คำผูกแขน (ของเก่า)
ศรี ๆ สิทธิพระพรบวรวิเศษ ฝ่ายแก้วเกิดมุงคุณ ปุนลงมาตกแต่งกวัดอิ้วแกว่งกงหลา
ผัดออกมาเป็นหลอด ถอดออกมาเป็นปุ๋ย สุยออกมาเป็นเส้นเส้นแหละสีพันคำ
เป็นดังแก้วมุกดำใสส่องงามอ่องต่องส่องใส เทิงนอกในล้ำเลิศฝ้ายแก้วเกิดเมืองสวรรค์
ปันให้ผู้ข้ามาผูกแขน…..ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าไปมุดสระน้ำใหญ่กินปลาก็ให้มาสามื้อนี้วันนี้
ขวัญเจ้าไปอยู่นากินข้าว ก็ให้มาสามื้อนี้วันนี้
ขวัญเจ้าไปกินเหล้านำหมู่นำฝูง ก็ให้มาสามื้อนี้วันนี้……..มาเยอขวัญเอย
ขวัญเจ้าไปอยู่ถ้ำนำพญางู ก็ให้มาสามื้อนี้วันนี้
ขวัญเจ้าไปอยู่ฮูนำพญานาค ก็ให้มาสามื้อนี้วันนี้
ขวัญเจ้าไปลำบากนำหมู่ผีตายก็ให้มาสามื้อนี้วันนี้………มาเยอขวัญเอย
ยามเมื่อตาเว็นตกลับป่าแซง ยามเมื่อตาเว็นแดงลับป่าไม้
ขวัญเจ้าไปอยู่หนเหนือหรือใต้ ก็ให้ฮีบมาสามื้อนี้วันนี้
คันว่าเจ้ามาฮอดแล้วให้เจ้าอยู่สวัสดี มีความสุขความเจริญความเจ็บเจ้าอย่าได้ความไข้เจ้าอย่ามี
ให้เจ้าได้เป็นเศรษฐีเป็นมหาเศรษฐี มีอาย วรรณะ สุขะ พะละ ปฏิภาณ ธะนะสารสมบัติทุกประการ
นอนหลับได้เงินหมื่นตื่นขึ้นได้เงินแสนเงินล้าน ย่างออกจากบ้านโชคไหลหลั่งมาโฮม เจ้าเด้อ
อุ อะ มุ มะ มูลมา สะทาโสตถี ภะวันตุ เต
คำผูกแขน (ของใหม่)
ศรี ๆ ฝ้ายเส้นนี้เป็นฝ้ายที่ศักดิ์สิทธิ์
ผูกแขนแล้วสิมีฤทธิ์ฮูงเฮืองไปหน้า
อันหมู่โรคาไข่หวัดไอบ่มาผ่า
พบแต่ทางก้าวหน่าเจริญขึ่นบ่ถอย
เป็นผู้บ่าวส่ำน้อยห่าร้อยปีกะยังดีคือเก่า
บ่มีวันแก่เถ่าผู้สาวหุ่มฮักแพง
ความแข็งแรงคงหมั่นบ่มีวันแปรเปลี่ยน
จนเกษียณร้อยครั้งยังหนุ่มฟ้อหร่อดังฝัน
นอนหลับนั้นได้เงินพันเงินหมื่น
ตื่นขึ่นได้เงิน เงิน เงิน และทอง….เด้อ.
โอม อุ อะ มุ มะ มูลมา สะทาโสตถี ภะวันตุ เต (เป่ามือเจ้าภาพ) ….เพี้ยง!
ชีวิตต่อแต่นี้ให่มีตั้งแต่ความสุข
อันหมู่มวลความทุกข์ให่ห่างไกลพันลี้
โชคดีให่หลั่งเข่าโพยภัยให่ไกลห่าง
ได้พบทางก้าวเจริญขึ่นดังฝัน
ให่เจ้าสุขีหมั่นเสมอมันเคือเก่า
โชคลาภไหลหลั่งเข่าโฮมเจ้าสู่วัน
นอนหลับนั้นได้เงินพันเงินหมื่น
ตื่นขึ่นได้โชคพันล้านเป็นเศรษฐี เด้อ
โอม อุ อะ มุ มะ มูลมา สะทาโสตถี ภะวันตุ โน โหตุ สัพพะทา สาธุ..(เป่ามือเจ้าภาพ) เพี้ยง!
