พระสมเด็จองค์นี้ ผมได้จากกุฏิพระเถระรูปหนึ่งซึ่งท่านมีสมณศักดิ์พระราชาคณะเจ้าคณะรอง หรือเรียกภาษาพูดทั่ว ๆ ไปว่าชั้นรองสมเด็จบ้าง ชั้นพรหมบ้าง ซึ่งตอนนี้ท่านมรณภาพไปนานแล้วครับ ผมไม่ขอเอ่ยชื่อวัด ชื่อจริง หรือสมณศักดิ์ของท่านนะครับ แต่อยู่เขตดุสิต อยู่ไม่ห่างจากบางขุนพรหมและวัดระฆังมากนัก
เหตุที่ได้มาเพราะผมไปเฝ้าอุปัฏฐากท่านในช่วงที่ท่านอาพาธ ลูกศิษย์ท่านหยิบออกมาจากกฏิของท่านเอง ท่านไม่ได้เก็บพระองค์ไว้อย่างดีหรอกครับ ท่านก็วางไว้ขอบหน้าต่างในกุฏิบ้าง บนโต๊ะหมู่บูชาบ้าง ในตู้ บนหลังตู้บ้าง บางองค์ถูกวางไว้ 50- 70 ปี
ลืมบอกไปว่าท่านเจ้าเป็นคนพูดน้อย ไม่สนใจพระเครื่อง ไม่สนใจการสร้างพระเครื่อง ในชีวิตของท่านไม่สนใจในการสร้างวัตถุมงคลใด ๆ ท่านไม่เคยสร้าง แต่ท่านก็ให้ความเคารพพระเครื่องวัตถุมงคลนะ ใครมามอบถวายท่าน ท่านก็รับไว้ แต่ท่านไม่ค่อยแจกใครง่าย ๆ รับเก็บไว้ในตู้ หรือหลังตู้แล้วก็ถูกวางไว้อย่างนั้นตลอดมา
ท่านเจ้าคุณบวชตั้งแต่เป็นสามเณรเล็ก ๆ และอยู่ที่วัดนั่น อยู่ที่กุฏินั่นมาตลอด ไม่เคยไปจำพรรษาที่อื่นจนท่านได้เป็นเจ้าอาวาสวัด และมรณภาพไป
ผมแอบคิดเล่น ๆ ว่าพระสมเด็จองค์นี้อาจจะเป็นพระที่ใครคนใดคนหนึ่งนำมาถวายท่านเมื่อนานมาแล้ว ตั้งแต่สมัยที่คนไม่นิยมขายพระกันก็เป็นได้ ส่วนมากก็นำมาถวายวัดหรือพระที่คนเคารพนับถือเผื่อท่านจะได้นำไปเพื่อประโยชน์ในการเผยแพร่พระศาสนาหรือใช้เป็นมวลสารในการจัดสร้างพระเครื่อง
พระสมเด็จองค์นี้มีขนาดไม่ใหญ่มากนัก แต่ก็ไม่เล็กจนถึงขั้นเรียกว่าสมเด็จคะแนน มีขนาดบางจนสังเกตได้ แต่ไม่ใช่บางจนดูเหมือนจะหักนะครับ พระสมเด็จองค์นี้จึงเข้าเกณฑ์ที่ว่า พระสมเด็จต้องหนา ส่วนพระนางพญาต้องบาง เมื่อครั้งได้มาจากกุฏิ พระไม่ได้ถูกใส่กรอบหรือถุงพลาสติกแต่อย่างใด ผมเพิ่งนำมาใส่กรอบไว้เมื่อไม่นานนี้เอง