
ช่วงสมัยที่ผมเรียนพระอภิธรรม พระอาจารย์ผู้สอนได้ตั้งคำถามประมาณว่า “ระหว่างพระธุดงค์รูปหนึ่งหลงป่าไม่มีอะไรจะกิน คือไม่มีแล้วจริง ๆ ไปเจอไข่นกเข้าด้วยความบังเอิญ จึงฉันไข่นกนั้นประทังชีวิต กับพรานคนหนึ่งเข้าป่าเจอไข่นกเหมือนกันแล้วนำมาแบ่งครอบครัวกินที่บ้าน ถามว่าใครบาปกว่ากัน”
คำถามนี้ หากตอบโดยไม่คิด หรือใช้ปัญญาตริตรองน้อย ก็จะตอบว่าพระสิบาปมากกว่า เป็นถึงพระแล้วทำไมถึงทำอย่างนี้ เป็นพระเรียนรู้มาแล้วทำไมต้องฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ทำลายชีวิตคนอื่น แต่พระอาจารย์กลับเฉลยว่า มันขึ้นอยู่กับความพอใจของผู้ที่ทำในขณะนั้น หากพระฉันไข่นกเพื่อยังอัตภาพให้เป็นไปเท่านั้น ฉันด้วยความรังเกียจใจ พูดง่าย ๆ ไม่ได้พอใจหรือเต็มใจทำอย่างนี้เลย แต่มันไม่มีอะไรจะกินแล้วจึงจำเป็นต้องกินเพื่อให้มีชีวิตรอดแล้วออกจากป่าให้ได้เสียก่อน ส่วนนายพรานนั้น มีความตั้งใจตั้งแต่อยู่ที่บ้าน มีการวางแผนว่าวันนี้จะไปทำอะไร ไปหาอาหารที่ไหน ด้วยวิธีใด เมื่อเจอไข่นกแล้วก็เกิดความยินดีที่ได้เจอ ยินดีที่ได้นำกลับมาบ้านแบ่งปันครอบครัว ทำด้วยความตั้งใจ ทำด้วยความพอใจ แบบนี้พรานจะบาปมากกว่าพระ มันไม่เกี่ยวกับว่าผู้ทำเป็นใคร แต่เกี่ยวกับสิ่งที่ทำคืออะไร หากสิ่งที่ทำเหมือนกัน ก็ต้องมาดูที่เจตนา หรือความพอใจมากน้อยแค่ไหน
การทำบาปบุญนั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าผู้ทำเป็นใคร รวยจน แต่งตัวดี เรียนมาสูงหรือมีฐานะดีจนอย่างไร แต่มันต้องมีองค์ประกอบอื่น ๆ ด้วย
ในเรื่องนี้ ก็เคยมีผู้ถาม พระครูปลัดสุวัฒนโพธิคุณ (สมชาย ฐานวุฑโฒ) ว่า คนที่ถือศีล8 กับศีล5 ทำผิดศีลข้อเดียวกัน เช่นฆ่าสัตว์ บาปจะเท่ากันหรือต่างกันไหมครับ ซึ่งท่านก็ได้เมตตาตอบลักษณะที่ว่า
บาปจะมากจะน้อย ขึ้นกับองค์ประกอบหลายอย่าง เช่น
- ถ้าฆ่าสัตว์ใหญ่บาปกว่าฆ่าสัตว์เล็ก ตัวอย่าง ฆ่าช้างบาปมากกว่าบี้มดตายไปตัวหนึ่ง
- ฆ่าสัตว์ที่มีคุณมาก บาปมากกว่าฆ่าสัตว์ที่มีคุณน้อย อย่างเช่น ฆ่ามนุษย์ แม้ตัวเล็กกว่าช้าง ก็บาปมากกว่าฆ่าช้าง ต้องดูที่คุณด้วย
- มนุษย์ด้วยกันเอง หากใครฆ่าพ่อฆ่าแม่ตนเองล่ะก็ เป็นอนันตริยกรรม เป็นบาปหนัก ยิ่งกว่าฆ่าคนอื่นทั่วไป อย่างนี้เป็นต้น ฆ่าคนดีก็บาปมากกว่าฆ่าโจร
- ขึ้นอยู่กับเจตนาด้วยว่า ถ้าเจตนาในการฆ่าแรงกล้า เช่น มีความอาฆาตแค้น มีการวางแผนจะฆ่าเขา ฆ่าด้วยการบันดาลโทสะ ฆ่าโดยไม่เจตนา การฆ่าด้วยเจตนาที่แรงกล้าเนี่ย ก็บาปากกว่า
- ถ้าเกิดเงื่อนไขทุกอย่างเท่ากันหมดเลย มีแนวโน้มที่ว่าคนรักษาศีล 8 ความตั้งใจในการรักษาศีลควรจะสูงนะมากกว่าคนศีล 5 ก็ต้องดูที่ว่า เจตนาในการฆ่าอันไหน จะแรงกล้ามากกว่ากัน ขึ้นกับความตั้งใจ เจริญพร
บางก็อาจจะมีคำถามซ้ำ ถ้าเจตนานเท่ากันล่ะ ใครบาปมากกว่ากัน อันที่จริงท่านก็ตอบแล้วขึ้นอยู่เจตนาของแต่ละคน ถ้าเจตนาเท่ากัน บาปก็น่าจะเท่ากัน แต่มันวัดกันยาก เป็นอันว่าอย่าสนใจว่าใครทำบาปมากน้อย หันมาสนใจในตัวเราดีกว่า ทำบาปมากน้อยแค่ไหน มีความพอใจในการทำบาปนั้นมากน้อยแค่ไหน มีก็ให้ละเสีย หันมาทำความดีให้มาก หันมาใส่ใจตนเองให้มากขึ้น ดีกว่าไปให้ความใส่ใจหรือสนใจคนอื่น