ในสมัยพระเวสสันดรปล่อยให้ให้พระนางมัทรีออกป่าหาอาหารมาเลี้ยงเป็นการเอาเปรียบผู้หญิงและหาความสุขบนเรี่ยวแรงของผู้หญิงใช่หรือไม่?
น่าสังเกตว่าในอดีตกาลไม่นานนักพระเวสสันดรเป็นภาพจำลองชีวิตของบุคคลที่ยึดมั่นในอุดมคติอันสูงส่ง ใครๆก็นิยมฟังเรื่องพระเวสสันดรกันและต้องการที่จะเลียนแบบพระองค์ จนเรื่องพระเวสสันดรชาดกกลายเป็นชาดกที่มีอิทธิพลในความรู้สึกนึกคิดของคนเป็นเวลานาน
ความรู้สึกในทำนองอคติต่อพระเวสสันดรในอดีตไม่มีปรากฏแพร่หลายอย่างปัจุจุบัน เมื่อคนจะพูดถึงพระเวสสันดรก็จะพูดด้วยความนิยมนับถือ แม้จะพูดในทำนองปฏิเสธก็จะพูดในกรณีที่ตนทำไม่ได้ เช่น มีคนมาขออะไรในสิ่งที่ตนไม่อาจให้ได้ เขาจะปฏิเสธว่า “ฉันไม่ใช่พระเวสสันดรนี่”
แต่ในปัจจุบันมีคนมองพระเวสสันดรไปในทำนองอคติมากขึ้น คำถาม การพูดถึง เขียนถึงพระเวสสันดรที่ออกมาในทางลบเพิ่มขึ้น
ทำไมจึงเกิดการเปลี่ยนไปเช่นนี้ ?
ข้อที่เป็นไปได้อย่างยิ่งคือ คนสมัยก่อนนั้นท่านเข้าใจ การกระทำของพระเวสสันดรว่าท่านทำด้วยเจตนาอย่างไร ทำเพื่ออะไร การทำเช่นนั้นคนสมัยนั้นสามารถทำได้ ในระดับหนึ่ง จึงมีแต่คนพยายามทำความดีให้ใกล้เคียงพระเวสสันดร คนในอดีตจึงมีความเห็นแก่ตัวน้อย
ปัจจุบันคนเห็นแก่ตัวมากขึ้น การตัดสินคนอื่นจึงใช้ความนึกคิดของตนเป็นฐาน การคัดค้านจึงเกิดขึ้นมาก
การพูดถึงในอดีต เราต้องยอมรับทุกอย่างที่เป็นอดีตด้วย การที่พระนางมัทรีหาอาหารมาถวายเราต้องมองจุดต่าง ๆ
๑.สังคมในสมัยนั้น งานอย่างนั้นเป็นงานของแม่บ้าน สามีมีหน้าที่หาทรัพย์
๒.พระเวสสันดรขณะนั้น เป็นฤาษี จึงเป็นสิ่งที่ผู้หวังบุญควรทำ
หากเหตุการณ์กลับกัน พระนางมัทรีอยู่อาศรม ให้พระเวสสันดรหาอาหาร ความดีงามของพระนางจะหาได้จากที่ไหนกัน