ท้องของแม่นาคโตขึ้นเรื่อยๆ และถึงกำหนดคลอด หมอตำแยได้มาทำคลอดให้กับแม่นาค แต่ก็ยังไม่วายเกิดปัญหาระหว่างการทำคลอด เมื่อลูกของแม่นาคไม่ยอมกลับหัว ทำให้การคลอดลูกของแม่นาคไม่เป็นไปตามธรรมชาติทั่วไป เมื่อเป็นอย่างนั้นส่งผลให้แม่นาคต้องทนทุกข์ทรมานกับความเจ็บปวดระหว่างการคลอดลูก สุดท้ายแม่นาคก็ทนความเจ็บปวดนั้นไม่ไหว และสิ้นใจตายไปพร้อมลูกในท้อง กลายเป็นผีตายทั้งกลมในที่สุด
เมื่อนายมากปลดประจำการและกลับมาหาเมีย
หลังจากที่แม่นาคได้ตายลงแล้ว ศพของแม่นาคได้ถูกนำไปฝังที่ป่าช้าวัดมหาบุศย์ ส่วนนายมากเมื่อปลดประจำการจากทหารประจำการแล้วก็กลับมาจากบางกอกเพื่อมาหาเมียอันเป็นที่รักยังพระโขนง โดยที่นายมากยังไม่รู้ว่าแม่นาคนั้น ได้ตายไปพร้อมกับลูกในท้องแล้ว อีกอย่างช่วงเวลาที่นายมากกลับมายังบ้านก็เป็นช่วงค่ำๆ จึงไม่มีโอกาสได้พบชาวบ้านคนใด ทำให้ยังไม่มีใครได้เล่าเรื่องแม่นาคให้นายมากฟัง รวมทั้งหลังจากที่แม่นาคตายแล้ว ก็ไม่มีใครกล้าเข้าไปใกล้บริเวณบ้านของแม่นาคอีกเลย เพราะความหวาดกลัวผีแม่นาค ด้วยความเชื่อว่าผีตายทั้งกลมเฮี้ยนสุดๆ และมีความดุร้ายมาก
นายมากกับแม่นาคใช้ชีวิตด้วยกันอีกครั้ง
เมื่อนายมากกลับมาอยู่ที่บ้าน ผีแม่นาคก็พยายามรั้งนายมากให้อยู่ที่บ้านตลอดเวลา ไม่ให้ออกไปพบใคร เพราะเกรงว่าหากนายมากออกไปพบใคร อาจจะรู้เรื่องจริงว่าตัวเองกับลูกได้ตายไปเสียแล้ว ซึ่งนายมากเองด้วยความรัก จึงเชื่อฟังแม่นาค นานวันเข้ามีชาวบ้านได้บอกความจริงกับนายมาก ซึ่งไม่ว่าใครจะพูดเรื่องนี้ให้ฟังอย่างไรก็ไม่ทำให้นายมากเชื่อได้ว่า เมียของตัวเองได้ตายไปแล้ว
จนกระทั่งวันหนึ่งที่นางนาคตำน้ำพริกอยู่บนบ้าน แต่เผอิญได้ทำมะนาวร่วงหล่นไปที่ใต้ถุนบ้าน ด้วยความรีบร้อน นางนาคจึงใช้มือยาวๆ ยื่นลงผ่านช่องพื้นเรือนเพื่อเก็บมะนาวที่อยู่ใต้ถุนบ้านนั้น ทำให้นายมากได้เห็นพอดี จึงได้รู้ความจริงและเชื่อว่า เมียของตัวเองเป็นผีตามที่ชาวบ้านบอกแล้วจริงๆ
นายมากหลบหนีจากผีแม่นาค
เมื่อนายมากรู้ความจริงว่าแม่นาคเป็นผี จึงวางแผนหลบหนีจากผีแม่นาค โดยการแอบเจาะตุ่มใส่น้ำให้รั่ว แล้วเอาดินอุดรูรั่วนั้น ถึงตอนกลางคืนจึงออกอุบายว่าจะไปปลดทุกข์เบา และแกะดินที่อุดรอยรั่วของตุ่มนั้น ทำให้มีเสียงน้ำไหล เหมือนกับว่ายังมีคนปลดทุกข์เบาอยู่ แล้วนายมากจึงใช้โอกาสนี้หนีไป เมื่อนางนาคเห็นนานผิดสังเกต จึงออกมาดู ทำให้รู้ว่าตัวเองโดนสามีหลอก จึงตามนายมากไปทันที แต่นายมากเมื่อเห็นว่าผีนางนาคติดตามมาก็หนีเข้าไปหลบในดงใบหนาด ทำให้ผีนางนาคทำอะไรไม่ได้เนื่องจากกลัวใบหนาด จากนั้นนายมากจึงวิ่งไปพึ่งพระที่วัด แต่นางนาคก็ไม่ลดละความพยายาม และได้ตามนายมากไป แต่นายมากก็ไม่ยอมกลับไปอยู่ร่วมกับแม่นาคแล้ว
ความเคียดแค้นต่อชาวบ้าน นำพามาสู่ความเฮี้ยน
เมื่อติดตามนายมากให้กลับไปอยู่กับตนเองไม่ได้ ทำให้แม่นาคเกิดความเจ็บใจ และเคียดแค้นชาวบ้านมากที่คอยยุแยงทำให้ครอบครัวแม่นาคแตกแยก ทำให้แม่นาคออกอาละวาด หลอกหลอนชาวบ้านกันไปทั่ว ซึ่งความเฮี้ยนของแม่นาค ส่วนหนึ่งเพราะการถูกฝังไว้ระหว่างต้นตะเคียนคู่ด้วย แต่จะเฮี้ยนขนาดไหนสุดท้ายวิญญาณของแม่นาคก็ถูกหมอผีฝีมือดีจับใส่หม้อลงอาคม แล้วนำหม้อนั้นไปถ่วงน้ำ ทำให้ความเฮี้ยนของแม่นาคสงบไประยะหนึ่ง
วิญญาณแม่นาคถูกปลดปล่อยอีกครั้ง
กระทั่งมีตายายคู่หนึ่งซึ่งย้ายมาอยู่ใหม่ ยังไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นของแม่นาค และได้เก็บหม้อวิญญาณของแม่นาคได้ ขณะที่กำลังทอดแหจับปลาแล้วตายายได้เปิดหม้อใบนั้น ทำให้วิญญาณของแม่นาคถูกปลดปล่อยอีกครั้ง ซึ่งออกมาหลอกหลอนชาวบ้านทั่วไปอีก เหมือนก่อนที่จะโดนถ่วงน้ำ สุดท้ายวิญญาณของแม่นาคถูกสยบลงโดยสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ซึ่งได้นำกะโหลกศีรษะส่วนหน้าผากของแม่นาคมาทำปั้นเหน่งและสะกดวิญญาณไว้ ทำให้วิญญาณไปสู่สุคติ หลังจากนั้นปั้นเหน่งชิ้นนั้นก็ตกทอดไปยังเจ้าของอื่นๆ อีกหลายมือ ตำนานความรักที่ความตายมิอาจขวางกั้นของแม่นาคพระโขนงนี้ เป็นอีกตำนานที่อยู่ในใจของคนรุ่นต่อรุ่น ซึ่งเล่าต่อๆ กันมาแบบไม่รู้จบ เพราะความรักที่มั่นคงของแม่นาคที่มีต่อนายมากผู้เป็นสามี ความตายจึงไม่ใช่อุปสรรคขวางกั้นความรักของนางนาคได้