ขออำนาจแห่งที่ศักดิ์สิทธิ์
กับทั้งสิ่งทีมีฤทธิ์ในจักรวาลกว้าง
คุณพระไตรรัตน์แก้วแววไวใสสว่าง
จงส่องทางชีวิตให่สมใจเจ้าปรารถนา
การงานให่ก้าวหน่าโชคชะตาเฮืองฮุ่ง
เงินเดือนสูงปีละสามสี่ขั่น โชคพันล้านเป็นเศรษฐี เด้อ
โอม อุ อา กะ สะ สะทาโสตถี ภะวันตุ เต . (เป่ามือเจ้าภาพ)…เพี้ยง
ขณะที่พราหมณ์ผูกแขนเจ้าภาพ ให้คนที่อยู่ใกล้ใช้มือซ้ายแตะข้อศอกเจ้าภาพ มือขวายกพนมไว้ที่หน้าอก คนอื่นก็ทำต่อ ๆกันไป หลังจากผูกแขนเจ้าภาพเสร็จ ให้ผู้มาร่วมพิธีผูกแขนคณะเจ้าภาพบ้าง ส่วนพราหมณ์ทำหน้าที่เดินประพรมน้ำมนต์ให้เจ้าภาพและผู้มาร่วมงานพร้อมกล่าวพระคาถามารวิชัย ว่า…..
ชะยันโต โพธิยามูเล สักกะยานัง นันทิวัฒทะโน เอวัง ตะวัง วิชะโย โหหิ ชะยัสสุ ชะยะมังคะเล
อะปะราชิตะปัลลังเก สีเส ปะฐะวิโปกขะเร อภิเสเก สัพพะพุทธานัง อัคคัปปัตโต ปะโมทะติ สุนักขัตตัง สุมังคะลัง สุปะภาตัง สุหุฎฐิตัง สุขะโน สุมุหุตโต จะ สุยิฏฐัง พรัหมมะ จารีสุ ปะทักขินัง กายะกัมมัง
วาจากัมมัง มะโนกัมมัง ปะณิที เต ปะทักขิณา ปะทักขิณานิ กัตตะวานะ ละภันตัตเถ ปะทักขิเณ.
คำผูกแขน คำสำหรับกล่าวผูกแขน คำอวยพร ให้พรเวลาผูกแขนนี้ ผม (พระคุ้มครอง) ไม่ได้เขียนเองนะครับ ที่มาตามลิงค์นี้ คำผูกแขน ไม่ทราบว่าครูอาจารย์หรือนักปราชญ์ท่านใดได้ประพันธ์ไว้ ผมเห็นเข้าโดยบังเอิญจึงขอนำมาลงไว้ ณ ที่นี้
เนื่องจาก ผมติดต่อเจ้าของผลงานไม่ได้ ผมจึงขอกล่าวคำขออนุญาตสำหรับการเผยแพร่ และขอบคุณ ณ โอกาสนี้ด้วย
สำหรับประเพณีการผูกแขนนั้น อยู่คู่คนไทยเกือบทุกภาค โดยเฉพาะภาคอีสานและภาคเหนือ จะมีพิธีผูกแขน รับขวัญในโอกาสต่าง ๆ เช่น ผูกแขนแต่งงาน ผูกแขนขึ้นบ้านใหม่ ผูกแขนสู่ขวัญ ผูกแขนรับขวัญ ผูกแขนหลังงานศพ ผูกแขนเมื่อญาติที่ไม่ได้เจอกันนานแล้วมาพบเจอกัน ผูกแขนให้กับญาติที่จะเดินทางไปต่างถิ่น ผูกแขนงานกฐิน ผ้าป่า
ผมเชื่อว่า คำผูกแขนเหล่านี้ จะเป็นประโยชน์อย่างมากครับ