มีเซียนพระท่านหนึ่งซึ่งมาอาชีพในการซื้อพระจากบ้านเรือนของชาวบ้านแล้วนำมาออกมาขายต่อให้กับผู้ที่มีความต้องการเช่าบูชา เซียนพระท่านนั้นเล่าให้ฟังว่าเขาอธิษฐานทุกครั้งที่ได้พระเครื่องมาใหม่
อธิษฐานขอให้ถูกหวย ?
เซียนพระ : ไม่ใช่ครับ
อธิษฐานให้ถูกรางวัลที่หนึ่งไปเลยหรือ ?
เซียนพระ : ไม่ถึงขนาดนั้นครับ
อธิษฐานให้สาวชอบหรือ ? มีเมียแล้วนิ
เซียนพระ : ไม่ใช่อย่างนั้นครับ
แล้วอธิษฐานว่าอะไรล่ะ ?
เซียนพระ : อธิษฐานให้ขายพระองค์ที่ซื้อมาได้ครับ
???????
คงจะอย่างนั้นล่ะนะท่านผู้อ่าน ในเมื่อเขามีอาชีพซื้อขายพระ เช่าพระ จองพระ ซื้อพระมาเพื่อขาย นั่นคือทางรอดของเขา
ผมเคยได้ยินเรื่องเล่าจากพระอาจารย์รูปหนึ่งในจังหวัดสกลนคร เป็นเรื่องที่ฟังมาจริง ได้ยินจริง แต่ไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นเหตุการณ์จริงหรือไม่ เรื่องมีอยู่ว่า
มีชาวบ้านท่านหนึ่งมีอาชีพทำนาได้รับเหรียญรุ่นแรกจากหลวงปู่ฝั้น ต่อมามีชาวบ้านผู้มีฐานะดีท่านหนึ่งขอใช้รถไถนา (ยุคนั้นมีรถไถหรือยังไม่แน่ใจนะครับ แต่ฟังมาอย่างนี้) เพื่อแลกกับเหรียญหลวงปู่ฝั้นรุ่นแรกนั้น ด้วยความกลัวบาปหรือกลัวหลวงปู่ท่านตำหนิ ชาวนาคนนั้นจึงได้เข้าไปกราบเรียนถามหลวงปู่ฝั้น เล่าเรื่องทั้งหมดให้ท่านฟังพร้อมกับกราบเรียนถามท่านว่าสามารถนำเหรียญที่ทานแจกแลกรถไถนาได้หรือไม่ หลวงปู่ฝั้นท่านคงเห็นใจในความเป็นอยู่ของชาวบ้านและด้วยความเมตตาที่มีต่อศิษย์ท่านจึงตอบว่า “ข้อยสิซ่อยเจ่าได๋ก็ยามนี้ล่ะ ให้ข่อยไปซ่อยเฮ็ดนาคือสิบ่ได๋หรอก” หมายความว่า หลวงปู่จะช่วยคุณได้ก็เรื่องแบบนี้ล่ะ จะให้หลวงปู่ไปช่วยทำนาคงไม่ได้ (ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ถือว่าหลวงปู่ท่านมีเมตตามาก และท่านก็ตอบเป็นกลาง ๆ คือไม่ได้ตอบว่าให้นำไปแลกเลยหรือห้ามให้คนอื่นเด็ดขาด)
เมื่อเขาได้ฟังคำของหลวงปู่ฝั้นดังนั้นแล้วจึงกลับมาบ้านนำเหรียญรุ่นแรกหลวงปู่ฝั้นไปแลกรถไถนาเพื่อมานำมาประกอบสัมมาอาชีพไถ่นาเลี้ยงชีพและเพื่อทำบุญให้ทานต่อไป