คาถาขอนิมิต คาถาภาวนาให้เกิดนิมิต สั้น ๆ ง่าย ๆ ใคร ๆ ก็ภาวนาได้ แต่ใจคุณต้องสงบ
คาถาขอนิมิต ภาวนาให้เกิดนิมิต
อิทธิ พุทธะนิมิตตัง
ให้ภาวนาคาถานี้เมื่อจิตคุณสงบอันเกิดขึ้นจากการทำสมาธิ หมายความว่าคุณต้องนั่งทำสมาธิให้จิตสงบเสียก่อน ส่วนวิธีการทำสมาธินั้น คุณ ๆ น่าจะรู้กันแล้ว เมื่อภาวนาจิตสงบแล้วจึงให้บริกรรมคำนี้ อิทธิ พุทธะนิมิตตัง ประมาณ 2-3 นาที นิมิตอาจจะเกิดขึ้นในขณะนั้น หรือนิมิตอาจจะเกิดหลังจากที่คุณทำสมาธิเสร็จแล้วในขณะคุณหลับ หรือเวลาอื่น
เหตุแห่งความฝัน ๔ ประการ หรือเหตุแห่งนิมิต ๔ ประการ
๑. ธาตุวิปริต
ร่างกายผิดปกติ เช่น เป็นไข้ หิวมากไป กระหายน้ำ ปวดปัสสาวะ อาหารไม่ย่อย ทำให้ฝันได้ ความฝันที่เกิดจากธาตุกำเริบเชื่อถือไม่ได้
๒. จิตนิวรณ์
เพราะจิตเคยผูกพันเกี่ยวข้องกับอารมณ์นั้น ๆ เช่น ผมฝันว่าได้เล่นกับน้องสมัยเด็ก ๆ ฝันที่ไรน้องก็ยังเป็นเด็กอยู่เหมือนเดิม ผมเคยเล่นกับน้อง ๆ สมัยเด็ก โตขึ้นแล้วไม่เคยเล่นด้วยกัน จิตจึงผูกพันกับเหตุการณ์ในสมัยเด็กเท่านั้น ฝันเพราะจิตนิวรณ์ในเหตุการณ์ที่เราเคยประสบมานั้น จริงบ้างไม่จริงบ้าง แต่บางคนอาจจะฝันเห็นญาติที่เคยอยู่ร่วมกันและเสียชีวิตไป ถ้าฝันเห็นท่านลำบาก เพื่อความไม่ประมาท เราควรทำบุญอุทิศให้เขา
๓. เทพสังหรณ์
หมายถึงความฝันหรือนิมิตที่เกิดจากเทวดามาดลใจให้ฝัน ให้เราได้รับรู้ อาจจะจริงบ้างไม่จริงบ้าง เพราะเทวดาเองก็มีทั้งสัมมาทิฐิและมิจฉาทิฐิ มีทั้งมีบุญบารมีมากและมีน้อย มีทั้งรู้จริงและไม่รู้จริง มีทั้งชอบเราและเกลียดเรา หากเทวดาที่มีสัมมาทิฐิมีบุญบารมีมาหรือเทวดาที่เคยเป็นญาติเรามาเข้าฝัน เรื่องที่ฝันก็เป็นความจริงได้
๔. เพราะบุพนิมิต
ฝันเพราะมีลางบอกเหตุ ว่าจะได้พบเจอสิ่งใดสิ่งหนึ่งในกาลข้างหน้า ท่านว่าเป็นความฝันหรือนิมิตที่จะเป็นจริง เพราะเกิดขึ้นเพราะบุญกรรมของเรา ดังเช่น พระนางสิริมหามายา พุทธมารดา ฝันว่ามีช้างนำดอกบัวมาถวาย โหรหลวงทำนายว่าจะมีพระโพธิสัตว์ผู้ที่จะตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้ามาเกิดในครรภ์ของพระนาง ซึ่งก็เป็นจริง พระโพธิสัตว์ก่อนจะตรัสรู้หนึ่งคืนก็เกิดบุพนิมิต (ลางบอกเหตุ) เป็นความฝัน ๕ เรื่องด้วยกัน ตื่นเช้าท่านตีปริศนาแห่งความฝันว่าด้วยตนเองว่าจะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า ซึ่งก็เป็นความจริง หลวงปู่มั่นก็ได้สุบินนิมิตก่อนที่ท่านจะได้ถึงธรรมอันสูงสุด ทั้งหมดก่อนขึ้นผลของกุศลกรรมหรือกุศลกรรมทั้งนั้น แต่ประเด็นคือเราจะรู้ได้อย่างไรว่าเป็นบุพนิมิตที่เกิดขึ้นจากกรรม หรือเป็นผลงานของเทวดา ฉะนั้น ก็เพียงแต่รู้ไว้เป็นแนวทางและตั้งตนอยู่ในความไม่ประมาท
การสวดคาถานิมิตนี้ เราหมายให้เกิดบุพนิมิตอย่างใดอย่างหนึ่งขึ้นมาเพื่อเป็นเครื่องเตือนสติ หรือแนวทางในการดำเนินชีวิต หรือเพื่อจะได้เตรียมตัวรับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น
แต่บุพนิมิตนั้น มีทั้งดีและร้าย ถ้าเกิดเรื่องร้ายขึ้นก็อย่างตกใจกลัวจนเกินเหตุ ถือว่าว่าสิ่งใดสิ่งหนึ่งมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สิ่งทั้งปวงย่อมดับไปเป็นธรรมดา ทุกอย่างเกิดแต่เหตุ ไม่ได้เกิดขึ้นลอย ๆ ถ้าเรื่องร้ายก็อาจจะเป็นกรรมเก่าของเราก็ได้ ให้หมั่นทำบุญ ให้ทาน สมาทานศีล โดยเฉพาะการภาวนาเป็นการอบรมจิตใจของเราให้เกิดสติปัญญาให้รู้เห็นตามความเป็นจริง เตรียมพร้อมรองรับทุกสถานะการณ์ที่จะเกิดขึ้น
ถ้าเป็นนิมิตดี ก็อย่าได้หลงจนเกินไป อย่างที่กล่าวไว้ ทุกอย่างเกิดแต่เหตุ ผลดีเกิดขึ้นแก่เรา เพราะเราเคยทำเหตุที่ดีมาก่อน แต่เราไม่อาจจะรู้ได้ว่าเราสร้างเหตุดีไว้มากน้อยแค่ไหนในอดีต ฉะนั้น จะเป็นนิมิตในด้านดีหรือด้านไม่ดี เราไม่ทิ้งธรรม โดยเฉพาะการภาวนาเพราะเป็นการพัฒนาจิตใจของเราให้เข้มแข็งรองรับทุกสถานการณ์ เกิดปัญญารู้เท่าทันตามความเป็นจริงในชีวิต
คาถขอนิมิตนี้ ยังใช้เป็นคาถาขอหวยขอโชคลาภได้อีกด้วย เมื่อจิตเป็นสมาธิแล้ว ภาวนาคาถานี้ประมาณ 2-3 นาที แล้วทำการอธิษฐานขอนิมิตที่ต้องการ