ข้อความนี้ผมไปอ่านเจอมานะครับ เห็นว่าใช้ได้ เป็นคติสอนใจดี สะท้อนถึงสังคมไทย เอาง่าย ๆ เลยครับ สังคมไทย อย่าหาว่าผมดูถูกสังคมหรือรากเหง้าตนเองเลย เป็นมาตั้งแต่วงการนักการเมือง เห็นพรรคไหน คนไหนได้ดีไม่ได้ หาทางสะกัดกั้นทำอะไรผิดหมด แต่ถ้าพรรคตนเอง คนของตนเองทำอะไรก็ถูกหมด นโยบายบางนโยบาย รู้ทั้งรู้ว่ามันดี ทำแล้วเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติประชาชน แต่ก็ค้านไว้ก่อน ค้าน ๆ ๆ พอพวกตนเองมาเป็นรัฐบาลก็เอานโยบายที่ตนเองเคยค้านนั่นแหล่ะมาทำต่อ บางเรื่องตนเองทำผิดก็ไม่ยอมรับผิด แต่ถ้าพวกอื่นทำผิดหมด ว่าเรื่องการเมืองแล้วของขึ้นครับ
นิสัยคนจีน คนไทย
เปิดกิจการร้านอาหารใหม่
คนจีน : เมื่อเพื่อนเปิดกิจการใหม่ พวกเขาจะพากันไปอุดหนุน เปิดบิลให้เพื่อน
คนไทย (บางคน) : เมื่อเพื่อนเปิดกิจการร้านใหม่ ถามกินฟรีตั้งแต่ยังไม่ไป ไปแล้วก็ถามหาส่วนลดก่อนสั่งอาหารเสียอีก
ก่อสร้างโรงงาน บ้านเรือน
คนจีน : ไปซื้ออุปกรณ์เหล็กปูนจากร้านของเพื่อน คิดตามราคาลูกค้าทั่วไปไม่งอแง
คนไทย (บางคน) : ยิ่งสนิท ยิ่งจะขอส่วนลดกดราคากับเพื่อน ไม่คิดบ้างหรือเพื่อนก็ต้องหาเลี้ยงลูกเมีย
การคบค้าไปมาหาสู่กัน
คนจีน : ไปมาหาสู่กัน เพื่อที่จะแลกเปลี่ยนความคิด จับกลุ่มพูดคุยเรื่องธุรกิจเพื่อช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
คนไทย (บางคน) : เห็นหน้าเพื่อน ไม่ยืมเงินก็ชวนกันกินเหล้า นั่งนินทาว่าร้ายคนอื่น ไม่เว้นแม้แต่พระเดินบิณฑบาตผ่าน
เมื่อเพื่อนประสบความสำเร็จ
คนจีน : ดีใจกับเพื่อนที่ประสบความสำเร็จ
คนไทย (บางคน) : อิจฉา ริษยา หมั่นไส้ กลัวเพื่อนได้ดีกว่า
การส่งเสริมเพื่อนพ้องน้องพี่
คนจีน : พยายามอุดหนุนส่งเสริมพรรคพวกของตัวเองให้มากที่สุด ไม่อยากให้เงินทองรั่วไหลไปที่อื่น
คนไทย (บางคน) : ทำลายล้างพวกพ้องน้องพี่กันเอง ไม่อยากเห็นใครได้ดีกว่าตัวเองแม้จะเป็นพี่น้องกันก็ตาม เห็นคนอื่นขายถูกกว่าเพื่อนของตัวเองนิดเดียว ยอมสั่งกับคนอื่น เพราะกลัวเพื่อนได้ตังค์
นิสัยคนไทยแบบนี้ อย่าว่าแต่ในประเทศไทยเลยครับ คนไทยไปอยู่ต่างประเทศก็เหมือนกัน คนไทยจับกลุ่มกันที่ไหน แตกที่นั่น ที่อื่นของมีไซน่าทาวน์ ลาวทาวน์ แต่ไทยทาวน์แทบไม่มี มีก็เป็นไปตามข้างบน
หมายเหตุ เปรียบเทียบนิสัยคนไทยนี้ เขาว่าเป็นเครดิตของ สิริทัศน์ สมเสงี่ยม แต่ว่าผมทำการเปลี่ยนสำนวนเรียบเรียงใหม่ครับ