8 ต้นไม้สำคัญในพุทธประวัติ คำว่าต้นไม้สำคัญหมายความว่าต้นไม้เหล่านี้มีความเกี่ยวข้องกับพุทธประวัติ หรือในคัมภีร์ทางพระพุทธศาสนาได้กล่างถึงต้นไม้เหล่านี้ไว้ คำว่าควรรู้ คือควรได้รู้จัก ควรทำความรู้จักไว้ไม่ใช่ต้องจุดธูปเทียนกราบไหว้บูชาแต่อย่างอย่างไร เมื่อรู้แล้วเราก็จะได้อนุรักษ์ต้นไม้เหล่านี้ไว้เป็นมรดกของลูกหลานต่อไป
8 ต้นไม้สำคัญในพุทธประวัติ มีอะไรบ้าง
1. ต้นสาละ (Sal Tree) หรือสาละอินเดีย (Sal of India)
ต้นสาละที่ผมกล่าวถึงนี้ เป็นต้นสาละแบบอินเดียที่มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Shorea robusta ซึ่งจะมีลักษณะคล้ายต้นรัง ด้วยเหตุนี้ในหนังสือพุทธประวัติเล่มที่ 3 จึงแปลต้นสาละนี้ว่าต้นรัง แต่จริง ๆ แล้วเป็นต้นไม้ต่างชนิดกันแต่มีความคล้ายกัน และเมื่อกล่าวถึงต้นสาละในพุทธประวัติ คนส่วนมากก็มักเข้าใจผิดคิดว่าเป็นต้นไม้ที่มีดอกใหญ่ ๆ สวยงาม มีลูกใหญ่คล้ายลูกปืน จึงเรียกอีกอย่างว่าต้นลูกปืน (Cannonball tree) สำหรับรายละเอียดของต้นสาละทั้งสองนั้น ผมได้เขียนไว้แล้วที่บทความ เข้าใจผิดมานาน ต้นสาละที่ประสูติ และ ปรินิพพานเป็นแบบนี้นี่เอง
สาละ (Sal Tree) หรือสาละอินเดีย (Sal of India) เป็นต้นไม้ที่มีความเกี่ยวข้องกับองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในวันประสูติ และในวันเสด็จดับขันธปรินิพพาน พระองค์ประสูติภายใต้ต้นสาละ ณ อุทยานลุมพินีซึ่งตั้งอยู่ระหว่างกรุงกบิลพัสดุ์ แคว้นสักกะ กับกรุงเทวทหะ ในวันเพ็ญเดือน ๖ ก่อนพุทธศักราช ๘๐ ปี และทรงปรินิพพานใต้ต้นสาละคู่ ในสาลวโนทยาน ในกรุงกุสินารา
2. ต้นพระศรีมหาโพธิ (อัสสัตถพฤกษ์)
ต้นพระศรีมหาโพธิ เดิมทีเรียกว่าต้นอัสสัตถะ เป็นต้นไม้ที่พระโพธิสัตว์ได้ประทับภายใต้ร่มเงาในคืนตรัสรู้พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ ในคืนวันเพ็ญเดือน ๖ ก่อนพุทธศักราช ๔๕ ปี ณ ริมฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา ตำบลอุรุเวลาเสนานิคม แคว้นมคธ เมื่อพระองค์ตรัสรู้ธรรม ณ ภายใต้ร่มไม้ต้นนี้แล้ว จึงได้ชื่อว่าต้นโพธิ์ หรือ ต้นพระศรีมหาโพธิ์ หมายถึงต้นไม้แห่งการตรัสรู้ธรรม ต้นพระศรีมหาโพธิ เป็นหนึ่งใน ๗ สหชาติ
3. ต้นอปชาลนิโครธ ( ต้นไทร)
ต้นอปชาลนิโครธ เป็นต้นไทรที่พระพุทธเจ้าทรงประทับนั่งเสวยวิมุตติสุขในสัปดาห์ที่ ๕ ภายหลังที่ได้ทรงตรัสรู้ พระพุทธองค์ได้ประทับนั่งภายใต้ร่มเงาแห่งต้นอปชาลนิโครธนี้เป็นเวลา ๗ วัน ต้นอปชาลนิโครธนี้ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของต้นศรีมหาโพธิ์
4. ต้นมุจจลินทร์ (ต้นจิก)
