ช่วงนี้เริ่มเข้าหน้าฝนกันเต็มตัวแล้ว และการที่อากาศไม่ร้อนอบอ้าว ไม่มีแสงแดดส่องย่อมไม่เป็นปัญหาเลย แก้วใสชอบมากด้วยซ้ำกับการที่ไม่ต้องนั่งทำงานอบอ้าวจนเหงื่อไหลท่วม แต่พอฝนตกแก้วใสก็พบกับปัญหาใหม่ทันที นั่นก็คือยุงนั่นเองค่ะ ยุงบินก่อกวนรอบตัวแก้วใสทั้งกลางวันกลางคืน ราวกับมันเป็นเพื่อนสนิทอย่างไรอย่างนั้น หลังๆ มานี้ชักเพลินแล้วค่ะ นั่งทำงานไปตบยุงไป (แอบแม่นซะด้วย) หลังจากตบยุงตัวที่ 3 ตายคามือได้สำเร็จ (ไม่ได้เจตนาเลยนะคะจริงๆ มือไวใจเร็วค่ะ อิอิ ^^) ก็เลยมาเปิดหาวิธีไล่ยุงดู และพบว่ามีหลายวิธีอย่างมากที่เราสามารถป้องกันยุงกัดได้ด้วยวิธีที่ไม่ต้องพึ่งพาสารเคมีจนทำให้เราได้รับสารพิษสะสมภายในร่างกายไปด้วย วันนี้แก้วใสเลยไม่รอช้า เอาวิธีป้องกันยุงกัดมาฝากทุกคนเหมือนกันนะ มาดูกันเลยค่ะว่ามีอะไรบ้าง
1. ทาโลชั่นกันยุง
นี่คือสูตรตายตัวสำหรับสาวๆ ทุกคนเลยก็ว่าได้ สำหรับการทาโลชั่นกันยุง ซึ่งได้ผลสองเด้งทั้งการบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นและปกป้องยุงกัดในตัวพร้อมกัน แต่ก็มีข้อเสียตรงที่ว่าการทาโลชั่นนั้นจะสามารถป้องกันยุงกันได้นานเพียง 23 นาทีเท่านั้น ดังนั้น เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพในการป้องกันยุงอย่างได้ผล ก็ควรหมั่นทาซ้ำกันบ่อยครั้งค่ะ
2. เลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีกลิ่นหอม
นอกจากยุงจะดูดเลือดของเราแล้ว สาวๆ ทราบมั้ยคะว่ามันยังดูดกินอาหารจากเกสรดอกไม้ด้วย ดังนั้น จงพยายามหลีกเลี่ยงการทาผลิตภัณฑ์ที่ผสมน้ำหอมหรือมีกลิ่นหอมจากดอกไม้ เพราะนับว่าเป็นอาหารล่อใจยุงเป็นอย่างดี มิเช่นนั้น ก็ย่อมกลายเป็นเป้าหมายของยุงได้แน่นอน
3. กินอาหารไล่ยุง
ไม่เพียงแค่การโลชั่นกันยุงหรือการจุดยากันยุงเท่านั้นนะคะ ที่พอยุงได้กลิ่นแล้วจะบินหนีผิวเราไป แต่แก้วใสอยากบอกค่ะว่าสูตรเคล็ดลับที่ทำเอายุงได้กลิ่นจากตัวเราแล้วเป็นต้องรีบบินหนีโดยเร็วก็คือ การกินอาหารค่ะ นั่นก็คือกระเทียมและพริกไทยนั่นเอง อาหาร 2 ชนิดนี้ให้กลิ่นฉุนสำหรับยุงค่ะ เมื่อมันได้กลิ่นออกจากผิวหนังเราแล้ว มันจะไม่กล้าดูดเลือดเราแน่นอน นับว่าทั้งได้ประโยชน์ต่อสุขภาพและการปกป้องผิวจากยุงกัดได้ดีเยี่ยมทีเดียว สาวๆ ต้องหมั่นกินกันเป็นประจำแล้วนะคะ
4. หลีกเลี่ยงสถานที่ที่มียุง
บริเวณที่ยุงมักชุกชุมเราควรรีบพาตัวเองออกมาจากบริเวณนั้นๆ เช่น แอ่งน้ำขัง ท่อน้ำ บริเวณที่มืดและอับชื้น เป็นต้น และหากบริเวณรอบบ้านของเราเป็นเช่นนั้นก็ควรหาวิธีทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายด้วยการนำสารที่ฆ่าเชื้อลูกน้ำยุงลายได้มากใส่ อาจจะรับได้ที่อนามัยของหมู่บ้านเราก็ได้เช่นกัน
