เสือรุ่น 6 จบปริญญา หลวงพ่อวงษ์ วัดปริวาสราชสงคราม -

เห็นว่าบทความนี้มีประโยชน์ โปรดแชร์....

หลวงพ่อวงษ์ วัดปริวาสราชสงคราม

พระครูขันตยาภิราม หรือ หลวงพ่อวงษ์ วํสปาโล อดีตเจ้าอาวาสวัดปริวาสราชสงคราม ยานนาวา กรุงเทพมหานคร ผู้สร้างตำนานเสือโลหะ สืบสานวิชาการสร้างเสือที่แปลกแหวกแนวไม่เหมือนใครจากหลวงพ่อปาน วัดมงคลโคธาวาส ตำบลคลองด่าน อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ กล่าวกันว่าท่านเรียนวิธีการสร้างเสือกับหลวงพ่อปานผ่านทางนิมิต ส่วนนิมิตนั้นเป็นอย่างไร ท่านสอนกันแบบไหน อะไรบ้าง ทำไมหลวงพ่อปานไม่สอนรูปอื่น ยากที่ผมจะตอบได้

หลวงพ่อวงษ์ วํสปาโล ท่านเป็นคนพื้นที่บ้านทวาย เรียกตำบลบางโพงพาง หรือ ทุกวันนี้คือพื้นที่เขตยานนาวา เกิดเมื่อวันเสาร์ที่ 7 มิถุนายน 2445 ในตระกูลเจริญกุล บิดาชื่อเลียบ มารดาชื่อจั่น ท่านถูกบิดานำไปฝากที่วัดปริวาสตั้งแต่สมัยเด็กเพื่อเรียนหนังสือ จนท่านสอบเทียบชั้นในระดับประถมศึกษาสี่ อายุได้ 21 ปี จึงเข้ารับการเกณฑ์ทหาร เป็นทหารเรือที่กรมสรรพาวุธทหารเรือ เขตบางนา

หลังจากปลอดประจำการแล้ว (อายุ 23 ปี) ท่านจึงได้เข้าพิธีอุปสมบทที่วัดปริวาสราชสงคราม ในวันพุธที่ 17 มิถุนายน 2468 โดยมีพระครูวินยานุบูรณาจาร หรือ หลวงพ่อเชย วัดโปรดเกศเชษฐาราม เมืองพระประแดง สมุทรปราการ เป็นพระอุปัชฌาย์ มีพระปลัดไม้ วัดปริวาสเป็นพระกรรมวาจาจารย์ และ พระอธิการน้อย วัดด่าน เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า วํสปาโล (ผู้รักษาวงษ์)

เมื่ออุปสมบทเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนาแล้ว ท่านมีโอกาสได้ไปศึกษาเล่าเรียนหลักธรรมที่วัดทองธรรมชาติ วัดมหาธาตุ วัดจักรวรรดิราชาวาส หรือ วัดสามปลื้ม เรียนภาษาบาลีจากคัมภีร์มูลกัจจายน์ทั้งอักษรขอมและอักษรไทย ในส่วนของการศึกษาภาคนักธรรมนั้นท่านสอบได้นักธรรมชั้นตรี จนถึงปี พ.ศ. 2471 หลังจากที่พระปลัดไม้ วัดปริวาส ได้มรณภาพลงแล้ว หลวงพ่อวงษ์จึงได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดปริวาสราชสงคราม

หลวงพ่อวงษ์ นอกจากท่านจะปฏิบัติสมถะกรรมฐานและปัสสนากรรมฐานอันเป็นวิชาหลักแล้ว ท่านมีความสนใจใฝ่เรียนรู้วิชาการต่าง ๆ มีความรอบรู้ในทางด้านสมุนไพร วิชาจับยามสามตา การเล่นแร่แปรธาตุ การทำน้ำมนต์ และการทำผงวิเศษต่าง ๆ เป็นต้นว่า ผงปถมัง ผงอิทธิเจ

เสือรุ่น 6 จบปริญญา หลวงพ่อวงษ์

หลวงพ่อวงษ์ท่านได้สร้างเสือโลหะทั้งหมด 6 รุ่น อ่านเพิ่มเติมที่บทความ…ประวัติ การสร้างเสือหลวงพ่อวงษ์ รุ่น1-6 โดยเสือรุ่นที่ 6 จัดสร้างขึ้นในปี พ.ศ.2519 ครั้งนั้นพระพิมล อิทฺธิเตโช ได้นำพิมพ์เสือรุ่น 3 มาเป็นแบบ ให้ทางร้านทำเนื้อทองแดง ในราคาตัวละ 1.50 บาท สั่งทำจำนวน 50,000 ตัว ทางร้านพยายามทำเต็มที่ ถึงกระนั้น ก็ได้ไม่ครบจำนวน เพราะแม่พิมพ์แตก แกะแม่พิมพ์ถึง 8 อัน ทางร้านทำต่อไม่ไหว เพราะต้องใช้ต้นทุนในการแกะแม่พิมพ์เพิ่มอีกมาก ทำให้ต้องคืนงานหลวงพ่อ จึงปั้มได้แค่ 37,500 องค์ เป็นเนื้อเงิน 29 ตัว เสือหลวงพ่อวงษ์รุ่นหกทำพิธีปลุกเสกที่อุโบสถวัดปริวาสราชสงครามโดยหลวงพ่อวงษ์ มีหลวงปู่ปานปลุกเสกผ่านร่างประทับ และหลวงพ่อสมชาย (สมัยนั้นน่าเป็นสามเณร) ร่วมปลุกเสกด้วย จนเสือโลหะกระโดดออกจากบาตร 16 ตัว ลูกศิษย์เห็นดังนั้นต่างเข้าแย่งกัน หลวงพ่อวงษ์กล่าวว่าเสือที่กระโดดออกมานั่นเป็นพวกหัวโจกทั้งนั้น เสือรุ่น 6 หลวงพ่อวงษ์นี้ พระครูจันทรโอภาส (หลวงพ่อจ้อย) เจ้าอาวาสวัดด่าน สหธรรมิก ได้ขอไปในราคาทุนจำนวน 2000 ตัว ส่วนทางวัดปริวาสราชสงครามนำออกให้บูชาตัวละ 100 บาท จนหมดจากวัดในปี พ.ศ. 2532

เสือหลวงพ่อวงษ์ รุ่น 6 ได้รับความนิยมมาก อาจจะเนื่องด้วยศิลปะที่สวยงาม เสือมีความองอาจ ขนาดพกติดตัวง่าย หาได้ไม่ยาก ดูง่าย อีกประการ หลวงพ่อวงษ์ได้กล่าวกับลูกศิษย์ไว้ว่า “ตอนกูเสกเสือรุ่น 1 นั้นกูเพิ่งจบชั้นประถม แต่เสือรุ่น 6 นั้นกูจบปริญญาแล้ว พวกมึงว่ารุ่นไหนจะดีกว่ากัน” จนศิษย์เรียกเสือรุ่น 6 ว่า รุ่นจบปริญญา แต่ไม่ว่าจะเป็นเสือรุ่นไหนของหลวงพ่อวงษ์ก็ดีทั้งนั้น ถ้ารุ่น 1 เพิ่งจบชั้นประถม ไม่ดี ท่านคงไม่ทำออกมา ควรรอให้จบปริญญาเสียก่อนจึงค่อยทำ