ช่วงนี้มีข่าวเกี่ยวข้องพระสงฆ์บ่อย ๆ เช่น ข่าวว่า พระโกงเงินวัดบ้าง พระเสพเมถุนบ้าง พระดื่มสุราบ้าง อย่างนี้เป็นต้น
ในฐานที่ผมเป็นพุทธศาสนิกชนคนหนึ่ง หรือไม่ใช่พุทธศาสนิกชน ก็ควรใช้วิจารณญาณในการเสพข่าวเช่นกัน ซึ่งผมจะพิจารณาตามสติปัญญาผมดังนี้
1. ทุกคนมีกรรมเป็นของตนเอง
หมายความว่า เราไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำนั้น เราเป็นแต่เพียงผู้อ่านข่าว ผู้ดู ผู้ฟัง ผู้ศึกษาเท่านั้น หากท่านทำความชั่วจริง เราก็ไม่มีส่วนในกรรมชั่วนั้น และไม่เอาเหตุแห่งการได้ฟัง ได้ยิน ได้อ่าน ได้รับมาทราบมานั้น เป็นเหตุให้ตนเองทำความชั่ว หรือมีส่วนร่วมในการทำความชั่วนั้น คือไม่ด่า ไม่ว่าร้าย ไม่กล่าวคำหยาบคายเพราะเหตุแห่งการได้ยินได้รับทราบการกระทำของบุคคลอื่น
2.เราเป็นเพียงผู้รับข่าวสาร เขาให้อยากให้รู้อย่างไร เขาก็เสนออย่างนั้น
เราเป็นแต่เพียงผู้เสพข่าว ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ เขาอยากให้สังคมรู้อะไร อย่างไร เขาก็นำเสนอสิ่งนั้นให้กับสังคมรับรู้ เช่น เขาต้องการเสนอข่าวพระหรือคนเสพยาบ้า เขาก็ถ่ายรูปยาบ้ามาเสนอข่าวให้สังคม เขาต้องการให้สังคมรู้ว่าพระโกงเงิน เขาก็ถ่ายภาพเงินให้เราดู แต่โดยความเป็นจริง เราไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ อาจจะเป็นภาพในเหตุการณ์จริงหรือไม่ใช่ก็เป็นไปได้ หรือเป็นภาพในสถานที่จริง แต่อาจจะเป็นการจัดฉากก็เป็นได้ทั้งนั้น ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องสืบสวนต่อไป
3.เราไม่ใช่ผู้ตัดสินผิดถูก
เราเป็นแต่เพียงผู้อ่าน ผู้เสพข่าว รู้ในสิ่งที่เขาอยากให้รู้ เราไม่ใช่ศาล ไม่ใช่ผู้ตัดสินใครผิดถูก แม้บุคคลนั้นจะทำผิดจริง เราก็ไม่สิทธิ์ที่จะไปด่าเขา ไม่มีสิทธิ์ที่จะไปชักชวนให้คนอื่นด่าหรือเกลียดชังเขา
4.พระถูกใส่ร้ายได้ง่ายมาก
ผมกล่าวได้เลยว่า พระเป็นบุคคลที่ถูกใส่ร้ายได้ง่ายมากที่สุด อย่างที่เคยเป็นข่าวมา บางคนไม่พอใจพระแล้วแอบไปโยนขวดสุราใต้กุฏิพระ หรือซุกของที่พระไม่ควรมีไว้ใต้ถุนกุฏิจากนั้นทำเป็นโวยวายใส่ร้ายพระก็มี นี่เป็นเรื่องเล็กน้อย แต่มี 2 เรื่องหลัก ๆ ที่บุคคลผู้ไม่หวังดีมักนำมากล่าวร้ายพระ 1.เสพเมถุน 2. เรื่องเงิน หรือสั้น ๆ สตรี สตางค์ พระองค์ไหนที่บุคคลผู้ไม่หวังดีทำร้ายด้วยสตรีไม่ได้ ก็กล่าวหาว่าพระเสพเมถุนกับพระเณรหรือเด็กวัด นั่นเห็นไหม การที่จะใส่ร้ายพระนั้น มันง่ายมาก ๆ
5.ไม่อยากกราบพระ ไม่อยากนับถือพระ ?
ข้อนี้ไม่เกิดขึ้นกับผมแน่ แต่ได้ยินได้ฟังคนอื่นบ่นมา แต่ประเด็นคือไม่ใช่แค่บ่นน่ะ ด่าพระด้วย พูดคำหยาบด้วย ชักชวนให้คนอื่นเกลียดพระด้วย
การที่คุณหรือใคร ๆ ไม่นับถือพระ ไม่กราบพระ เข้าวัดแล้วไม่กราบพระ ไม่ใช่ความผิดใด ๆ ไม่เป็นบุญหรือบาปใด ๆ
ไม่กราบพระไม่เป็นไร ก็ไม่ต้องกราบ ไม่นับพระไม่เป็นไร ก็ไม่ต้องนับถือ ไม่ใส่บาตรพระไม่เป็นไร ไม่ต้องใส่ แต่ไม่ได้หมายความว่า ไม่นับถือพระแล้วด่าพระได้ ไม่นับถือใครแล้วด่าคนนั้นได้ ไม่นับถือแล้วชวนคนอื่นไม่ให้นับถือด้วย ไม่นับถือแล้วเกลียดและยังชวนคนอื่นเกลียดด้วย ไม่ใส่บาตรเองแล้วชักชวนคนอื่นไม่ใช่บาตรด้วย แบบนี้ใช้ไม่ได้
6.ข่าวพระเสียบ่อย ไม่อยากนับถือพระพุทธศาสนาแล้ว
ข้อนี้จะไม่เกิดขึ้นกับผม และผมเชื่อมั่นว่า บุคคลใดที่เข้าถึงพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริงแล้ว จะไม่มีความคิดเช่นนี้ ถ้าใครคิดเช่นนี้อยู่แสดงว่ายังไม่เข้าถึงพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริง เราจะไปหวั่นไหวเพราะข่าวการทำความดีความชั่วของคนอื่นทำไม ในเมื่อดีชั่วเป็นของเฉพาะตัว แม้นท่านความดีมากมายมหาศาลก็เป็นความดีของท่าน หรือท่านทำความชั่วผลชั่วนั้นก็ต้องเป็นของท่าน ไม่เกี่ยวกับเราเลย นี่คือการคิดอย่างพื้น ๆ ง่าย ๆ ตามหลักทั่ว ๆไป