Priority Seat
หากเราไปสนามบิน หรือบนรถโดยสารประจำทาง รถไฟฟ้า รถไฟใต้ดิน รถ BTS จะมีที่นั่งพิเศษหรือที่เรียกว่า “Priority Seat” สำหรับบุคคลพิเศษ คือ พระภิกษุสามเณร คนแก่ ผู้พิการ หญิงมีครรภ์ มารดาและทารก ซึ่งเขาจะจัดแยกเป็นสัดส่วน หรือจัดอยู่ในกลุ่มเดียวกันก็แล้วแต่สถานที่ แต่ทั้งหมดเรียกว่า “Priority Seat” โดยจะมีสติ๊กเกอร์ติดไว้เป็นสัญลักษณ์มองเห็นได้อย่างชัดเจน
“Priority Seat” ใช่ว่าใครจะนั่งก็นั่งได้ หากคุณไม่ได้เป็นบุคคลอยู่ในกลุ่มนี้ คุณควรมองหาที่นั่งที่ตรงอื่น ยกเว้นที่อื่นไม่มีที่นั่งแล้ว แต่หากคุณได้นั่งตรง “Priority Seat” แล้ว คุณต้องรู้ตัวอยู่เสมอว่าไม่ใช่ที่นั่งของคุณโดยปกติและคอยสังเกตว่าบุคคลที่ควรแก่ “Priority Seat” จะเดินมาเมื่อไหร่ คุณควรรีบให้ที่นั่งนั้นแก่พวกเขาทันที
หากที่นั่งตรง “Priority Seat” มีคนกลุ่มพิเศษนั่งเต็มแล้ว หากมีบุคคลที่ลำบากกว่าเรา หรือคนที่ควรได้ที่นั่ง เช่น สตรีมีครรภ์ ผู้พิการ หรือพระสงฆ์ ด้วยมารยาทอันดีงามคุณก็ควรลุกให้
การให้ที่นั่งแก่ พระภิกษุสามเณร คนแก่ ผู้พิการ หญิงมีครรภ์ หรือผู้ที่มีความลำบากกว่าเรา หากคิดเป็นหน้าที่ของพลเมืองดี ก็เป็นหน้าที่ที่ควรทำ หากคิดเป็นมารยาทอันดีงาม ก็เป็นเป็นมารยาทที่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง หากคิดว่าเป็นการทำความดี ก็จัดเข้าในความดีที่ช่วยให้คนอื่นได้รับความสะดวกสบาย หากคิดว่านี่เป็นการทำบุญ ก็เป็นบุญอย่างไม่ต้องสงสัย จัดเข้าในเวยยาวัจจมัย บุญสำเร็จด้วยการช่วยขวนขวายในกิจที่ชอบ, ทำดีด้วยการช่วยเหลือรับใช้ผู้อื่น เวยยาวัจจมัย นี้จะเข้าในศีล คือการประพฤติตามจารีตประเพณีที่ดีงาม
บางคนอาจจะไม่ค่อยมีเวลาเข้าวัด หรือเวลาเข้าวัดก็กลัวว่าจะต้องเสียเงินทำบุญ บุญอยู่ข้างหน้าคุณแล้ว คุณสามารถทำบุญได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องไปวัด ไม่ต้องเสียเงินสักบาท และเป็นบุญที่สูงกว่าการให้ทานโดยทั่วไป
ภาพประกอบจาก
https://pantip.com/topic/30204329/page2
https://www.jobbkk.com/variety/detail/1762
https://www.sanook.com/travel/1409551/