ไม่ว่าใครก็ล้วนปรารถนาถึงการมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงสดใส ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บมาเบียดเบียนด้วยกันทั้งนั้น ทว่ากลับดูเหมือนว่าโรคซึมเศร้าจะเป็นโรคที่มีใกล้ชิดสนิทสนมกับเรามากขึ้นในโลกปัจจุบัน กลายเป็นส่วนหนึ่งของปัญหาสังคมที่นำพาปัญหาความรุนแรงต่างๆ ให้เกิดขึ้น ภาวะซึมเศร้าอาจจะไม่ใช่โรคที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อมรอบตัวของเราเพียงอย่างเดียวก็ตาม แต่ทว่าความกดดัน ปัญหาต่างๆ ที่รุมเร้า จนนำมาซึ่งความเครียดความกังวล ก็เป็นตัวกระตุ้นชั้นดีที่จะทำให้อาการซึมเศร้าของเรามีความรุนแรงและลุกลามจนกลายเป็นอุปสรรคกับการใช้ชีวิตของเรา
สังเกตตัวเองอย่างไรว่าเป็นโรคซึมเศร้า อาการโดยทั่วไปผู้ป่วยมักจะมีอารมณ์เศร้า หดหู่ ไม่ร่าเริงแจ่มใส ไม่ชอบการเข้าสังคม ชอบปลีกตัวอยู่คนเดียว ไม่ค่อยมีความสุขกับกิจกรรมต่างๆ ที่เคยทำ คิดแต่เรื่องในทางลบและมีอาการเบื่ออาหาร กินได้น้อยลง ในบางรายมีอาการรุนแรง จนรู้สึกว่ามีคนที่ตายไปแล้วมากระซิบข้างหูหรือรู้สึกว่าชีวิตสิ้นหวังมากๆ จนอยากฆ่าตัวตาย ซึ่งสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดโรคซึมเศร้านั้นยังไม่ทราบที่มาแน่ชัด แต่เชื่อว่าผู้ป่วยส่วนมากที่มีอาการมักจะมาจากความผิดปกติของสารสื่อประสาทในสมอง สามารถที่จะส่งต่อระหว่างลูกหลานได้ ดังนั้นหากบ้านไหนที่มีผู้ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าอาศัยร่วมอยู่ด้วย จำเป็นที่จะต้องคอยระวังคนอื่นๆ ภายในครอบครัว คอยสังเกตอาการและพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไป เพราะส่วนมากผู้ป่วยมักจะไม่รู้ตัวและไม่ยอมบอกเล่าถึงอาการที่ตนเองกำลังเป็น
แนวทางและการรักษา ในปัจจุบันการรักษาโรคซึมเศร้ามักจะรักษาด้วยยาเคมีที่ให้ประสิทธิภาพสูงถึง 80% แต่ทว่าในยาเหล่านี้ล้วนมีผลข้างเคียงต่อสุขภาพ เช่น อาการง่วงซึม ไม่สดชื่น และเมื่อได้รับต่อเนื่องในระยะยาวก็อาจจะส่งผลให้เกิดผลกระทบต่อระบบอวัยวะภายในตามมา ในปัจจุบันจึงมีการนำเอาศาสตร์การนั่งวิปัสสนาหรือการเจริญสติในทางพระพุทธศาสนามาใช้เป็นทางเลือกประยุกต์ โดยผลลัพธ์ที่ได้พบว่าผู้ป่วยมีอาการดีขึ้น สามารถกลับไปใช้ชีวิตปกติสุขเหมือนคนทั่วไป ทำให้ผู้ป่วยมีอารมณ์ที่แจ่มใส สามารถปล่อยวางกับความคิดกังวลใจต่างๆ ลงไปได้ ถือว่าเป็นกระบวนการรักษาเยียวยาตนเองอย่างได้ผล โดยไม่ต้องหันกลับไปพึ่งพายาเคมีอื่นๆ อีกเลย
จะเห็นได้ว่าธรรมะนั้นเป็นอีกวิถีแนวทางหนึ่งที่สามารถช่วยบรรเทาอาการฟุ้งซ่านทางจิตได้เป็นอย่างดี ธรรมะเปรียบเสมือนยาชั้นเอก ช่วยให้เราสามารถดูแลตัวเองและยอมรับกับสิ่งต่างๆ บนโลก เป็นกระบวนการช่วยให้จิตใจผ่อนคลายและปล่อยวางกับทุกสิ่งทุกอย่าง จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่มีประสิทธิภาพสำหรับการรักษาโรคทางจิตเหล่านี้ได้เป็นอย่างดี