
หากกล่าวถึงชาละวัน หลายคนอาจจะนึกถึงจระเข้ขนาดใหญ่ผู้เป็นตำนานแห่งลำน้ำน่านเก่าก่อนที่จะเกิดเมืองพิจิตรในปัจจุบัน ซึ่งก็ได้มีตำนานของจระเข้ชาละวันที่ถูกเล่าจากรุ่นสู่รุ่น และเราก็จะกล่าวถึงตำนานเรื่องราวในอดีตของความสยดสยองในวีกรรมของจระเข้ที่ทำให้ชาวบ้านหวาดกลัวมาช้านาน ซึ่งตามตำนานได้เล่าขานกันไว้ดังนี้
ตำนานจากสองตายายที่เก็บไข่จระเข้มาเลี้ยง
ตามตำนานเล่าว่า มีตายายคู่หนึ่งได้ออกไปหาปลาตามปกติเพื่อนำมากินมาขายเพื่อประทังชีวิต แต่วันหนึ่งเกิดพบกับไข่จระเข้ที่ริมน้ำ จึงเก็บมาฟักเลี้ยงดูไว้ในสระใกล้ ๆ กับกระท่อม สองตายายรักและเอ็นดูเจ้าจระเข้น้อยเหมือนลูกในไส้ ในแต่ละวันออกหาปลามาเพื่อฟูมฟักจระเข้ กระทั่งมันเติบใหญ่ปลาที่สองตายายหามาไม่ทำให้อิ่มท้อง จึงกินตายายเข้าไปเป็นอาหาร นานวันเข้าเมื่อขาดคนเลี้ยงดู เจ้าจระเข้ก็คลานออกจากสระเพื่อไปยังแม่น้ำน่านเก่าออกล่าหาอาหาร เมื่อได้ลิ้มรสมนุษย์แล้วตามสัญชาตญาณของสัตว์เดรัจฉานจะมีความดุร้ายมากขึ้น มันจึงเที่ยวกัดกินคนไปทั่วทั้งในน้ำและบนบกจนชาวบ้านในละแวกนั้นต่างกลัวขยาดไม่กล้าออกจากบ้าน เนื่องจากจระเข้ตัวนี้ได้เที่ยวเสาะหาคนมากินไม่เว้นแต่ละวัน ชาวบ้านจึงตั้งชื่อให้ว่าไอ้ตาละวัน และเพี้ยนมาเป็น “ไอ้ชาละวัน” อย่างที่เรียกกันในปัจจุบัน

ตำนานจากนิทานพื้นบ้านเรื่องไกรทอง
อีกหนึ่งตำนานที่ทำให้คนในยุคปัจจุบันรู้จักชาละวันก็คือ ตำนานนิทานพื้นบ้านเรื่องไกรทอง ที่ได้ถูกนำไปเป็นบทละครพระราชนิพนธ์ในสมัยรัชกาลที่ 2 ซึ่งในภายหลังได้รับการยกย่องให้เป็นฉบับมาตรฐานฉบับหนึ่ง เรื่องมีอยู่ว่าชาละวันเป็นจระเข้ยักษ์ที่อาศัยอยู่ในถ้ำทองอันเป็นที่อยู่ของเหล่าบริวารจระเข้ ซึ่งชาละวันสามารถแปลงร่างเป็นคนได้ ด้วยความเป็นหนุ่มรูปงามจึงมีเมียถึง 2 คนคือ วิมาลาและเลื่อมลายวรรณ ซึ่งเป็นจระเข้ด้วยกันทั้งคู่ แม้ชาละวันจะไม่กินเนื้อมนุษณ์เพราะอิ่มทิพย์ แต่ก็มีนิสัยอันธพาลชอบขึ้นมาบนบกเพื่อจับชาวบ้านและสัตว์มากัดเล่นเพื่อความบันเทิง
ในแขวงเมืองพิจิตรที่หมูบ้านดงเศรษฐี มีพี่น้องฝาแฝดซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความงามคือ ตะเภาแก้วและตะเภาทอง ทั้งสองคนเป็นบุตรของเศรษฐีคำกับคุณนายทองมา ฝาแฝดทั้งสองชอบไปว่ายน้ำเล่น ชาละวันมาเห็นเข้าก็เกิดต้องใจในความงาม จึงเลือกพาตะเภาทองมายังถ้ำทองเพื่อจะเอามาทำเมีย ฟากเศรษฐีดำและคุณนางทองมาโศกเสียใจเป็นอย่างมากที่ลูกสาวคนเล็กถูกชาละวันคาบไป และคิดว่าคงตายแล้วแน่ ๆ จึงติดประกาศหาผู้กล้ามางมศพลูกสาว
แต่ก็ไม่มีหมอจระเข้คนไหนที่สามารถเอาชนะชาละวันได้ จนกระทั่งไกรทองมาเห็นประกาศเข้า จึงเสนอตัวเพราะร่ำเรียนวิชาการปราบจระเข้มาจากอาจารย์คงจนมีวิชาแก่กล้า ไกรทองใช้เทียนระเบิดน้ำแหวกทางลงไปยังถ้ำทองได้สำเร็จ ซึ่งก็ได้พบกับวิมาลาด้วยความเจ้าชู้จึงเกี้ยวพาราสีจนนางใจอ่อนยอมบอกที่ซ่อนของตะเภาทองให้ทราบ จนกระทั่งไกรทองได้เจอกับชาละวัน ทั้งสองได้ต่อสู้กันท้ายที่สุดไกรทองเป็นผู้ชนะ สามารถพาตะเภาทองกลับมาได้สำเร็จ และนี่ก็คือ สองตำนานความเป็นมาของจระเข้นามว่าชาละวันที่ได้กล่าวขานกันไว้ทั้งจากตำนานของตายายที่เก็บไข่จระเข้มาเลี้ยงจนฟักตัวออกมาเป็นจระเข้ที่กระหายหิวเนื้อมนุษย์ และนิทานพื้นบ้านเรื่องไกรทองที่หลายคนอาจจะพอรู้จักกันมาแล้วบ้างไม่มากก็น้อย
ภาพประกอบจาก..
wikimedia.org โดย Grossbildjaeger
pixabay.com โดย zuelligmarkus