ช่วงนี้รู้สึกว่า เหรียญกอร์กอน ซึ่งเป็นรูปของเมดูซา (Medusa) ที่สร้างโดยราการทีวีรายการหนึ่ง (ตอนนี้ทราบว่างดให้ถูกออกอากาศแล้ว) กำลังเป็นที่กล่าวถึงกัน บ้างก็ว่าดี บ้างก็ว่าเป็นผีปีศาจที่ถูกวีรบุรุษเพอร์ซิอุสตัดหัวแล้ว จะสามารถมาช่วยอะไรได้ สำหรับผมแล้วไม่มีเหรียญกอร์กอน และไม่คิดที่จะมีด้วย
จุดขายของเครื่องรางต่าง ๆ โดยมากอาศัยความเชื่อความศรัทธาเป็นหลัก โดยเฉพาะในด้านความรัก ความเมตตา มหาเสน่ห์ โชคลาภ เพราะเป็นสิ่งที่เข้ากับคนได้ง่าย แต่พิสูจน์ยาก พูดมากไปเดี๋ยวเขาจะหาว่ากล่าวร้ายเหรียญกอร์กอนของเขา มาเล่าประวัติหรือตำนาน เมดูซา (Medusa) กันดีกว่า
ตำนานเมดูซา (Medusa)
หลายคนคงเคยเห็นภาพของเมดูซาและคุ้นเคยเป็นอย่างดี กับอสุรกายในเทพนิยายของกรีก ซึ่งมีรูปร่างหน้าตาเป็นผู้หญิงสวยงาม แต่บนหัวของเธอแทนที่จะมีเส้นผมเหมือนมนุษย์ทั่วไป กลับกลายเป็นงูพิษ ซึ่งนั่นเป็นภาพติดตา และเป็นสัญลักษณ์เกี่ยวกับเมดูซา วันนี้เราจึงมีตำนานเกี่ยวกับเมดูซามาเล่าสู่กันฟัง ซึ่งจะน่าสนใจแค่ไหนตามไปดูกันเลยค่ะ
เมดูซาเทพธิดาแห่งเทพฟอร์ซีสและซีโต
เมดูซา เป็นน้องคนสุดท้องของสามพี่น้อง เป็นธิดาของเทพฟอร์ซีสและซีโต เธอมีพี่สาวอีกสองตน คือสเธโน่ ยูริอาลี ซึ่งมีรูปร่างเป็นอสุรกายน่าเกียจน่ากลัว มีผมและหางเป็นงู มีปีกสีทองเหลือง มีผิวหนังเป็นเกล็ด และมีความเป็นอมตะ ไม่มีใครฆ่าให้ตายได้ โดยมีเมดูซาเพียงผู้เดียวเท่านั้น ในสามพี่น้องที่เป็นมนุษย์ ผู้เลื่องลือในเรื่องการมีเส้นผมสวยงาม งามยิ่งกว่าเทพีอธีน่า เทพีแห่งปัญญาและกลยุทธ์ในการทำศึกเสียอีก ทำให้แม้กระทั่งเทพีอธีนายังต้องอิจฉาริษยา แม้ว่าพี่น้องทั้งสามนี้จะยึดมั่นอยู่ในพรหมจรรย์ และบูชาเทพีอธีน่ามากเพียงใด แต่ก็ไม่ทำให้ความชิงชังของเทพีอธีน่า ที่มีต่อเมดูซาลดน้อยลงได้
เทพโพไซดอนบุกเข้าหาเมดูซาในวิหาร
ในวันหนึ่งขณะที่ทั้งสามพี่น้อง กำลังบูชาเทพีอธีน่าอยู่ในวิหารพาเทนอล และด้วยความงามของนางเมดูซา ทำให้มหาเทพโพไซดอน เทพแห่งม้าและท้องทะเล ผู้สร้างพายุและบันดาลแผ่นดินไหว เกิดความชอบและรักใคร่นางเมดูซาขึ้นมา ตั้งแต่แรกเห็น และต้องการได้เธอมาครอบครอง จึงได้ลักลอบเข้าไปในวิหาร เพื่อหวังจะกระทำชำเราเมดูซา
เทวีอธีน่าเกิดความไม่พอใจ
เมื่อเทวีอธีน่าเห็นเทพโพไซดอน จะกระทำชำเราต่อนางเมดูซา และด้วยความขุ่นเคืองใจต่อเมดูซาอยู่แล้ว เพราะคิดว่าเมดูซาสวยกว่าตน จึงกล่าวหาเมดูซาว่า ได้ทำพฤติกรรมลบหลู่ตนเอง โดยการสมสู่กับบุรุษในวิหาร อีกทั้งวิหารแห่งนี้ยังเป็นวิหารที่ต้องห้ามของบุรุษ จึงใช้เวทย์มนต์เพื่อจะสาปทั้งโพไซดอน และเมดูซารวมทั้งพี่สาวทั้งสองของเธอ แต่เพราะโพไซดอนเป็นเทพผู้มีความอมตะ และพี่สาวทั้งสองของเธอก็เป็นอมตะเช่นกัน คำสาปจึงไม่มีผลต่อเทพโพไซดอน และพี่สาวของเธอเลย