5. เปิดพัดลมไล่ยุง
เป็นวิธีที่ธรรมชาติอย่างมากๆ แถมยังทำให้เราได้รับอากาศสดชื่น เย็นสบายตัวอีกด้วย หากเพื่อนๆ นั่งทำงาน อ่านหนังสือหรือทำกิจกรรมต่างๆ แต่โดยรอบตัวเรามียุงบินผ่าน ก็สามารถป้องกันด้วยการเปิดพัดลมแรงๆ ใกล้ๆ ก็ได้เช่นกันค่ะ เพราะนักวิจัยได้ชี้แจงแล้วว่าแม้ว่ายุงจะบินได้ แต่มันก็ไม่ใช่นักบินที่ทรงตัวได้ดีนัก เมื่อมันเจอลมแรงๆ ก็ย่อมเซแล้วเลือกที่จะบินหนีไปทางอื่นที่ไม่มีลมมากกว่า
6. สวมเสื้อผ้าที่ช่วยปกปิดมิดชิด
เสื้อผ้าที่เราสวมใส่สามารถป้องกันยุงกัดได้ แต่ต้องเลือกเนื้อผ้าที่หนาๆ เสียหน่อย และควรคลุมได้ทั้งแขนยาว ขายาวในตัว โดยเฉพาะเวลาออกนอกสถานที่ที่มียุงมาก ทาโลชั่นกันยุงป้องกันไว้แล้วสวมเสื้อผ้าตามที่แนะนำนี้ รับรองป้องกันยุงได้อีกระดับแน่นอนจ้า
7. น้ำมันตะไคร้หอมช่วยได้
นอกจากการทาโลชั่นป้องกันยุงแล้ว แก้วใสทราบมาว่ายุงยังเกลียดกลิ่นตะไคร้และกลิ่นสะเดาอีกด้วยนะคะ ดังนั้น สาวๆ อาจจะลองหาซื้อน้ำมันเหล่านี้มาไว้ใช้ดูบ้างก็ดีไม่น้อยเช่นกัน อาจจะหยดแล้วผสมทากับโลชั่นของเราด้วยก็ได้ ทาตามจุดต่างๆ แล้วนวดวนให้ซึมซาบเข้าสู่ผิว เมื่อยุงบินผ่านมาใกล้แล้วได้กลิ่นมันจะเหม็นอ้วกแตกทันทีเลยค่ะ แต่เป็นกลิ่นที่ยุงเหม็นและเกลียด สำหรับคนเรานั้นมันกลายเป็นน้ำมันจากธรรมชาติที่หอมสดชื่นโดนใจแน่นอน ดังนั้น อย่าพลาดนำมาลองใช้กันบ้างนะคะ
เป็นอย่างไรกันบ้างเอ่ย กับ 7 วิธีป้องกันยุงกัดที่สามารถทำได้ง่ายๆ แบบไม่ต้องง้อหรือพึ่งพาสารเคมีใดเลย ปกติ หากบ้านเรามียุงมากๆ ก็มักจะต้องจุดยากันยุงหรือฉีดยากันยุงทิ้งไว้จริงมั้ยคะ แต่ปัญหาก็มักจะตามมามากมายนั่นก็คือ สารพิษสะสมกับอากาศทำให้เราสูดกลิ่นเข้าไปแล้ว มันก็จะเข้าไปสะสมอยู่ภายใน นานๆ ไปก็ส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันโรคเสื่อมลง ทำให้เราเจ็บป่วยกันได้ง่ายๆ นั่นเอง
ดังนั้นแล้ว เห็นทีคงต้องงัดเอาบรรดา 7 เคล็ดลับที่แก้วใสแนะนำไปใช้กันบ้างซะแล้ว รับรองเราจะไม่มีปัญหาสุขภาพตามมา ทั้งโรคไข้เลือดออก ทั้งอากาศคันของผิวหนังเนื่องจากมีตุ่มยุงกัด บางคนมีอาการน้ำเหลืองไม่ดีก็อาจจะเผลอเกาจนมีแผลไม่สวย ทำให้ผิวเสียเอาได้ด้วย เรียกว่าสารพัดปัญหาจากยุงกัดเหล่านี้ทำให้เราเครียดไปตามๆ กัน และยังต้องอาศัยระยะเวลานานกว่ารอยยุงกัดจะจางหายไป ถ้าเช่นนั้น แล้วอย่าลืมนำไปใช้กันเป็นประจำนะคะ เราจะได้มีผิวสวยเนียนใสทั่วเรือนร่างตลอดช่วงหน้าฝนนี้นั่นเอง