินไปมองขึ้นไปบนยอดภูเขาเห็นต้นยาใหญ่ มองไกลคล้าย ๆ กับเจดีย์ เพราะฤดูนั้นเป็นฤดูใบยาร่วงเสียหมด เป็นพัก ๆ คล้ายกับต้นมะพร้าว แต่ต้นมันใหญ่ปลายต้นเล็ก คล้ายกับยอดเจดีย์ อาตมภาพจึงอุตส่าห์ขึ้นไปดู เห็นใบพร้อมทั้งเปลือกเข้าใจแน่ได้ว่าเป็นยาแท้ จึงเก็บเอาใบแห้งมาสูบดู ก็เป็นรสเมาอย่างยาที่มีอยู่ตามบ้านคน อาตมภาพจึงเอามีดโต้เล่มเล็ก ๆ ที่ติดย่ามไปนั้นบากต้นยาได้สองกีบก็ถือไป จวนค่ำก็ถึงบ้านแห่งหนึ่ง ๖ หลังคาเรือน ไม่รู้ชื่อบ้าน เพราะคนเหล่านั้นเป็นข่าไม่รู้ภาษากัน อาตมภาพจึงแวะเข้าจำวัด อาศัยเงือบหินที่ชายเขา
ที่มา : http://www.dharma-gateway.com/monk/monk_biography/pra-boonnak/pra-boonnak-05.htm
ภาพที่นำมาขึ้นเว็บไซต์ เป็นแต่เพียงภาพประกอบบทความเท่านั้น