ในสัปดาห์ที่ ๖ แห่งการตรัสรู้ธรรมของพระบรมศาสดา พระองค์ทรงประทับภายใต้ร่มเงาของต้นมุจจลินทร์หรือต้นไม้จิก ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ใกล้กับต้นพระศรีมหาโพธิ์ พระองค์ประทับนั่งเสวยวิมุตติสุขอยู่ใต้ต้นมุจจลินทร์เป็นเวลา ๗ วัน ครั้งนั้นมีพญานาคชื่อว่ามุจจลินทร์นาคราชมาทำขนดแผ่พังพานปกป้องพระองค์จากสายลมและสายฝน
5. ต้นราชยตนะ (ต้นไม้เกต)
ภายหลังจากองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้แล้วถึงสัปดาห์ที่ ๗ ทรงประทับภายใต้ร่มเงาของต้นราชายตนะหรือต้นไม้เกต ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศใต้ ใกล้กับต้นพระศรีมหาโพธิ์ พระองค์ทรงประทับนั่งเสวยวิมุตติสุขเป็นเวลา ๗ วัน นับเป็นสัปดาห์สุดท้ายแห่งการเสวยวิมุตติสุข ณ ที่แห่งนี้มีพ่อค้า ๒ คนนามว่า ตปุสสะ และภัลลิกะ นำกองเกวียนค้าขายจากแดนไกลคืออุกกลชนบทผ่านมา เห็นพระศาสดาแล้วเกิดความศรัทธายิ่งนัก จึงได้น้อมถวายเสบียงเดินทางที่ตนมีอยู่ คือสัตตุผง สัตตุก้อนแด่พระพุทธเจ้า พ่อค้าทั้งสองนั้นได้แสดงตนเป็นปฐมอุบาสกผู้ถึงสรณะ ๒ คือถึงพระพุทธและพระธรรมเป็นสรณะ
6. ต้นพหุปุตตนิโครธ (ต้นไทร)
คือต้นไทรที่อยู่ระหว่างกรุงราชคฤห์กับเมืองนาลันทา เป็นสถานที่ที่ปิปผลิมาณพได้พบพระพุทธเจ้าและขออุปสมบทที่พหุปุตตนิโครธนี้ ครั้นเมื่อบวชแล้วได้ ๗ วัน ก็ได้บรรลุเป็นพระอรหันต์ มีนามเป็นที่รู้จักในภายหลังว่าพระมหากัสสปะ ท่านได้รับการยกย่องว่าเป็นเอตทัคคะในทางถือธุดงค์เป็นวัตร
7. ต้นปาริฉัตตก์ (ต้นทองหลาง)
เป็นต้นไม้อยู่ในสวนนันทวันของพระอินทร์หรือท้าวสักกเทวราชผู้เป็นจอมเทพแห่งสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ในพรรษาที่ ๗ ภายหลังตรัสรู้ พระพุทธเจ้าทรงเสด็จประทับภายใต้ร่มไม้ปาริฉัตตก์ (หรือปาริฉัตร, ปาริชาต) นี้เพื่อทรงแสดงธรรมโปรดพระพุทธมารดาตลอดสามเดือน ในที่สุดพระพุทธมารดาได้ทรงบรรลุพระโสดาปัตติผล (ต้นทองหลางที่ผมนำภาพมาประกอบ ผมไม่แน่ใจว่าใช่ต้นทองหลางหรือไม่ หรือใช่ต้นปาริฉัตตก์หรือไม่)
8. ต้นอานันทมหาโพธิ์
เป็นต้นโพธิ์จากหน่อของต้นโพธิ์เดิมที่พระพุทธเจ้าประทับนั่งใต้ร่มเงาตรัสรู้ ได้ถูกนำเมล็ดไปปลูกเป็นต้นแรกในสมัยพุทธกาลซึ่งมีพระอานนท์เป็นผู้ดำเนินการ ปลูกที่ประตูวัดพระเชตวันมหาวิหาร พระนครสาวัตถี แคว้นโกศล ต้นโพธิ์นั้นจึงเรียกว่า อานันทมหาโพธิ์ และยังยืนต้นอยู่จนถึงทุกวันนี้ จึงกลายเป็นต้นไม้ที่มีอายุยืนยาวที่สุดในพระพุทธศาสนาที่เรารู้จัก (ยกเว้นต้นปาริฉัตรบนสวรรค์นั้นดาวดึงส์)
ข้อมูลจาก 8 ต้นไม้สำคัญที่ชาวพุทธควรรู้จัก