เมดูซาต้องคำสาปเทพีอธีน่า
ผลของคำสาปจากเทพีอธีน่า กลับไปตกที่เมดูซาซึ่งเป็นมนุษย์ ทำให้เมดูซาถูกสาปให้มีเส้นผมกลายเป็นงู และกลายเป็นอสุรกาย เหมือนพี่สาวทั้งสองของเธอ ที่มีใบหน้าเป็นมนุษย์ และมีงูพิษอยู่บนหัวแทนเส้นผม ทำให้ เมดูซาเหมือนกับตกนรกทั้งเป็น เธอจึงจ้องมองทุกสิ่งด้วยความโกรธแค้นชิงชังที่สุด โดยเฉพาะบุรุษทั้งหลาย หากใครจ้องตาของนางโดยตรง จะกลายร่างเป็นหินทั้งหมด
เมดูซาเกิดความอับอายและเคียดแค้น
เมื่อเมดูซาโดนคำสาปของเทวีอธีน่า จึงรู้สึกอับอายเจ็บช้ำ รวมทั้งเคียดแค้นที่ตนเอง ต้องมาโดนคำสาปเช่นนั้น จึงใช้ความเคียดแค้นนั้น ทำให้ทุกชีวิตกลายเป็นหิน เนื่องจากนางคิดว่าเป็นการตอบโต้ ความไม่ยุติธรรมที่เกิดขึ้น จนทำให้เธอต้องมาตกอยู่ในสภาพแบบนี้ กระทั่งทำให้เมดูซากลายเป็นมารร้าย และกลายเป็นสัญลักษณ์ของปีศาจร้ายในตำนานกรีก ซึ่งจะปรากฏรูปั้นของเมดูซา ให้เห็นได้ตามสถานที่ต่างๆ
เทพเปอร์ซีอุสผู้สังหารเมดูซา
ผู้ที่สามารถฆ่าเมดูซาได้ คือ เทพเปอร์ซีอุส ซึ่งได้ออกตามหานางเมดูซาเพื่อตามล่าตัดหัว ซึ่งมีเทวีอธีน่าและเฮอร์เมสคอยช่วยเหลือ และทำการฆ่าเมดูซาได้สำเร็จ โดยเทพเปอร์ซีอุสได้ตัดหัวของเมดูซา แล้วเก็บใส่ถุงวิเศษทันที เลือดของเธอที่ไหลนองออกมาจากคอนั้น ก่อให้เกิดม้ามีปีกชื่อว่า เปกาซัส ซึ่งต่อมาหัวของเธอนี้ได้ถูกนำมาติดบนโล่ของเทวีอธีน่า ซึ่งในสมัยโบราณคลาสสิค ภาพศรีษะของเมดูซาจะอยู่บนอุปกรณ์ ในการขับไล่ความชั่วร้ายเรียกว่า กอร์กะเนียน
นับตั้งแต่นั้นมาตำนานของเมดูซา ก็ได้จบสิ้นความโหดร้ายของเธอลง หลายชีวิตต้องกลายเป็นหินเพราะสายตาของเธอ และเรื่องนี้ก็ได้ทำให้เทพเปอร์เซอุสวีรบุรุษอมตะ กลายเป็นผู้ปราบมารในตำนานของชาวกรีกมากระทั่งปัจจุบันนี้ แม้ว่าตำนานเมดูซา จะเป็นตำนานที่อยู่ในเทพนิยายของกรีก แต่เรื่องราวของเมดูซาก็มีความสำคัญ ต่อความเชื่อของคน ทั้งเป็นสัญลักษณ์แห่งพลังเหนือธรรมชาติ ของยุโรปสมัยโบราณยุคหิน และมีส่วนสำคัญกับความเชื่อชาวกรีกเกี่ยวกับเรื่องเมดูซา กระทั่งสร้างรูปปั้นของเธอไว้ตามสถานที่ต่างๆ แม้กระทั่งในปัจจุบันเรื่องของ เมดูซาได้ถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์อันโด่งดัง จึงถือว่าเป็นตำนานอมตะเรื่องหนึ่งของมวลมนุษย์ทั้งโลก